กระผม ไมเคิล เวลทัน (Michael-Welton)-จากเมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลียครับ กระผมเป็นคนชอบผจญภัย จึงทดสอบความกล้าหาญของตนเองด้วยการสมัครเป็นหน่วยพลร่ม ประจำกองทัพของสหราชอาณาจักร (ประเทศอังกฤษ)-ชีวิตกระผมดำเนินไปทุกวัน พร้อมๆกับคำถามที่อยู่ในใจ ซึ่งกระผมเป็นคนหนึ่งที่พยายามค้นหาสัจธรรมของชีวิตอยู่เสมอ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบที่ใช่สักครั้ง กระผมทำงานในกองทัพอยู่หกปีจึงลาออก และไปทำงานตามที่ต่างๆอีกหลายแห่ง แล้วกระผมก็ได้พบกับพระพุทธศาสนา

 

        กระผมได้ฝึกนั่งสมาธิแบบนำใจมาไว้ภายในตัว กับพระสงฆ์ในประเทศศรีลังกา และเริ่มศึกษาเรื่องราวในพระพุทธศาสนา รวมทั้งประวัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า กระผมชอบที่พระพุทธองค์สอนว่า...จงอย่าเชื่อเพราะตถาคตได้กล่าวไว้ และอย่าเชื่อเพราะว่ามีบันทึกไว้ในตำราหรือคัมภีร์ แต่ให้ปฏิบัติด้วยตนเอง

 

 

 

        พระพุทธศาสนาไม่เคยสอนให้เชื่อแบบหลงงมงาย คำสอนทุกคำ ล้วนสามารถพิสูจน์ได้ ไม่ว่าใครก็พิสูจน์ได้ และกระผมเองก็ค่อยๆพิสูจน์ จนพบว่าหนทางนี้แหละใช่เลย กระผมฝึกสมาธิ และนำคำสอนในพระพุทธศาสนามาเป็นหลักปฏิบัติ เป็นที่พึ่งที่ระลึกของกระผมทุกวัน สำหรับกระผม...สิ่งอื่นที่จะเทียบเท่าหรือยิ่งไปกว่านี้ไม่มีอีกแล้วครับ

 

        ปัจจุบัน กระผมเป็นคณะกรรมการของสหพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศออสเตรเลีย โดยมีพระครูปลัดนายกวรวัฒน์ (สุธรรม สุธัมโม)-เป็นประธาน และท่านเป็นกัลยาณมิตรชักนำให้กระผมได้รู้จักกับวัดพระธรรมกาย ประเทศไทย กระผมมาที่วัดพระธรรมกายครั้งแรกประมาณปี พ.ศ.2549-ในสายตาของกระผม วัดพระธรรมกายเป็นสถานที่ที่น่าทึ่ง เต็มไปด้วยมิตรภาพที่อบอุ่น การได้เห็นผู้คนมาสวดมนต์ ไหว้พระ นั่งสมาธิ ด้วยความเป็นระบบระเบียบ เป็นภาพที่มหัศจรรย์ และทำให้กระผมมีความสุขเป็นอย่างมากครับ ยิ่งได้รู้จักหลวงพ่อ กระผมก็มีความประทับใจในความใสสว่าง หลวงพ่อเป็นภิกษุที่มีความสงบ และความสงบนี้ก็ดูเหมือนจะแผ่มายังผู้อื่นด้วย ราวกับว่าหลวงพ่อสามารถส่งประกายรัศมีออกมาได้ กระผมระลึกเสมอว่า...หลวงพ่อเป็นพระอาจารย์ของกระผม และกระผมปรารถนาเป็นอย่างยิ่งที่จะได้สร้างบารมีกับหลวงพ่อ ทั้งในชาตินี้และชาติต่อๆไปครับ

 

        กระผมคิดว่า...สันติภาพโลกที่ดูจะห่างไกลนั้น ก็เหมือนกับการเดินทาง 1,000-ไมล์ ที่เราจะไปถึงจุดหมายได้ ด้วยการเริ่มต้นที่ก้าวแรก สันติภาพที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ก็ต้องเริ่มต้นที่ตัวเราก่อน หากเราพบกับสันติสุขภายในเมื่อไหร่ เราก็จะสามารถเป็นแบบอย่างให้กับผู้อื่นได้ ซึ่งโครงการ MMC-ก็เป็นก้าวแรกที่สำคัญ ที่จะนำเราทุกคนไปสู่การกำเนิดสันติภาพโลก MMC-จึงเป็นโครงการที่น่าตื่นเต้น กระผมมั่นใจว่าพวกเราต้องทำได้ ซึ่งกระผมจะขอใช้เวลาที่เหลืออยู่ในชีวิต อุทิศตนช่วยงานหลวงพ่อ เพื่อขยายสันติภาพไปทั่วโลก ขอบคุณที่ให้โอกาสกระผม ซึ่งกระผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มาทำหน้าที่ที่สำคัญนี้ครับ

 

กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง