คีรอยด์ ไสยเวท (ตุ๊กตาขี้เกียจ และคีรอยด์)


[ 12 ก.ค. 2548 ] - [ 18266 ] LINE it!

CASE   STUDY
คีรอยด์ ไสยเวท
(ตุ๊กตาขี้เกียจ และ คีรอยด์)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
    ลูก ประกอบอาชีพทำธุรกิจส่วนตัวอยู่ใน อำเภอเมือง จังหวัดปทุมธานี  สามีของลูกเป็นทหารเรือ เราทั้งสองได้เข้าวัด เมื่อปี 2536  จากการแนะนำของสามีภรรยาคู่หนึ่งที่เป็นอาจารย์สอนทหารเรือ  เข้าวัดครั้งแรกได้ไปสวนบัวก่อน  กลับจากสวนบัวด้วยความ Alert สุดขีดได้บอกบุญญาติ ๆ และนำปัจจัยมาทำบุญหล่อหลวงปู่ทองคำ รวมน้ำหนัก 70 บาท และได้เป็นครอบครัวธรรมกายมาจนถึงปัจจุบัน ลูกกราบขอความเมตตาพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ฝันในฝันเรื่องของลูกดังนี้ค่ะ
 
    คุณพ่อของลูก เป็นคนจีนอพยพมาจากจีนแผ่นดินใหญ่ มาถึงเมืองไทยตอนแรกทำงานรับจ้างอยู่ที่ จังหวัดพิจิตร พอมีทุนท่านก็เปิดร้านขายของชำ  จนมีฐานะร่ำรวยและได้แต่งงานกับแม่   ตอนแต่งใหม่ๆ ฐานะก็ดี  พอมีลูกคนที่ 2 ฐานะก็แย่ลงเรื่อยๆ เนื่องจากพ่อเป็นคนใจดีชอบให้คนกู้ยืมเงิน  แต่เมื่อยืมไปแล้วเขาก็ไม่เอามาคืน  จนกระทั่งหมดตัว 
 
    และตั้งแต่นั้นมา พ่อเริ่มมีอาการแปลกคือจะมีน้ำมันไหลเยิ้มออกมาที่หลังของพ่อตลอดเวลา สังเกตเห็นได้ชัดเวลานอนบนพื้นกระดาน จะมีคราบน้ำมันติดบนกระดาน  และพ่อก็จะไม่ยอมออกจากบ้านไปไหนเลย รักบ้านมาก งานทุกอย่างทำหมดถ้าเป็นงานที่อยู่ในบ้าน แต่ถ้าต้องออกไปทำงานนอกบ้าน ท่านจะไม่ไป อยู่มาจนกระทั่ง พี่ชายคนที่ 2 ของลูก อายุได้ประมาณ 5-6 ขวบ วันหนึ่งพี่ชายคนนี้ได้ไปเดินเล่นที่รั้วบ้าน  ได้เห็นกระทงที่เย็บจากใบตองวางอยู่ข้างรั้ว ทันทีที่พี่ชายเห็นกระทงนั้นก็ร้องออกมาสุดเสียง  มีท่าทางหวาดกลัวมาก   ทั้งๆ ที่คุณแม่ไปดูก็เห็นเป็นกระทงธรรมดาไม่เห็นมีอะไร ถามเขาว่าเห็นอะไรเขาก็ไม่ยอมบอก  ได้แต่แสดงท่าทางหวาดกลัวเพียงอย่างเดียว  อยู่ต่อมา 3-4 วัน พี่ชายก็ป่วยเป็นโรคคอตีบ  เสมหะไปอุดตันหลอดลม และเสียชีวิตในเวลาต่อมา สร้างความเสียใจให้กับคุณพ่อเป็นอย่างมากเกือบฆ่าตัวตาย  คุณพ่อเริ่มมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป  กลายเป็นคนโมโหง่าย  ฉุนเฉียว  และหันมาดื่มเหล้า   เป็นอย่างนี้มาเรื่อย ๆ หลายปีผ่านไป จนกระทั่งวันหนึ่ง พี่สาวคนที่ 5 ของลูก  (ตอนนั้นอายุประมาณ 13-14 ปี) ได้ไปเดินเล่นในบริเวณรั้วบ้าน ได้พบกับก้อนดินก้อนหนึ่ง  ก็เอามาขว้างกับต้นไม้  จนแตก ก็เห็นเป็นตุ๊กตา  2 ตัวมัดติดกันอยู่  หันหลังชนกัน  จึงหาหมอไสยเวทมาดูเขาบอกว่าโดนเขาทำของใส่นานแล้วเพราะความอิจฉาที่แม่มีฐานะดี เขามัดมือมัดเท้าไว้เพื่อจะให้ขี้เกียจทำมาหากิน คนที่ทำเป็นญาติฝ่ายแม่เป็นผู้หญิงซึ่งเขาก็บอกลักษณะรูปร่าง ทิศทางที่อยู่ได้ตรงกับญาติคนหนึ่งของแม่พอดี หมอจึงทำพิธีแก้ให้ที่บ้าน  วิธีการของหมอคือ นั่งพับเพียบพนมมือ  บริกรรมคาถา สักพักร่างของหมอก็ลอยขึ้นสู่อากาศในท่าเดิม   ลอยขึ้นสูงประมาณเท่าเอวของผู้ใหญ่เวลายืน  มีน้าชาย น้าสาว พ่อและแม่อยู่ในเหตุการณ์  หมอบอกว่าช่วยได้แต่ไม่หมด  จากนั้นก็ปล่อยเรื่องให้เลยตามเลยเรื่อยมา เพราะพ่อก็ไม่ค่อยเชื่อเรื่องนี้เท่าไหร่นัก น้ำมันที่ไหลออกมาจากหลังของพ่อก็ลดลงบ้างแต่ไม่หาย ฐานะก็ไม่ดีขึ้น   บ้านที่เอาไปจำนองไว้ก็ถูกยึด   พอบ้านถูกยึดพ่อกับแม่ก็ไปอาศัยบ้านคนจีนที่เขาอพยพมาจากประเทศจีนเหมือนกัน   ลูกๆที่โตแล้วก็เข้ากรุงเทพ ฯ 
 
    จากนั้น 5-6 ปีต่อมาคุณแม่ก็เริ่มมีอาการเหม่อลอย เบลอ ๆ ต่อมาก็เป็นเบาหวาน   เมื่อลูกมีเงินซื้อบ้าน  ก็รับพ่อกับแม่มาอยู่ด้วย  และเริ่มรักษาโรคเบาหวานของแม่   จนกระทั่งท่านอายุ 62 ปี  อยู่ดีๆ แขนของแม่ก็ไม่มีแรงยกไม่ขึ้น  ไปตรวจก็พบว่าเป็นเนื้องอกในสมองมานานนับเป็นเวลาสิบๆปีแล้ว ตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ แสดงออกมาเลย   หมอนัดให้ทำการผ่าตัด  ก่อนผ่าตัดหมอได้นำแม่ไปฉีดสีเข้าเส้นเพื่อที่จะหาตำแหน่งของเนื้องอกและเส้นเลือด  พอฉีดสีเข้าไป ทำให้เส้นเลือดหดตัว  เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้   จึงเกิดอาการช็อค  ไม่ได้สติอีกเลย  สมองตายไป 80% ผลสุดท้ายไม่ได้ผ่าตัด และแม่ก็เสียชีวิตลง ด้วยอายุ 62 ปี
 
    หลังจากคุณแม่เสีย  คุณพ่อก็อายุได้ 80 ปี เริ่มไม่มีแรง แต่ท่านก็จะใส่บาตรทุกวัน  ต่อมาพ่อป่วยเดินไม่ค่อยไหว หมอบอกว่าเป็นโรคเกาต์ บางทีหมดแรงล้มไปเลย  ต้องดูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  1 ปี ต่อมาท่านมีอาการท้องอืด   หมอตรวจพบว่า  มีอุจจาระแพ็คแน่นแข็งมากอยู่เต็มลำไส้  ต้องใช้วิธีสวนทวาร อาการท้องอืดก็หาย     แต่ร่างกายก็อ่อนล้าเต็มที   จึงจำเป็นต้องให้อาหารทางสายยาง
 
    ตอนนั้นลูกเป็นพยาบาลจะเป็นคนใส่สายยางเอง  ทุกครั้งที่ใส่สายยางท่านจะทรมานมาก  เวลาเผลอท่านก็จะเอามือข้างที่พอจะมีแรงอยู่บ้างเล็กน้อยคว้าสายยางแล้วดึงออก ลูกก็ต้องใส่เข้าไปใหม่  พ่อจะทรมานทุกครั้ง  ลูกสงสารมาก  แต่ไม่ทราบจะทำอย่างไร ถ้าไม่ใส่พ่อก็ไม่ได้รับอาหาร และก็ต้องตาย
 
    เมื่อมาอยู่ที่บ้านลูกได้เปิดจานดาวธรรมให้พ่อดูตลอด  ก็ดูบ้างหลับบ้าง  เพราะร่างกายท่านแย่เต็มที  บางทีลูกก็จะนิมนต์พระมาทำบุญที่บ้าน ให้พ่ออนุโมทนา  ท่านก็จะสาธุและยิ้มแสดงอาการดีใจ  ก่อนที่จะเสียชีวิต 1 วัน  ในตอนเช้าของวันนั้น  มีอาเจียนสีดำ ๆ ไหลทะลักออกมาจากปากของพ่อ ประมาณ 1-2 แก้ว พอวันรุ่งขึ้นบ่าย 3 โมงเย็น   พ่อเริ่มหายใจแรงและลึกมากขึ้น  ดวงตาของท่านสอดส่ายไปมา  ทำตาโตเหมือนเห็นอะไรสักอย่างและทำท่าแปลกใจสงสัยในสิ่งที่เห็น พอสี่โมงในดาวธรรมมีการสวดทำวัตรเย็น พ่อก็มีอาการสงบลง  หลับตา มีน้ำสีเหลืองเหลว ๆไหลออกมาทางปากตลอด   แล้วลูกก็ได้เห็น 3 เฮือกสุดท้ายของพ่อ   ท่านก็หยุดหายใจด้วยอาการสงบ  
 
    สามีของลูก  เป็นโรคชนิดหนึ่ง ภาษาทางการแพทย์เรียกว่า โรคคีรอยด์  เป็นมาตั้งแต่ 10 ขวบ อาการเริ่มแรก  จะเป็นตุ่ม แล้วก็เป็นแผลเป็นลามใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ  เหมือนกับแผลเป็นที่มีเนื้อปูดออกมา  พออายุมากขึ้นแผลก็ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ มีอาการเจ็บและคัน  รักษาเท่าไหร่ก็ไม่หาย  รักษาแต่ละครั้งต้องฉีดยาเข้าแผลเจ็บปวดทรมานมาก   จนไม่อยากรักษาอีก  รักษาครั้งสุดท้ายเมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว  ปัจจุบันสามีอายุ  40 ปี  แผลใหญ่เท่าฝ่ามือ  และมีอาการเจ็บคันตลอดเวลา  
 
คำถามมีดังนี้ค่ะ
 
1. ทำไมคุณพ่อและคุณแม่จึงเกิดมายากจนต่อมาก็รวย  พอมีลูกคนที่ 2 แล้วทำไมจึงกลับไปยากจนอีกครั้งเพราะกรรมใดคะ
2. คุณพ่อโดนคุณไสยจริงหรือไม่คะ ทำไมถึงมีน้ำมันไหลออกมาที่หลังของพ่อ      กระทงที่พี่ชายคนที่ 2 เห็นคืออะไร ทำไมเขาถึงแสดงอาการหวาดกลัวขนาดนั้น  รูปปั้นตุ๊กตาหันหลังชนกันที่พี่สาวเจอคืออะไรคะ
3. พี่ชายคนที่ 2 มีความเกี่ยวข้องกับไสยเวทที่คุณพ่อโดนหรือไม่   พี่ชายตายด้วยสาเหตุใด  มีบุพกรรมใดจึงเสียชีวิตด้วยโรคคอตีบ    ตายแล้วไปอยู่ไหนคะ
 
4. กรรมใดทำให้พ่อมีอุจจาระอุดตันเต็มลำไส้จนทำให้ทรมานรับประทานอาหารไม่ได้   ที่ลูกฝืนใจพ่อ ด้วยการใส่สายยางทางปากเข้าไปในกระเพาะ ทำให้พ่อทรมานมาก  ลูกจะมีวิบากกรรมไหมคะ   และถ้าตามใจพ่อ ไม่ใส่สายยางปล่อยให้พ่อเสียชีวิต  ลูกจะมีวิบากกรรมไหมคะ พ่อทำกรรมใดมาจึงต้องมาทรมานจากการถูกใส่สายยางเข้าไปในกระเพาะ
5. ก่อนที่พ่อจะเสียชีวิต ท่านสอดส่ายสายตามองไปมา    และทำท่าสงสัย  พ่อเห็นอะไรหรือคะ  พ่อตายแล้วไปไหน  ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่     
 
6. คุณแม่ทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นเนื้องอกในสมองเป็นเวลานับสิบๆปี  แต่ทำไมถึงไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆ   และกรรมใดทำให้แม่เป็นโรคเบาหวาน  แม่ตายแล้วไปไหน   ได้รับบุญที่ลูกอุทิศให้หรือไม่คะ  
7. คุณยายของสามีลูกเป็นโรคความดันโลหิตสูง  จนเส้นเลือดในสมองแตกเป็นอัมพาตทั้งตัว   พูดไม่ได้  ท่านรู้สึกทรมาน  รับสภาพตัวเองไม่ได้  คุณยายของสามีทำกรรมใดมาคะจึงตกอยู่ในสภาพนี้   ตายแล้วไปไหน  ได้รับบุญที่อุทิศให้หรือไม่ 
 
8. สามีของลูกทำกรรมใดมาจึงป่วยเป็นโรคคีรอยด์  รักษาไม่หายจะแก้กรรมนี้ได้อย่างไรคะ
9. ลูกและสามีทำบุญใดมาจึงประสบความสำเร็จในธุรกิจขายตรงที่ทำอยู่และจะสามารถประสบความสำเร็จสูงสุดได้หรือไม่คะ  ต้องทำอย่างไรจึงไปถึงเป้าหมายของธุรกิจนั้นได้คะ
 
10. กัลยาณมิตรทั้งสองท่านที่ชวนลูกและสามีเข้าวัด  เราทำบุญร่วมกันมาอย่างไรคะ จึงมาเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกในชาตินี้ 
11. ตัวลูก สามี และลูกชายทำบุญร่วมกันมากับหมู่คณะอย่างไรจึงได้มาเป็นครอบครัวธรรมกาย  ลูกชายจะมีโอกาสได้บวชตลอดชีวิตไหมคะ  
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ  ตื่นขึ้นมา หาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
1. คุณพ่อ - คุณแม่เกิดมายากจน   ต่อมาก็รวย   แต่พอมีลูกคนที่ 2 กลับไปจนอีก   เพราะ  …ชาติในอดีตเวลาทำบุญก็มักจะทำบุญใหญ่ครั้งเดียว   และภายหลังจากนั้นก็เลิกทำไปเลย   ดังนั้นเวลาบุญส่งผลก็ส่งช่วงเดียวจ่ะ!
 
 
2. คุณพ่อโดนคุณไสยจริง ๆ   โดยคนที่ไม่ชอบมาทำใส่ครอบครัวจริง ๆ จ่ะ!   แต่น้ำมันที่ไหลออกจากที่หลัง   ไม่เกี่ยวกับคุณไสย   แต่เป็นต่อมเหงื่อหรือไขมันที่ทำงานมากเกินไป   ซึ่งก็ไม่ได้เป็นอันตรายใดใดกับท่านจ่ะ!  
 
 
  •  “กระทง” ที่พี่ชายคนที่ 2 เห็น คือ “ควายธนู” ที่คนทำคุณไสยมาวางไว้   ซึ่งพอดีพี่เคยมีกรรมปาณาติบาต  และเคยจ้างหมอไสยเวทไปทำร้ายคู่อริในอดีตตามมาส่งผลจ่ะ!  
 
 
  • พี่ชายเห็นเงาสีดำใหญ่วิ่งเข้าใส่ตัว   จึงตกใจอย่างสุดขีด   บวกกับกรรมเก่า   จึงทำให้เสมหะไปตันคอจนตาย    ซึ่งคุณไสยจะทำร้ายได้ก็ต่อเมื่อ   คนนั้นเคยมีวิบากกรรมทำคุณไสยติดตัวมาจ่ะ!  
 
 
  • รูปปั้น “ตุ๊กตาหันหลังชนกัน” ที่พี่สาวเจอ ก็คือ คุณไสยที่เขาทำให้พ่อ – แม่ทะเลาะกัน และขี้เกียจทำงาน   แต่คุณไสยเป็นแค่ของเสริมเท่านั้น ,  ซึ่งที่สำคัญจริง ๆ ก็คือ “บุญเก่า” ที่ทำไว้มันหมด   แต่ถ้ามีบุญ   คุณไสยก็ทำอะไรไม่ได้จ่ะ!
 
 
3. พี่ชายคนที่ 2 ตายแล้ว   ก็วนเวียนอยู่พักหนึ่ง แล้วก็ไปเกิดเป็น “มนุษย์” แล้วจ่ะ!
 
 
4. คุณพ่อมีกรรม “เหนียวหนี้” คือ ขอยืมแล้วขอลืม   กับกรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารทั้งอดีตและปัจจุบัน   ตามมาส่งผลให้อุจจาระตันในลำไส้จนเต็ม   และรับประทานอาหารไม่ได้   ทุกข์ทรมานมากจ่ะ! 

 
  • ลูกฝืนใจพ่อ โดยการใส่สายยางทางปากลงไปในกระเพาะ   ทำให้พ่อทรมานมาก ก็ไม่มีวิบากกรรมอะไร  เพราะลูกเจตนาดี   อยากให้พ่อหาย   จึงได้ทำตามหลักวิชาที่เรียนมา 
  • ถึงลูกจะใส่สายยางหรือไม่ใส่สายยาง   พ่อก็ทรมานอยู่แล้ว   แต่คนละแบบตามวิบากกรรมที่พ่อทำมาจ่ะ!  
 
 
  • กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารเป็นหลักและกรรมสุราเสริม   จึงทำให้พ่อต้องทรมานจากการถูกใส่สายยาง   หรือไม่ใส่สายยางก็ตามจ่ะ!
 
 
5. ก่อนตายพ่อสอดส่ายสายตาไปมา เพราะเห็นกรรมนิมิตภาพในอดีต ดีบ้าง  , ไม่ดีบ้าง  ปนเปกันไปจ่ะ!  
  • พ่อตายแล้ว ก็ไปเกิดเป็น “อากาสเทวา” ได้รับบุญที่อุทิศไปให้แล้ว ก็ยิ่งทำให้ท่านมีสถานที่ดีขึ้นจ่ะ!
 
 
6. คุณแม่เป็น “เนื้องอกในสมอง” และ “เบาหวาน”  เป็นเวลายาวนานนับสิบปี   แต่ไม่มีอาการป่วยทรมานใด ๆ   เพราะ …กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตและปัจจุบัน   ตามมาส่งผล โดยก่อนฆ่าก็มักจะ “ทุบหัว” ก่อน เช่น  ฆ่าปลา ก็มักจะทุบหัวปลาก่อนจ่ะ!   แต่มีบุญที่ทำไว้ในพระพุทธศาสนาตามมาส่งผล   จึงไม่มีอาการปวดทรมานกระทั่งหมดอายุขัย  
 
 
  • ตายแล้วก็วนเวียนอยู่    พักหนึ่ง   ปัจจุบันก็ไปเกิดใหม่เป็น “มนุษย์” แล้ว   ด้วยบุญที่อุทิศให้จ่ะ!
 
 
7. “คุณยายของสามี” เป็นโรคความดันโลหิตสูง จนเส้นเลือดในสมองแตกและเป็นอัมพาต ทุกข์ทรมานมาก   เพราะ…กรรมฆ่าสัตว์ทำอาหารในอดีตและปัจจุบัน
 
 
  • โดยในอดีตได้เลี้ยงสัตว์ไว้ฆ่าขายและขายให้เขาฆ่า  โดยก่อนที่จะขายก็มักจะ “มัดสัตว์” เอาไว้ก่อนที่จะขนส่งไป  จนสัตว์ทุกข์ทรมานมาก  กรรมได้ตามมาส่งผลจ่ะ 
 
 
  • ตายแล้วก็ไปเป็น “ภุมมเทวา” ระดับธรรมดา อยู่ที่หมู่บ้านภุมมเทวาแห่งหนึ่ง 
  • ได้รับบุญที่อุทิศไปให้ก็สาวและสวยขึ้น   มีสภาพดีขึ้นทุกอย่างจ่ะ!
 
 
8. สามีลูกเป็น “คีรอยด์” เป็นแผลปูด  ทั้งเจ็บและคันตั้งแต่ 10 ขวบ  แผลโตขึ้นเรื่อย ๆ  รักษาก็ไม่หาย   เพราะ … “วจีกรรม”เป็นหลัก  และกรรมทรมานสัตว์เสริม  
  • เรื่องมีอยู่ว่า  หลายชาติหลายครั้งที่ผ่านมา มักจะพูด “ตอกย้ำ” ข้อผิดพลาดเขาเสมอ จนทำให้เขา “เจ็บช้ำน้ำใจ” 
 
 
  • กับกรรมทรมานสัตว์หลายรูปแบบมาเสริม  เช่น ทุบ , ตี , เอาหนังสติ๊กยิงเล่นบ้าง แกล้งสนุก ๆ เป็นต้นจ่ะ!  
 
  • จะแก้ไขก็ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ   พูดแต่ปิยะวาจา ทั้งต่อหน้าและลับหลัง   แล้วอุทิศบุญกุศลไปให้แก่ผู้ที่เราเคยไปเบียดเบียนเขาไว้จ่ะ!
 
 
9. ลูกและสามี    ประสบความสำเร็จขายตรงเพราะ    มีทานบารมีมาในอดีต    กับชอบชวนคนทำความดีมาส่งผลจ่ะ! 
 
 
  • ส่วนที่ลูกปรารถนาจะให้ไปถึงจุดสูงสุดของธุรกิจนี้   ก็ต้องสั่งสมบุญปัจจุบันในทุกบุญ   ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นทำให้มาก ๆ    แล้วอธิษฐานจิตตอกย้ำความตั้งใจของลูกให้บ่อย ๆ ทุกวันจ่ะ!
 
 
10. กัลยาณมิตรทั้งสองที่ชวนลูกและสามีเข้าวัด   ก็เคยสร้างบุญร่วมกันมากับหมู่คณะ   โดยกัลยาณมิตรทั้งสองก็เคยเป็นกัลยาณมิตรให้ลูกและสามีมาในอดีตจ่ะ!
 
 
11. ตัวลูก , สามีและลูกชาย  ได้มาเป็นครอบครัวธรรมกายเพราะ เคยสร้างบารมีกับหมู่คณะมาหลายชาติ  แบบ “กองเสบียง” จ่ะ!  
 
 
  • ส่วนลูกชายก็เคยมีบุญบวชตลอดชีวิตมาหลายชาติ , บางชาติก็บวชช่วงสั้น , บางชาติก็เป็นกองเสบียง   แต่พุทธันดรที่ผ่านมาได้บวชตลอดชีวิต
  • ดังนั้นชาตินี้ก็ประคับประคองให้ดี   เมื่อบุญเก่าที่เขาทำมาอย่างดีแล้วส่งผล   ก็จะทำให้เขาตัดสินใจบวชเองจ่ะ!    
 
 
  • ชาตินี้มาเจอกันอีก   ก็ให้ตั้งใจสร้างบารมีให้เต็มที่ในทุกบุญ   ทั้งทำด้วยตัวเองและชวนคนอื่นมาทำด้วย   แล้วอธิษฐานจิตตามติดไปดุสิตบุรีวงบุญพิเศษเขตบรมโพธิสัตว์   อย่าได้พลัดกันเลยจ่ะ!
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม