พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า ตอนที่ 87 สัจจบารมี


[ 21 มี.ค. 2554 ] - [ 18280 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ.2554

ตอน พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 87 สัจจบารมี

 
 
 
พระศรีอริยเมตไตรย์สัมมาสัมพุทธเจ้า
ตอนที่ 87 "สัจจบารมี"
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
        ความเดิมจากตอนที่แล้ว... ความอดทน สามารถแบ่งออกได้เป็นสี่ระดับด้วยกัน ซึ่งในแต่ละระดับนั้นจะมีความละเอียดลุ่มลึกที่แตกต่างกันไป ดังต่อไปนี้ คือ
 
1.ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำ หมายถึง ความอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการสร้างบารมี สำหรับพระโพธิสัตว์แล้ว ไม่ว่าฝนจะตก แดดจะออก อากาศจะร้อนอบอ้าวหรือหนาวเหน็บเพียงใด ก็หาได้เป็นอุปสรรคหรือเป็นเหตุปัจจัยที่จะทำให้พระโพธิสัตว์เกิดความเกียจคร้านในการสร้างบารมีได้ ซึ่งถ้าจะว่ากันไปแล้ว ความอดทนต่อความลำบากตรากตรำนี้ ยังถือว่าเป็นแค่ความอดทนระดับอนุบาลเท่านั้นเอง
 
2.ความอดทนต่อทุกขเวทนา หมายถึง ความอดทนต่อการเจ็บไข้ได้ป่วย หรือความไม่สบายกาย เป็นต้น สำหรับพระโพธิสัตว์แล้ว ถึงแม้ตัวท่านจะเจ็บป่วยอย่างไร แต่พระโพธิสัตว์ก็ไม่ยอมละทิ้งการสร้างบารมี ซึ่งท่านจะคอยหมั่นสอนตนเองอยู่เสมอว่า ตราบใดที่ตัวท่านยังไม่สิ้นลมหายใจ ตราบนั้นท่านก็จะขอมุ่งมั่นสร้างบารมีต่อไปอย่างไม่ลดละ ดังนั้น ความอดทนต่อทุกขเวทนา จึงถือเป็นความอดทนที่สูงขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง หรืออาจจะเรียกความอดทนระดับนี้ว่า...เป็นความอดทนระดับประถมนั่นเอง
 
3.ความอดทนต่อการกระทบกระทั่ง หมายถึง ความอดทนต่อความโกรธ ความไม่พอใจ ความขัดเคืองใจ อันเกิดจากความคิด คำพูดและการกระทำที่ไม่ถูกใจไม่ชอบใจ ซึ่งได้รับมาจากบุคคลรอบข้าง หรือหมายถึง ความอดทนต่อคำแนะนำสั่งสอนจากบุคคลต่างๆ ไม่ว่าบุคคลนั้นจะมีวุฒิภาวะที่สูงกว่าหรือต่ำกว่าตน รวมไปถึงความอดทนเมื่อต้องประสบกับความอยุติธรรมต่างๆในสังคม
 
        สำหรับนักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลายแล้ว ถือเป็นเรื่องธรรมดาที่จะต้องพบเจอกับความอยุติธรรมหรือความไม่เข้าใจต่างๆนานา อันเป็นเหตุที่จะทำให้เกิดการกระทบกระทั่งกันขึ้น แต่อย่างไรก็ตามสิ่งเหล่านั้นกลับหาได้เป็นอุปสรรคต่อการสร้างบารมีของพระโพธิสัตว์ หรือนักสร้างบารมีเหล่านั้นไม่ ตรงกันข้าม...อุปสรรคทั้งหลายเหล่านั้นกลับเป็นเหมือนแบบฝึกหัดหรือบททดสอบว่า นักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลายจะสามารถอดทนอดกลั้น และพร้อมที่จะยกใจตัวท่านเองและสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ก้าวล่วงผ่านอุปสรรคเหล่านั้นไปได้หรือไม่ ดังนั้น ความอดทนต่อการกระทบกระทั่งนี้ จึงถือได้ว่าเป็นความอดทนที่ยากขึ้นไปอีกระดับหนึ่ง หรืออาจจะเรียกความอดทนระดับนี้ว่า...เป็นความอดทนระดับมัธยมนั่นเอง
 
4.ความอดทนต่ออำนาจกิเลส หมายถึง ความอดทนต่ออารมณ์อันน่าใคร่ น่าเพลิดเพลินใจ อันเกิดจากอำนาจกิเลสซึ่งมาล่อลวงให้นักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์ทั้งหลาย ย่อหย่อนหรือหลุดออกจากเส้นทางของการสร้างบารมี ความอดทนในข้อนี้ถือว่า...เป็นความอดทนระดับ อุดมศึกษา ซึ่งเป็นความอดทนที่ทำได้ยากที่สุด ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะพระโพธิสัตว์หรือนักสร้างบารมีทั้งหลาย ล้วนยังมีกิเลสที่นอนเนื่องอยู่ภายในใจตลอดเวลา ดังนั้น ถ้าหากใครไม่ฝึกควบคุมอินทรีย์ให้แก่กล้า หรือขาดแล้วซึ่งความอดทนต่ออำนาจกิเลส กิเลสต่างๆที่หมักหมมซุกซ่อนอยู่ภายในใจก็อาจจะกำเริบเสิบสานขึ้นมาได้ ซึ่งจะเป็นผลทำให้นักสร้างบารมีหรือพระโพธิสัตว์เหล่านั้น อาจพลาดพลั้งทำผิดทำพลาด และเผลอไปสร้างวิบากกรรมใหม่ที่ไม่ดีขึ้นมาได้
 
พระโพธิสัตว์ย่อมมีความอดทนต่ออำนาจกิเลส
 
        ดังนั้น การบำเพ็ญขันติบารมีของพระโพธิสัตว์ จึงอุปมาเหมือนกับแผ่นดิน แม้บุคคลทั้งหลายจะละทิ้งสิ่งของที่สกปรกลงบนแผ่นดินมากมายเพียงใด แต่แผ่นดินกลับยังคงนิ่งเฉย ไม่ยินดียินร้ายและไม่เคยขัดเคือง ฉันใด พระโพธิสัตว์ย่อมอดทนต่อการสรรเสริญและนินทาจากมหาชนทั้งหลายได้ ฉันนั้น
 
 พระโพธิสัตว์บำเพ็ญขันติบารมีเหมือนดั่งแผ่นดินที่ไม่ยินดี ยินร้ายต่อการกระทำของบุคคลทั้งหลายไม่ว่าดีหรือไม่ดี
 
        หลังจากที่พระโพธิสัตว์สั่งสมบารมีมาถึงบารมีขั้นที่หกแล้ว บารมีขั้นต่อไปที่พระโพธิสัตว์จะได้บำเพ็ญนั้นก็คือ สัจจบารมี
 
7.สัจจบารมี คือ ความจริงจังจริงใจ (กล่าวคือ จริงทั้งคำพูดและการกระทำ)-สำหรับพระโพธิสัตว์แล้ว หากตั้งใจที่จะกระทำสิ่งใดที่เป็นสิ่งที่ดี พระโพธิสัตว์ก็จะมุ่งมั่นและตั้งใจทำสิ่งนั้นให้สำเร็จ ตามที่ตัวท่านได้ตั้งความปรารถนาเอาไว้ โดยจะไม่ยอมผันแปรไปตามอุปสรรคที่เกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด
 
 สัจจบารมี คือ ความจริงจังจริงใจ คือ จริงทั้งคำพูด และการกระทำ
 
        ไม่ว่าอุปสรรคที่มาขัดขวางนั้น จะเป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนปรารถนาและอยากจะได้มาครอบครอง เช่น ลาภ ยศ สรรเสริญ หรือคำยกย่องชมเชยต่างๆ เป็นต้น หรือเป็นปัญหาต่างๆอันเกิดจากความไม่เข้าใจในมโนปณิธานของพระโพธิสัตว์ว่า สิ่งที่พระโพธิสัตว์ได้กระทำอยู่นี้ เป็นไปเพื่อสิ่งใด ด้วยเหตุนี้เอง พระโพธิสัตว์จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องบำเพ็ญสัจจบารมี เพื่อจะรักษามโนปณิธานอันสูงสุดที่ตัวท่านได้ตั้งความปรารถนาไว้ให้มั่นคง ซึ่งจะเป็นผลทำให้ตัวท่านไม่หลุดออกจากเส้นทางของการสร้างบารมี
 
 พระโพธิสัตว์จะไม่หวั่นไหวต่อลาภ ยศ สรรเสริญ ตลอดจนปัญหาต่างๆที่เกิดจากผู้ที่ไม่เข้าใจ
 
        เรียกได้ว่า หากแม้มีใครที่คิดข่มเหงรังแก หรือมุ่งจะทำร้ายพระโพธิสัตว์นั้นให้ตาย เพื่อที่จะบังคับให้ท่านละทิ้งเป้าหมายอันมั่นคงนี้แล้ว ท่านก็พร้อมที่จะยอมตาย แต่จะไม่ขอยอมออกนอกเส้นทางที่ตนได้ตั้งใจไว้อย่างเด็ดขาด นั่นก็คือความตั้งใจที่จะบรรลุอนุตตรสัมมาสัมโพธิญาณเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้ได้
 
 พระโพธิสัตว์จะรักษามโนปณิธานในการสร้างบารมีด้วยชีวิต
 
        ด้วยเหตุนี้ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายจึงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มพูนและรักษาความสัตย์จริง อันประกอบไปด้วยความซื่อตรง เที่ยงตรง และไม่ผันแปรต่อมโนปณิธานที่ได้ตั้งใจไว้ จนกว่ามโนปณิธานอันยิ่งใหญ่นั้นจะสำเร็จสมความปรารถนา
 
พระโพธิสัตว์จะบำเพ็ญสัจจบารมีให้ยิ่งๆขึ้นไป
 
        ดังนั้น การบำเพ็ญสัจจบารมีของพระโพธิสัตว์ จึงอุปมาเหมือนกับดาวประกายพรึก เมื่อเคยขึ้นประจำอยู่ทางทิศใดก็ย่อมโคจรขึ้นประจำอยู่ในทิศนั้น ไม่ว่าฤดูกาลไหนๆก็ย่อมขึ้นเที่ยงตรงไม่เปลี่ยนแปลง ฉันใด พระโพธิสัตว์ก็จะไม่ขอออกไปนอกเส้นทางแห่งการสร้างบารมีที่ท่านได้เคยตั้งสัจจะไว้ ฉันนั้น
 
พระโพธิสัตว์บำเพ็ญสัจจบารมีประดุจดาวประกายพรึก ซึ่งจะขึ้นประจำอยู่ในทิศเดิมเสมอ
 

ชม Video Scoop พระศรีอริยเมตไตรย์ ตอนที่ 87



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
DMC ที่โซโลมอนDMC ที่โซโลมอน

Solomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคนSolomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคน

เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน