ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ.2554
“ชีวิตสมณะ” เส้นทางสุขแท้ เส้นทางสุดท้าย
พลิกชีวิตพระธรรมทายาท (รุ่นเข้าพรรษา) ด้วยบุญบวช
ตอน “ชีวิตสมณะ” เส้นทางสุขแท้ เส้นทางสุดท้าย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
พระเอกลักษณ์ ฐิตมโน
ตอนนั้น เวลาเดินผ่านน้องรุ่นใหม่ๆ พวกเขาต่างก็ยกมือไหว้ กระผมก็รู้สึกอายนิดๆ เพราะ เหมือนพวกเขาเห็นกระผมเป็นโบราณวัตถุของมหาวิทยาลัยอย่างไรอย่างนั้นเลยครับ หลวงพ่อครับ แม้การเรียนของกระผมจะดูแย่ร่อแร่เต็มทน แต่กระผมก็ยังมีบุญที่มีเพื่อนสนิทดีๆอย่าง น้องน๊อต (อดีตมิสไทยแลนด์ยูนิเวิร์ส) และครอบครัวรสจันทร์ ที่ชอบชวนกระผมไปทำบุญที่วัดพระธรรมกายตั้งแต่สมัยเรียนครับ กระผมยอมรับว่าตอนนั้นกระผมไม่เข้าใจเรื่องบุญสักเท่าไหร่ และดูเหมือนกระผมจะชอบกิน เที่ยว ทำตัวเหลวไหลเสียมากกว่า ชีวิตของกระผมตอนนั้นจึงไม่รุ่งโรจน์ แต่กลับรุ่งริ่งลงเรื่อยๆ เมื่อทางบ้านต้องประสบปัญหาหนี้สินอย่างหนัก ทำให้พ่อแม่ไม่มีเงินส่งให้กระผมเรียนอีกต่อไป และเป็นเหตุให้กระผมต้องดรอปการเรียนในที่สุด ตอนนั้นกระผมรู้สึกเฉาชีวิตจริงๆครับ และสิ่งที่กระผมคิดว่าจะช่วยกระผมได้ก็คือ “บุญ” กระผมจึงตรงมาทำบุญที่วัดพระธรรมกายทันที และวันนั้นบุญก็ได้บันดาลให้กระผมได้รู้จักกับคุณแม่ปราณี ชนะโรค ซึ่งช่วงนั้นที่วัดกำลังจัดให้มีพิธีแห่อัญเชิญรูปหล่อทองคำพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯเวียนประทักษิณรอบมหาธรรมกายเจดีย์ครับ คุณแม่ปราณีจึงบอกให้กระผมเข้าร่วมขบวนแห่ และบอกให้อธิษฐานจิตขอพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯให้ช่วยให้พ้นเคราะห์
พระเอกลักษณ์ ฐิตมโน
หลวงพ่อครับ การกลับมาบวชครั้งนี้ ทำให้กระผมได้มีโอกาสทบทวนตัวเอง ได้ฝึกฝนตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระผมได้นั่งสมาธิ ซึ่งทำให้กระผมได้พบกับความสุขภายในแบบที่ไม่เคยเจอะเจอที่ไหนมาก่อนเลยครับ กล่าวคือ ปกติกระผมจะนั่งสมาธิทุกวันทั้งในรอบและตอนดึก เวลานั่งสมาธิ กระผมจะรู้สึกปวดหลังมาก และง่วงมากจนสัปหงกเกือบทุกครั้งครับ แต่กระผมก็อดทนและคิดว่า “แม้จะปวดหลังจนหลังหักตายก็จะขอนั่งไปอย่างนี้จนกว่าจะเห็นอะไรบ้าง หากจะตายท่านี้ก็ให้ตายไปเลย และหากว่าผีจะมาหลอกก็ให้หลอกไปเลย”
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของพระเอกลักษณ์ ฐิตมโน
จนกระทั่งกลางดึกคืนหนึ่ง ขณะที่กระผมกำลังนั่งสมาธิและรู้สึกง่วง และปวดหลังเต็มที่ จู่ๆกระผมก็เห็นเหมือนแสงไฟนีออนสว่างโพลง วาบขึ้นมาในกลางท้องของกระผม เหมือนมีคนมาเปิดไฟครับ ตอนนั้นกระผมรู้สึกตระหนกนิดหน่อย ประกอบกับความง่วงและความปวดต่างๆก็อันตรธานหายไป เหมือนไม่เคยเกิดขึ้น ตอนนั้นกระผมบอกกับตัวเองว่า “ที่ระเบียงเขาปิดไฟหมดแล้ว และนี่มันเป็นแสงไฟจากในท้องของเรา” จากนั้น กระผมจึงตั้งสติและทำสมาธิต่อ นึกว่า “ตัวเราเป็นองค์พระ องค์พระเป็นตัวเรา” แล้วจู่ๆกระผมก็รู้สึกว่าร่างกายของกระผม ทั้งหน้าตาแขนขา ทั้งเนื้อทั้งตัว กลายเป็นแก้วใสๆเหมือนองค์พระแก้วใสไปหมดเลยครับ กระผมรู้สึกดีและมีความสุขมากๆ และกระผมก็รู้สึกดีใจที่สามารถบวชสองชั้นอย่างที่หลวงพ่อบอกได้ แถมตอนนี้เวลากระผมเดินไปไหนหรือทำอะไร ถ้ากระผมนึกอยากเห็นองค์พระ ท่านก็จะมาให้เห็นอยู่ที่กลางท้องของกระผมด้วยครับ
กราบคารวะด้วยความเคารพอย่างสูง
พระเอกลักษณ์ ฐิตมโน
อ่านรายละเอียด...