พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 44 พระเจ้าสัตตุตาปราชา


[ 31 ธ.ค. 2553 ] - [ 18302 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.2553
ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 44 พระเจ้าสัตตุตาปราชา
 
 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 44 "พระเจ้าสัตตุตาปราชา"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ทุกๆคนอาจจะสงสัยกันว่า พระศรีอริยเมตไตรย์สามารถช้อนร่างของพระมหากัสสปะไว้บนฝ่าพระหัตถ์ของพระองค์ได้อย่างไร ถ้าทุกคนยังจำกันได้ ในตอนที่กล่าวถึงพระสรีระของพระศรีอริยเมตไตรย์ เราจะเห็นว่าพระพุทธองค์ทรงมีพระสรีระที่สูงถึง 88-ศอก หรือ 44-เมตร ซึ่งสูงกว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก ดังนั้น ฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธองค์จึงมีขนาดที่ใหญ่ตามสัดส่วนของพระสรีระด้วยเช่นกัน ส่วนพระมหากัสสปะนั้น ท่านมาบังเกิดในยุคที่มนุษย์มีอายุเพียง 100-ปี ถ้าเทียบรูปร่างของท่านกับมนุษย์ในสมัยปัจจุบันนี้ ท่านจะมีความสูงประมาณฝรั่งร่างใหญ่ๆ
 
เทียบสัดส่วน พระมหากัสสปะ กับมนุษย์ในยุคปัจจุบัน
 
        เพราะฉะนั้น เมื่อเทียบโดยสัดส่วนของพระศรีอริยเมตไตรย์กับพระมหากัสสปะเช่นนี้แล้ว การที่พระพุทธองค์ทรงช้อนร่างของพระมหากัสสปเถระไว้บนฝ่าพระหัตถ์ได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย
 
เมื่อเทียบสัดส่วนกับพระศรีอริยเมตไตรย์แล้ว พระมหากัสสปะจึงอยู่บนฝ่าพระหัตถ์ของพระพุทธองค์ได้
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้พระศรีอริยเมตไตรย์ ต้องมาสลายร่างพระมหากัสสปะด้วยพระองค์เอง ทั้งนี้เป็นเพราะพระพุทธองค์และพระมหากัสสปเถระ ได้มีบุพกรรมที่เคยกระทำร่วมกันมาก่อนในอดีต เรื่องก็มีอยู่ว่า...ในสมัยที่พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า เสวยพระชาติเป็น “พระเจ้าสัตตุตาปราชา”-พระองค์ทรงเป็นพระราชาที่โปรดปรานช้างเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทรงชอบสะสมช้างที่มีลักษณะดีเอาไว้อีกด้วย
 
พระเจ้าสัตตุตาปะทรงโปรดปรานช้างเป็นอย่างมาก
 
        จนกระทั่งอยู่มาวันหนึ่ง พระเจ้าสัตตุตาปราชาได้ทรงทราบข่าวว่า...มีคนพบเจอช้างเผือกที่มีลักษณะดีอยู่ในป่า เมื่อพระเจ้าสัตตุตาปะได้ทรงสดับเรื่องราวและลักษณะของช้างเผือกตัวประเสริฐนั้นแล้ว พระเจ้าสัตตุตาปะทรงรู้สึกดีพระทัยเป็นยิ่งนัก ดังนั้น พระองค์จึงไม่รอช้ารีบเสด็จออกจากปราสาทเพื่อไปจับช้างตัวนั้นมาทันที
 
หมายเหตุ: สำหรับช้างหลวงจะใช้สรรพนามว่า “ช้าง” ส่วนช้างบ้านจะใช้สรรพนามว่า “เชือก” ส่วนช้างป่าจะใช้สรรพนามว่า “ตัว”
 
 พระเจ้าสัตตุตาปะทรงได้ทราบว่ามีผู้พบช้างเผือกลักษณะดี
 
        ครั้นพระเจ้าสัตตุตาปะทรงจับช้างเผือกตัวนั้นมาได้แล้ว พระองค์ก็ทรงรับสั่งให้นายหัตถาจารย์เป็นผู้ดูแลและฝึกช้างเผือกตัวนั้น เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงนำช้างเผือกตัวนี้มาเป็นช้างมงคลพระที่นั่งในงานมหรสพที่จะมีขึ้นในอีกเจ็ดวันข้างหน้า
 
 พระเจ้าสัตตุตาปะทรงรับสั่งให้นายหัตถาจารย์ ฝึกช้างเผือกที่จับมาได้
 
        เมื่อถึงกำหนดวันงานมหรสพ พระเจ้าสัตตุตาปะก็ทรงประทับช้างมงคลพระที่นั่ง (ซึ่งก็คือช้างเผือกที่พระองค์ทรงจับมา)-ออกว่าราชการ และเสด็จเที่ยวรอบเมืองเป็นที่สำราญพระราชหฤทัยยิ่งนัก จากนั้น พระองค์ก็ทรงเสด็จเลียบเลาะไปตามหนทาง เพื่อเข้าสู่เขตพระราชอุทยานอันงดงามและร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้นานาชนิด
 
 เมื่อถึงวันงานมหรสพ พระเจ้าสัตตุตาปะทรงประทับบนหลังช้างมงคลพระที่นั่ง เสด็จเที่ยวไปรอบเมือง
 
        ด้วยความที่ค่ำคืนที่ผ่านมานั้น ได้มีช้างป่าโขลงใหญ่พากันบุกตะลุยเข้ามาหาอาหารภายในเขตพระราชอุทยาน จนส่งผลทำให้ต้นไม้ภายในเขตพระราชอุทยานจำนวนหลายต้นเกิดความเสียหายเป็นอย่างมาก ซ้ำช้างป่าบางตัวยังถ่ายมูลทิ้งไว้เกลื่อนกลาดเปรอะเปื้อนเต็มไปหมด
 
 ฝูงช้างป่าได้เข้ามาหาอาหารในพระราชอุทยาน
 
        ครั้นพระเจ้าสัตตุตาปะทรงช้างมงคลพระที่นั่ง ผ่านเข้ามาภายในเขตพระราชอุทยานแล้ว ทันใดนั้นเอง ช้างมงคลพระที่นั่งก็พลันได้กลิ่นมูตรและคูถของนางช้างพังตัวเมียซึ่งยังสดใหม่
 
 ช้างมงคลพระที่นั่งของพระเจ้าสัตตุตาปะ ได้กลิ่นมูตรและคูถของนางช้างพัง
 
        ซึ่งกลิ่นสาบสางอ่อนๆของนางช้างตัวเมียนั้น ถือว่า...มีอำนาจเหลือคณาราวกับพายุที่โหมกระพือให้ไฟแห่งกามราคะ เผาผลาญดวงใจของช้างมงคลพระที่นั่ง ให้เกิดความกระสันซ่านทรวงและบีบเค้นบังคับให้ช้างมงคลพระที่นั่งถึงกับต้องหยุดเยื้องย่าง แล้วหันมาสูดหาแต่กลิ่นของนางช้างพังตัวนั้น
 
 ไฟแห่งกามราคะเผาผลาญดวงใจของช้างมงคลพระที่นั่ง ของพระเจ้าสัตตุตาปะ
 
        เมื่ออำนาจแห่งกามราคะท่วมท้นจนสุดที่จะระงับไว้ได้ จึงทำให้ช้างมงคลพระที่นั่งเกิดอาการคลุ้มคลั่งหรือพูดภาษาบ้านๆว่า “ตกมัน” (หรืออาการที่ช้างกำลังมีความต้องการทางเพศอย่างเต็มที่ ถ้าเป็นมนุษย์ก็คือ...อาการปวดกามนั่นเอง)-จากนั้น ช้างมงคลพระที่นั่งก็ได้สะบัดกายจนทำให้นายหัตถาจารย์พลัดตกลงมาจากหลังช้าง เหลือก็แต่เพียงพระเจ้าสัตตุตาปะเท่านั้นที่ยังทรงประทับค้างอยู่บนหลังของมัน
 
 ช้างมงคลพระที่นั่งของพระเจ้าสัตตุตาปะสะบัดกายด้วยอาการตกมัน จนนายหัตถาจารย์ตกจากหลังช้าง
 
        แม้ในขณะนั้น พระเจ้าสัตตุตาปะจะทรงตกพระทัยเพียงใด แต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังทรงครองพระสติเอาไว้ได้ โดยพระองค์ทรงใช้ขอเกี่ยวเหนี่ยวรั้งมิให้พระองค์ตกจากหลังของช้างมงคลนั้น
 
พระเจ้าสัตตุตาปะทรงใช้ขอเกี่ยวเหนี่ยวรั้งพระองค์ไว้ ไม่ให้ตกจากหลังช้าง
 
        ฝ่ายช้างมงคลพระที่นั่งที่กำลังตกมันอย่างสุดขีด ก็พลันส่งเสียงร้องกึกก้องไปทั่วพระราชอุทยาน พร้อมกันนั้นก็ได้วิ่งถลาทำลายกำแพงของพระราชอุทยาน แล้ววิ่งเตลิดตามกลิ่นของนางช้างตัวเมียเข้าไปในป่าอย่างไม่ลดละ
 
 
ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 44



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง...สุคติเป็นที่ไปเมื่อจิตผ่องใสไม่เศร้าหมอง...สุคติเป็นที่ไป

ยิ่งนิ่ง ยิ่งหยุด ยิ่งพบความสุขภายในยิ่งนิ่ง ยิ่งหยุด ยิ่งพบความสุขภายใน

อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ผู้ยังความสำเร็จงานพระศาสนาอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ผู้ยังความสำเร็จงานพระศาสนา



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน