เพื่อนผมเปลี่ยนไป

CASE STUDY

เพื่อนผมเปลี่ยนไป

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง

ผม เกิดที่เมืองดอกคูนเสียงแคน จังหวัดขอนแก่น เป็นลูกคนสุดท้องในจำนวนพี่น้องชายล้วน 3 คน ผมเป็นวัยรุ่นคนหนึ่งที่เคยผ่านประสบการณ์ชีวิตเหลวไหล ชีวิตช้ำช้ำ ที่นึกย้อนหลังแล้วก็ไม่ปีติใจเลย ผมอยากจะบอกทุกคนจากใจจริงว่า ชีวิตของผมที่ผ่านมา คงไม่เป็นเช่นนี้ ถ้าหากว่า...โลกนี้ไม่มีน้ำเมา

ผมจบอนุบาลจากโรงเรียนเอกชนของคริสต์ แล้วเข้าเรียนต่อในโรงเรียนรัฐบาลจนจบมัธยมต้น จากนั้นชีวิตก็เริ่มก้าวเข้าสู่โลกของเด็กช่างกล ซึ่งใครๆ ต่างก็รู้ดีว่า สิ่งแวดล้อมของเด็กช่างกลย่อมหนีไม่พ้นเรื่องอบายมุข สุรา นารี การพนัน ต่อยตี ชนิดเต็มพิกัด ผมเข้าเรียนภาคบ่ายไปจนถึง 2 ทุ่ม จากนั้นชีวิตก็ท่องไปในโลกราตรี ไปสิ้นสุดราวตีสามของทุกวัน จนแทบไม่มีวันไหนเลยที่จะกลับถึงบ้านก่อนเที่ยงคืน พอกลับถึงห้องนอนได้เท่านั้น ผมก็หมดสติหลับเป็นตาย ไปตื่นอีกทีก็เกือบเที่ยงวัน ตื่นพร้อมกับอาการเมาค้าง ยังไม่สร่างดี บ่อยครั้งที่ผมพบว่า ตัวเองตื่นขึ้นมาบนกองอ้วก ซึ่งเป็นผลจากฤทธิ์น้ำเมาที่กระดกไปตั้งแต่เมื่อคืน แต่ไม่ว่าจะตื่นมาในสภาพย่ำแย่ขนาดไหน สุดท้ายผมก็ต้องตะเกียกตะกายไปเรียนหนังสือให้ได้ เพราะผมไม่อยากให้แม่เสียใจครับ

หลังจากเรียนจบ ปวส. แล้ว ผมก็เข้ามาเรียนต่อวิศวะที่กรุงเทพฯ เป็นนักศึกษาภาคบ่ายเช่นเคย ที่นี่เอง ทำให้ผมได้รู้จักรุ่นพี่ช่างกลคอทองแดงจากโรงเรียนเก่า แล้วก็ยังมีเพื่อนสนิทคอเดียวกันอีกคนหนึ่งคือ “ตุ๊ดตู่” เจ้าของบทเพลงคิดดีแล้วหรือ ที่ใครๆก็ต่างรู้จัก เราเป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ปวส. พวกผมมาเช่าหอพักอยู่ด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน จะเรียกว่ารวมก๊วนคอเหล้าก็ว่าได้ ช่วงนั้นผมขอเงินแม่คราวละมากๆ โดยที่แม่ก็ไม่เคยรู้เลยว่าผมเอาไปซื้อเหล้า ผมอ้างกับแม่ว่าจะต้องซื้อหนังสือเรียน อ้างโน่นอ้างนี่สารพัดอย่าง แต่เอาเข้าจริงๆ ก็หมดไปกับเหล้าเบียร์ เพราะดื่มกันไม่เว้นแต่ละวัน จนขวดเบียร์กองเกลื่อนเต็มใต้บันไดหอ ต้องขอร้องเพื่อนให้ช่วยขนไปที่ร้านขายของเก่า เพื่อจะได้มีที่ว่างให้ขวดชุดใหม่ลำเลียงเข้ามาเพิ่มอีก แต่แล้ววันหนึ่ง ใครเลยจะเชื่อว่า...ตุ๊ดตู่ เพื่อนผมจะเปลี่ยนไป

ก่อนนั้นผมก็พอจะทราบเลาๆว่า ตุ๊ดตู่เพิ่งกลับมาจากการอบรมค่ายผู้นำของชมรมพุทธศาสตร์สากลฯ หลังจากกลับมา ผมก็สังเกตว่าตุ๊ดตู่เริ่มปลีกตัวออกจากเพื่อนวงเหล้า ผมเก็บความสงสัยไว้หลายวัน แต่ก็ยังไม่ได้โอกาสถามสักที แล้ววันหนึ่งโอกาสนั้นก็มาถึง วันนั้นผมและสหายหอชายโสด ก็ตั้งวงดื่มเหล้าเฮฮาปาร์ตี้กันตามเคย สักพักผมก็หลบมุมขึ้นไปสูดอากาศบริสุทธิ์บนระเบียงชั้น 2 กะว่าพอสดชื่นแล้วค่อยลงไปกระดกต่ออีกสักแก้ว ขณะนั้นตุ๊ดตู่ก็กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่พอดี ผมทำท่าจะทักก่อน แต่ตุ๊ดตู่กลับพูดสวนขึ้นมาประโยคหนึ่งที่ทำให้ผมได้คิด นั่นคือ เขาเอ่ยปากชวนผมมาเป็น Supervisor ความหวังดีของตุ๊ดตู่ทำให้ผมได้สติกลับคืนมา คงเป็นเพราะผมถึงคราวจะหมดกรรม ก็เลยทำให้ผมได้คิดและก็คิดได้ เกิดความสำนึกขึ้นมาว่า “ชีวิตที่ผ่านมา มันช่างไร้สาระสิ้นดี ผมควรจะได้ทำอะไรที่ดีกว่านี้” แล้วผมก็ตอบตกลง

นับจากวันนั้นมา ชีวิตของผมก็เปลี่ยนไปเพราะได้แรงบันดาลใจจากตุ๊ดตู่ ผมเริ่มเข้าวัดและตั้งใจว่าจะเลิกข้องเกี่ยวกับอบายมุขเหล้าเบียร์บุหรี่ทุกอย่าง แล้วในที่สุดผมก็ทำได้สำเร็จครับ พอปิดเทอมภาคฤดูร้อน ผม ตุ๊ดตู่และรุ่นพี่ อดีตสามเกลอคอทองแดง จึงพร้อมใจกอดคอกันมาบวชธรรมทายาทรุ่นที่ 31 ที่วัดพระธรรมกาย นอกจากที่นี่จะสอนให้พวกผมได้รู้จักเป้าหมายชีวิตแล้ว ยังปลูกฝังให้ผมรักเพศนักบวช ซึ่งเป็นชีวิตที่เรียบง่ายที่สุด แต่ทว่ามีจุดหมายที่สูงส่งคือพระนิพพาน ทุกครั้งที่ได้ห่มครองผ้าสีสุดท้าย ผมจะรู้สึกสงบเย็นจนไม่อาจหาสิ่งใดมาเทียบได้

เมื่อจบโครงการอบรมธรรมทายาท ผมจึงไม่ลังเลใจที่จะบวชอยู่ต่อ แต่ตุ๊ดตู่น่ะสิครับ จำใจต้องลาสิกขาไปทั้งน้ำตา ผมเห็นตุ๊ดตู่ซักจีวรไปน้ำตาก็ไหลไป ผมยิ่งรู้สึกสะท้อนใจเพราะรู้ว่าใจจริงตุ๊ดตู่อยากจะบวชอยู่ต่อมาก แต่เพราะติดปัญหาทางบ้านจึงจำต้องลาไปเรียนต่อ ส่วนรุ่นพี่ที่มาบวชด้วยกัน ทางบ้านก็มารบเร้าให้กลับไปเรียนต่อครั้งแล้วครั้งเล่า จนเกือบจะใจอ่อน แต่ก็อาศัยว่าได้กัลยาณมิตรดี ในที่สุดก็เลยปักใจมั่นว่าจะบวชอยู่สร้างบารมีกับคุณครูไม่ใหญ่ไปจนตลอดชีวิต ในที่สุดจึงเหลือเพียงผมและรุ่นพี่รูปนี้ที่ยังคงบวชต่อมาจนถึงปัจจุบัน

โยมพ่อโยมแม่ พี่ๆ และแม้แต่เพื่อนที่หอพักพยายามชวนให้ผมลาสิกขาอยู่หลายครั้ง แต่ผมก็ยืนยันว่ายังไม่อยากลาสิกขา โยมพ่อโยมแม่ถึงขนาดนิมนต์พระสามรูปจากวัดแถวบ้านที่คุ้นเคยกัน มาช่วยพูดให้ผมลาสิกขา แต่ในที่สุด เมื่อผมยืนยันว่าจะบวชต่อไป โยมพ่อโยมแม่ก็จนใจ แล้วต่อมา ผมก็ได้ทำหน้าที่กัลยาณมิตรให้กับโยมพ่อโยมแม่จนท่านเริ่มเข้าใจและได้อนุโมทนาในการบวชของผม ทุกวันนี้โยมพ่อกลายเป็นกำลังสำคัญของศูนย์กัลยาณมิตร จังหวัดขอนแก่น และยังทำหน้าที่ขยายจานดาวธรรมได้เกือบ ๑๐๐ จานแล้วครับ ปัจจุบันท่านทั้งสองทุ่มเทสร้างบารมีอย่างเต็มที่เต็มกำลัง และตั้งใจจะติดตามคุณครูไม่ใหญ่ไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วยครับ

โยมตาของผม แต่เดิมเป็นหมอประจำตำบล ต่อมาเปลี่ยนมาค้าวัวค้าควายจนกลายเป็นเศรษฐีประจำหมู่บ้าน โยมตาเป็นคนกว้างขวางในย่านนั้น มีที่ดินกว่า ๑๐๐ ไร่ แต่ด้วยภาระหนี้สินที่ต้องส่งเสียลูกให้เรียนสูงๆ โยมตาจึงจำเป็นต้องนำที่ดินไปจำนองบ้าง ขายฝากบ้าง โดยคิดว่าจะไถ่ถอนคืนได้ในภายหลัง แต่แล้วโยมตาก็หมุนเงินไม่ทัน ในที่สุดที่ดินทั้งหมด จึงตกเป็นของนายทุน ไม่เหลือเลยแม้แต่แปลงเดียว

โยมตา ชอบเล่นการพนันเป็นชีวิตจิตใจ ทั้งพนันมวยและเล่นโบก (โบกเป็นเกมพนันที่นิยมกันมากในแถบอีสาน โดยผู้เล่นจะครอบเม็ดมะขามผ่าซีก 2 เม็ดด้วยกะลาหรือกระบอก แล้วแทงกันว่าเม็ดมะขามที่คว่ำและหงายจะออกคู่หรือคี่) ไม่ใช่แค่นั้นครับ โยมตายังชอบดื่มเหล้าและสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจ สิบปีก่อนโยมตาเสียชีวิต ท่านดื่มหนักถึงขั้นเป็นแอลกอฮอล์ลิซึ่มกลายเป็นคนที่ขาดเหล้าไม่ได้เลย เรียกว่าตื่นขึ้นมาทีไร เป็นต้องดื่มเหล้าก่อนทุกครั้ง และเพราะพิษของน้ำเมา โยมตาก็เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งหลอดอาหารระยะสุดท้าย เมื่ออายุได้ 73 ปี

โยมปู่ รับราชการครู ต้องไปสอนตามชนบทต่างอำเภอ เพราะความเจ้าชู้จึงแอบไปมีบ้านเล็กบ้านน้อยโดยที่โยมย่าก็ไม่เคยรู้มาก่อน โยมปู่ลาออกก่อนเกษียณอายุราชการ 2 ปี ได้เงินบำเหน็จมาก้อนหนึ่งจึงนำไปซื้อรถเก๋งให้เขาเช่า ต่อมาคนขับรถที่มาขอเช่า ดื่มเหล้าจนขาดสติ เอารถไปประสบอุบัติเหตุ ชนเสียจนพังยับเยิน ทิ้งรถไว้โดยที่ไม่ยอมซ่อม โยมปู่เสียใจมาก จนกระทั่งไอกระอักออกมาเป็นเลือด ต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าเป็นโรคปอดอักเสบเพราะดื่มเหล้าและสูบบุหรี่จัด หลังจากนั้น 6 เดือนอาการก็ทรุดลงเรื่อยๆ ก่อนเสียชีวิต 7 วัน โยมปู่เล่าให้ฟังว่า เห็นคนสองคนนุ่งผ้าโจงกระเบนสีแดงและโพกศีรษะด้วยผ้าแดงต่างถือหอกเข้ามาหา บอกว่าจะมารับตัวไป ทำให้โยมปู่กลัวมาก ต่อมาโยมปู่ก็เสียชีวิตลงเมื่ออายุได้ 59 ปี

โยมอาผู้ชาย เป็นคนหลักลอย ไม่มีงานการทำเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะขี้เกียจเรียนมาตั้งแต่เด็ก โยมย่าเป็นห่วงว่าต่อไปโยมอา จะลำบาก จึงแบ่งมรดกให้มากกว่าลูกคนอื่นๆ พอโยมย่าเสีย โยมอาก็มาอาศัยกระท่อมปลายนาของพี่สาวอยู่ตามลำพัง มรดกที่ได้มาก็เอามาแบ่งขายเรื่อยๆ จนหมด โยมอาชอบดื่มเหล้าสูบบุหรี่จนร่างกายซูบผอม ผอมมากจนญาติๆเข้าใจว่าเป็นเอดส์ เพราะช่วงหลังก็เริ่มมีผู้หญิงมาพัวพัน โยมอามาเสียชีวิตลงเมื่ออายุเพียง 47 ปี พี่สาวมาพบศพโยมอาอยู่ในสภาพชวนสลดสังเวช นอนตัวแข็งทื่อ มีมดขึ้นไต่ตามตัว และคาดว่าน่าจะเสียชีวิตตั้งแต่ตอนกลางคืน

คำถาม

1. ผมต้องเข้าสู่วงจรอบายมุขเพราะวิบากกรรมใด กรรมดังกล่าวจะติดตามส่งผลไปในภพชาติเบื้องหน้าหรือไม่ อย่างไร และผมจะแก้ไขได้อย่างไรครับ บุญใดทำให้ผมได้แรงบันดาลใจจากตุ๊ดตู่ในการตัดสินใจเลิกอบายมุขทุกอย่างและได้มาบวชธรรมทายาทครับ

2. โยมพ่อโยมแม่จะมีวิบากกรรมหรือไม่ที่ชวนให้กระผมลาสิกขา ท่านให้เหตุผลว่าเพราะเป็นห่วงพระจึงอยากจะให้ไปเรียนต่อให้จบก่อน โยมพ่อโยมแม่และพี่ชายทั้งสองเคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร ทุกคนจะมีโอกาสตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้ไหมครับ

3. โยมตามีวิบากกรรมใด ที่ดินที่มีอยู่จำนวนมากจึงหลุดลอยไปจากการจำนอง โยมตาตายแล้วไปอยู่ที่ไหน วิบากกรรมที่ค้าวัวค้าควาย เล่นการพนัน ดื่มเหล้าสูบบุหรี่ ส่งผลให้โยมตาอย่างไรบ้าง ท่านได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่ มีอะไรฝากมาบอกไหมครับ บุญที่โยมตาเคยบวชตามประเพณีนั้น พอจะช่วยท่านได้บ้างไหมครับ

4. โยมยายเป็นนักเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยามาได้ 2 ปีแล้ว ท่านอยากจะไปอยู่ดุสิตบุรีวงบุญพิเศษด้วย แต่ตอนนี้ท่านอายุมากแล้ว จะต้องสร้างบุญอย่างไรจึงจะตามติดไปได้ทันครับ

5. โยมปู่ ก่อนตายเห็นคน 2 คนนุ่งและโพกผ้าแดงถือหอกมาหาคือใคร ตอนนี้ท่านอยู่ภพภูมิใด และได้รับบุญที่อุทิศให้ท่านหรือไม่ มีอะไรฝากมาบอกไหมครับ

6. โยมอาของผมได้รับมรดกมากกว่าลูกคนอื่นๆ เพราะบุญอะไรครับ ทำไมต้องมานอนตัวแข็งตาย ตายแล้วไปไหน ได้รับบุญที่อุทิศไปให้หรือไม่

7. ผมและรุ่นพี่เคยสร้างบารมีร่วมกันมาอย่างไร เราสองคนมีหน้าที่อะไรในกองทัพธรรม พุทธันดรที่แล้วมีผลการปฏิบัติธรรมเป็นอย่างไร มีผังการบวชหนาแน่นดีไหมครับ ยังมีวิบากกรรมเก่าที่คอยขัดขวางการบวชสร้างบารมีอีกหรือไม่ครับ ควรจะต้องระวังเรื่องอะไรเป็นพิเศษครับ ผมอยากจะไปศึกษาวิชชาธรรมกายกับคุณครูไม่ใหญ่จะสมปรารถนาหรือไม่ครับ

8. กระผมอธิษฐานว่าชาติต่อไปขอให้ได้บวชตั้งแต่เยาว์วัย แต่ก็ยังรู้สึกว่า หากบวชเป็นสามเณรตั้งแต่เด็กๆ ก็มักขาดประสบการณ์ชีวิต แล้วในที่สุดก็ต้องลาสิกขาออกไปเรียนทางโลก หากภพชาติต่อๆ ไป กระผมปรารถนาจะบวชตั้งแต่เด็กและบวชไปให้ได้ตลอดรอดฝั่งโดยไม่คิดลาสิกขาเลย จะต้องทำอย่างไรครับ มีปัจจัยใดที่จะทำให้ผังการบวชตั้งแต่เด็กนั้นแน่นหนา บวชแล้วได้บวชตลอดชีวิตไปทุกภพทุกชาติครับ

9. เพื่อนพระภิกษุรุ่น 19 เคยสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาอย่างไร ในอดีตเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวชทั้งหมดทุกรูปหรือไม่ครับ

10. การได้มาบวชแล้วลาสิกขาออกไปแต่ภายหลังก็กลับเข้ามาบวชใหม่อีกและบวชไปจนตลอดชีวิต กับการมาเจอหมู่คณะแล้วบวชต่อเนื่องรวดเดียวไปจนตลอดชีวิต จะมีอานิสงส์แตกต่างกันอย่างไรทั้งภพชาตินี้และภพชาติต่อๆ ไปครับ

ฝันในฝัน

หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที

แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ

1. วิบากกรรม “คบคนพาล” จึงทำให้ลูกตกไปอยู่ในวงจรอบายมุข …กรรมดังกล่าวถ้าส่งผลไปในภพเบื้องหน้า ก็จะทำให้มีญาติที่อยู่ในวงจรอบายมุข ซึ่งก็จะทำให้การสร้างบารมีได้ไม่เต็มที่ดังที่ตั้งใจ อีกทั้งสติปัญญาของตัวเองก็จะหย่อนด้วย

แต่ผังนี้แก้ไขได้ โดยลูกจะต้องตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ ทั้งทาน , ศีล, ภาวนา ให้ถึงพระธรรมกาย แล้วอธิษฐานจิตกำกับให้พ้นจากวงจรนี้จ่ะ!

บุญเก่าที่ลูกเคยบวชอุทิศชีวิตอยู่ในหมู่คณะ ได้ตามมาส่งผล จึงทำให้ได้พบกัลยาณมิตร ซึ่งเป็นเหตุให้ลูกได้คิดจนคิดได้ และได้บวชจ่ะ!

2. โยมพ่อ-โยมแม่ ท่านก็เป็นห่วงลูกแบบโลก ๆ เพราะท่านไม่เข้าใจ อีกทั้งก็ไม่ได้บังคับให้ลูกลาสิกขา ก็ไม่มีวิบากกรรมอะไร และต่อมาเมื่อท่านเข้าใจท่านก็สนับสนุนจ่ะ!

โยมพ่อ-โยมแม่ และพี่ชายทั้งสอง ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา “แบบกองเสบียง” อีกทั้งพี่ชายทั้ง 2 ก็เคยมีบุญบวชระยะสั้น มากับหมู่คณะด้วยจ่ะ!

ทุกคนดังกล่าว ถ้าสร้างบารมีอย่างเต็มที่ด้วยใจมุ่งมั่น ไม่ตกบุญเลย ก็มีสิทธิ์ตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษได้จ่ะ!

3. ที่ดินของโยมตาจำนวนมาก ต้องหลุดลอยไปจากการจำนอง เพราะ …วิบากกรรมเล่นการพนันทั้งอดีตและปัจจุบัน

ทั้ง ๆ ที่ท่านมีทานบารมีจากในอดีต ซึ่งทำให้ท่านมีที่ดินในปัจจุบันมาก แต่ไม่ได้อธิษฐานจิตล้อมกรอบเอาไว้ จึงทำให้มาอยู่ในวงจรพนันและค้าวัวควาย
อีกทั้งในอดีตก็เคยรับจำนองที่ดิน คนอื่นในทำนองนี้มาเหมือนกัน เป็นภาพในอดีตของโยมตาด้วยจ่ะ!

โยมตาตายแล้วก็ไปเป็น “กุมภัณฑ์” จะต้องไปทำหน้าที่ใน “ยมโลก” 8 เดือน พัก 4 เดือนจ่ะ!

วิบากกรรมค้าวัว ค้าควาย ,ดื่มเหล้า , สูบบุหรี่ ก็จะทำให้ไปอยู่ในหมู่คนพาล และจะทำให้มีโรคมาก , อายุขัยสั้น เพราะค้าวัวควายให้เขาฆ่าจ่ะ!

ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว จึงทำให้ท่าน “เข้าเวรในยมโลก” น้อยลง ซึ่งท่านก็ดีใจและอยากได้รับบุญเพิ่มขึ้นอีกจ่ะ! เพราะท่านอยากจะพ้นจากสภาพตรงนี้

บุญที่โยมตาบวชตามประเพณี ได้ทำให้ท่านไม่ต้องไปถูกลงทัณฑ์ในยมโลก แต่ได้เป็น “กุมภัณฑ์” มาทำหน้าที่เป็นเจ้าหน้าที่ผู้ลงโทษแทนจ่ะ!

4. โยมยายแม้อายุมากแล้ว ถ้าท่านมีความปรารถนามุ่งมั่นแล้วหมั่นสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน , ศีล , ภาวนา อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดเลยแม้แต่เพียงวันเดียว แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษ ก็มีสิทธิ์จ่ะ!

5. โยมปู่ ก่อนตายเห็นคน 2 คนนุ่งและโพกผ้าแดง ถือหอกมาหานั้น ก็คือ “กุมภัณฑ์พวกหนึ่ง” ที่เป็นเจ้าหน้าที่ “ยมโลก” จะมารับตัวจ่ะ!

โยมปู่ตายแล้วก็ไปอยู่ “ยมโลก” ด้วยกรรมสุรา กำลังไปโดนกรอกน้ำทองแดงร้อนอยู่ ก่อนที่จะไปรับโทษทัณฑ์ข้ออื่นเพราะผิดศีลหลายข้อจ่ะ!

ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ ก็ทำให้อายุในยมโลกสั้นลงจ่ะ!
ท่านทรมานมาก ท่านอยากให้ลูกหลานทำบุญอุทิศไปให้ท่านมาก ๆ เพราะท่านอยากพ้นวิบากกรรม และท่านบอกว่าท่านเข็ดแล้วจ่ะ!

6. “โยมอา” ได้รับมรดกมากกว่าคนอื่น เพราะมีทานบารมีในอดีตมามากกว่าคนอื่น แต่ขาดปัญญาบารมี จึงไม่ได้คบบัณฑิต เลยใช้บุญเก่าเปลืองจ่ะ!

โยมอาเป็นโรคร้ายและหมดอายุขัย เมื่อตายแล้วตัวจึงแข็งทื่อจ่ะ!
ตายแล้วก็ไปอยู่ “มหานรกขุม 5” ด้วยกรรมสุรา กำลังถูกนายนิรยบาลกรอกน้ำกรดสีดำร้อนอยู่ และจะต้องไปอีกหลายขุมจ่ะ!
บุญที่อุทิศไปให้ก็ไปคอยอยู่ที่ “ยมโลก” จ่ะ!

7. ลูกและรุ่นพี่ที่บวชอยู่ด้วยกัน เคยทำหน้าที่เผยแผ่และศึกษาวิชชาธรรมกาย โดยพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกก็เป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช

ได้ออกบวชตามพระราชา ปฏิบัติธรรมได้ถึงพระธรรมกาย เคยบวชมาตลอดชีวิตหลายชาติแล้ว , มีผังการบวชหนาแน่นดี

แต่ก็อย่าประมาทในการดำเนินชีวิตในเพศสมณะ
สิ่งที่จะต้องระวัง ก็ทุกอย่างแหละจ่ะ! ที่เป็นข้าศึกต่อการกุศลและพรหมจรรรย์
ถ้าลูกปฏิบัติได้เข้าถึงพระธรรมกายเหมือนชาติที่ผ่านมา ก็จะศึกษาวิชชาธรรมกายขั้นสูงได้จ่ะ!

8. การที่จะบวชตั้งแต่ยังเยาว์วัย และบวชได้ตลอดชีวิต โดยไม่คิดสึกไปทางโลกเพื่อเรียนต่อ แล้วกลับมาบวชใหม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับบุญในตัว ที่สั่งสมจนถึงระดับสอนตัวเองได้

การที่จะมีบุญในตัวมาก ๆ ก็ขึ้นอยู่กับการสั่งสมบุญทุกบุญให้มาก ๆ แล้วอธิษฐานจิตล้อมกรอบให้หนาแน่น ก็มีสิทธิ์บวชได้ตั้งแต่ยังเยาว์วัยจนตลอดชีวิตจ่ะ!

9. เพื่อนพระภิกษุรุ่น 19 ก็เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมา “โดยส่วนใหญ่” ก็เคยเป็นทหารของพระราชาองค์ที่ออกบวช แล้วออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิต

โดยเฉพาะรุ่นพี่ที่บวชอยู่ด้วยกัน ก็เคยบวชมาตลอดชีวิตเมื่อพุทธันดรที่ผ่านมา
ดังนั้นอย่ารื้อผังเก่าที่ดีอยู่แล้ว ให้สร้างผังเก่าให้หนาแน่น จนพญามารระเบิดไม่แตกจ่ะ!
ชาตินี้ก็ให้อดทนสร้างบารมีกันต่อไป อย่าให้ใจตกจ่ะ!

ส่วนน้อยในรุ่นนี้ ก็เป็น “กุลบุตร” ที่ออกบวชตามพระราชาจนตลอดชีวิตเหมือนกันจ่ะ!

10. การบวชรวดเดียว ย่อมดีกว่าการบวชแล้วสึกออกไปเรียนทางโลก ต่อมาภายหลังกลับมาบวชใหม่ตลอดชีวิต เพราะจะไม่เสียเวลาในการสร้างบารมี อีกทั้งจะทำให้ผังบวชรวดเดียวหนาแน่น

ส่วนที่ลาสิกขาออกไปนั้น จะมีโอกาสกลับมาได้ ยากกว่า เพราะมีสิ่งยั่วยวนเยอะ ซึ่งจะทำให้ผังเดิมที่ดีอยู่แล้วทะลายลง แล้วย้อนกลับไปสู่วงนอก หรือพลัดกันไปเลยจ่ะ!

ชาตินี้มาเจอกันอีก ก็ให้ตั้งหน้าตั้งตาสร้างบารมีให้เต็มที่ จน ตลอดชีวิต แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขต บรมโพธิสัตว์ อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!