ราชองครักษ์ชาตินักรบ ตอนที่ 14


[ 30 ส.ค. 2555 ] - [ 18280 ] LINE it!

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา ทาง DMC
 
ราชองครักษ์ชาตินักรบ
ตอนที่ 14
 
คำถาม
 
2.พุทธันดรที่ผ่านมา กระผมสร้างบารมีกับหมู่คณะมาอย่างไร บุพกรรมใดที่ทำให้ได้มาเทศน์สอนให้คนเข้าใจวัดและการสร้างบารมีของหมู่คณะครับ
 
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูง
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
จากนั้น ขบวนของผู้ที่ได้รับบาดเจ็บก็ได้เคลื่อนตัวออกจากหมู่บ้านด้วยความยากลำบากทุลักทุเล เพราะในขบวนมีทั้งรถม้าทั้งแคร่และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ แต่ทุกคนก็ไม่ย่อท้อลุยฝ่าสายฝนที่ยังตกกระหน่ำลงมาอย่างไม่หยุดยั้ง พวกลูกน้องของลูกก็ช่วยกันแบกสัมภาระขึ้นหลังแล้วก็พากันเดินจูงม้าไปด้วย ส่วนพวกชาวบ้านที่บาดเจ็บไม่มากก็ช่วยกันคนละไม้คนละมือ ถือของบ้าง ช่วยประคองแขนเพื่อนบ้านบ้าง แล้วทั้งหมดก็ร่วมกันเดินทางออกจากหมู่บ้าน ก้าวเดินไปพร้อมกันเป็นขบวน

  • ในขณะที่ลูกพาขบวนเดินทางมาเรื่อยๆ ลูกก็เห็นถนนหนทางอยู่ในสภาพที่เละเทะ เต็มไปด้วยเศษหินเศษดินที่ถูกเซาะจากน้ำป่าซึ่งผ่านภูเขาลงมาบนถนน โชคยังดีที่ไม่เจอกองหินถล่มลงมาอีก ไม่เช่นนั้นจะเดินทางได้ยากลำบากมากกว่านี้อีกหลายเท่า

  • หลังจากที่ลูกพิจารณาไต่ตรองถึงภัยพิบัติในครั้งนี้แล้ว ก็พบว่าคงเกิดจากฝนที่ตกลงมาอย่างหนักตลอดต่อเนื่องหลายวัน จึงทำให้ดินอุ้มน้ำไว้มากจนกลายเป็นแอ่งโคลนขนาดใหญ่ที่สะสมอยู่บนภูเขา แล้วต่อมาโคลนเหล่านี้ก็ถล่มลงมาทับหมู่บ้านทั้งหมู่บ้าน นี่ช่างเป็นภัยพิบัติที่น่ากลัว เพราะไม่มีใครคาดคิดมาก่อนว่าจะเกิดขึ้นได้
  • ในการเดินทางครั้งนี้ ขบวนของลูกได้มีการหยุดพักระหว่างทางเป็นระยะๆ ไปตามเส้นทางสัญจรที่ออกจากหมู่บ้าน เพราะผู้ที่ได้รับบาดเจ็บไม่สามารถเดินทางรวดเดียวโดยไม่พักได้ ต้องมีการพักบ้าง ซึ่งตัวลูกก็ต้องคอยเร่ง เพราะต้องแข่งกับเวลา กว่าจะถึงที่หมายก็ยังอีกไกล

  • และแล้ว ทุกคนก็เดินมาจนถึงสะพานข้ามแม่น้ำซึ่งเป็นเส้นทางที่ต้องผ่านไป ช่วงขามาที่หมู่บ้านตอนที่ต้องข้ามสะพานนี้ ลูกต้องให้ลูกน้องลงจากหลังม้าแล้วก็พากันจูงข้ามสะพาน เพราะสภาพของสะพานง่อนแง่นมาก และดูอันตรายพอสมควร อีกทั้งด้านล่างก็เป็นแม่น้ำที่กำลังไหลเชี่ยว พอมาถึงวันนี้ สะพานก็ยิ่งดูแย่กว่าตอนนั้นอีก

  • ลูกจึงออกเดินสำรวจดูสภาพของสะพานก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าสะพานจะรับน้ำหนักไหวหรือไม่ เพราะคราวนี้สะพานจะต้องรองรับม้าที่ลากรถซึ่งบรรทุกคนเจ็บมาด้วย แต่อย่างไรก็ตามไม่ว่าสะพานจะมีสภาพอย่างไร ทุกคนจะต้องข้ามไปให้ได้ เพราะนี่คือเส้นทางเดียวที่จะให้ขบวนไปถึงตัวเมืองที่ใกล้ที่สุดโดยไม่ต้องอ้อมไปไกล
  • เมื่อลูกสำรวจสะพานเสร็จแล้ว ลูกจึงให้ลูกน้องช่วยกันเอาเชือกมัดตัวสะพานกับคอสะพานให้แน่นหนา จากนั้นก็ให้เอาเชือกมัดเสริมตามจุดต่างๆของสะพานเพื่อเพิ่มความแข็งแรงของตัวสะพานให้มากขึ้น

  • ใจจริง ลูกต้องการจะให้ซ่อมแซมความแข็งแรงของสะพานให้มากกว่านี้ แต่เครื่องมือส่วนใหญ่ได้ทิ้งไว้ที่หมู่บ้านหมดแล้ว เพราะจะต้องขนเสบียงมาให้มากที่สุด จึงซ่อมแซมได้เพียงระดับเบื้องต้นเท่านั้น
  • เมื่อทุกอย่างพร้อมลูกจึงสั่งให้ค่อยๆเคลื่อนขบวน โดยให้คนที่พอจะเดินได้ข้ามไปก่อน แล้วค่อยให้รถม้าข้ามไปทีละคัน และสั่งให้ลูกน้องของลูกคอยจูงและประกบรถม้าไปตลอด ซึ่งสะพานก็ส่งเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดตามสภาพ

  • พวกที่ไปถึงฝั่งโน้นก็ยืนมองคอยลุ้น และส่งกำลังใจให้เพื่อนๆที่กำลังข้ามไป ต่างคนต่างก็ช่วยกันภาวนาว่า “อย่าให้มีอะไรเกิดขึ้นเลย”
  • แล้วจู่ๆฝนก็ตกกระหน่ำลงมาอีกรอบ ทำให้แม่น้ำไหลเชี่ยวกรากขึ้นมาทันที ยิ่งทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก แต่ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นทุกคนก็ต้องเดินหน้าต่อไป ลูกก็ได้แต่เร่งให้พวกชาวบ้านเดินเร็วขึ้น
  • ในขณะนั้น น้ำก็พัดเอาเศษท่อนไม้และกิ่งไม้ลอยมากระแทกกับเสาสะพานอยู่ตลอดเวลา แต่สะพานก็ยังอยู่ได้ เมื่อลูกเห็นเช่นนั้นจึงได้คิดว่า “สะพานยังสู้เลย แล้วทำไมเราจะไม่สู้ล่ะ”
  • หากแต่สภาพของสะพานยิ่งง่อนแง่นเหลือเกิน จนทุกคนต่างก็คิดว่าจะไหวหรือไม่ แล้วลูกน้องของลูกก็มาขอร้องว่า “ให้นายกองข้ามไปก่อนเถอะครับ ดูท่าทางสะพานน่าจะอยู่ได้อีกไม่นานแล้วล่ะ”
  • แต่ลูกตอบกลับไปว่า “ให้ชาวบ้านไปกันให้หมดก่อน แล้วพวกเราจะปิดท้ายเอง”
  • จนกระทั่งมาถึงรถม้าคันสุดท้าย ขณะที่กำลังข้ามไปจะพ้นอยู่แล้ว ก็ปรากฏว่า มีท่อนไม้ขนาดใหญ่ ไหลมากระแทกกับเสาสะพานอย่างแรง จนทำให้เสาสะพานหักไปหนึ่งต้น สะพานก็เอียงวูบ ทั้งม้าทั้งคนก็ไถลลื่นไปติดกับราวสะพานอีกฝั่งหนึ่ง เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้น ระงมไปทั่ว แล้วทั้งคนทั้งม้าก็พยุงตัวยืนขึ้นมาใหม่ พร้อมกับส่งรอยยิ้มแห่งความโล่งอกมาให้กับทุกคนที่ยืนลุ้นอยู่ที่คอสะพานทั้งสองฝั่ง มันช่างเป็นภาพที่ทำให้ทุกคนลุ้นสุดตัวจริงๆ

  • และแล้วก็เหลือแต่ลูกและลูกน้องซึ่งแบกสัมภาระอีกยี่สิบกว่าคนที่ปิดท้าย ลูกก็สั่งให้ลูกน้องเอาเชือกมาผูกเข้ากับตัวของทุกคน เผื่อเอาไว้ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ช่วยกันฉุดรั้งเอาไว้ได้
  • แล้วทุกคนก็ได้ยินเสียงโครม เสาสะพานอีกต้นก็หักโค่นลง สะพานก็เริ่มง่อนแง่นหนักเต็มที เวลาก็เหลือน้อย ลูกจึงตัดสินใจตะโกนสั่งทุกคนว่า “ไปทุกคน สหายแห่งข้า เราข้ามกันไปเลย”
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
เจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาคเจ้าเมืองไปเกิดเป็นพญานาค

นักบุญ - นักธุรกิจนักบุญ - นักธุรกิจ

สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์สังขารดับ แต่ใจยังอาวรณ์



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

กรณีศึกษากฎแห่งกรรม