มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 13


[ 24 ธ.ค. 2554 ] - [ 18275 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ.2554
Case Study กรณีศึกษากฎแห่งกรรม


มหาเสนาบดี ผู้ยิ่งใหญ่ ตอนที่ 13
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา 
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วก็นำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์อย่างใกล้ชิด
 
เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์อย่างใกล้ชิด
 
        หลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีได้นำช่อดอกไม้มงคล ไปติดประดับไว้ที่หน้าบ้านของท่านเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านมหาเสนาบดีก็ได้ทราบเรื่องจากคุณพ่อของท่าน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ว่า ในตอนนี้ พระราชาและพระราชโอรส ได้เสด็จมาทอดพระเนตรงานเทศกาลฉลองประจำปีที่เมืองนี้เป็นการส่วนพระองค์ เพื่อที่พระองค์จะได้ทรงทอดพระเนตรความเป็นอยู่ของพสกนิกรของพระองค์อย่างใกล้ชิด
 
เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ทราบเรื่องจาก คุณพ่อของท่าน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่นนั้น    ท่านมหาเสนาบดีก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มอยู่ในใจ
 
เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ทราบเรื่องจาก คุณพ่อของท่าน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่
เช่นนั้น    ท่านมหาเสนาบดีก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มอยู่ในใจ 
 
        เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้ทราบเรื่องจาก คุณพ่อของท่าน ซึ่งเป็นข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ เช่นนั้น    ท่านมหาเสนาบดีก็อดไม่ได้ที่จะอมยิ้มอยู่ในใจ ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะตัวท่านเพิ่งได้ไปพบกับพระราชโอรส  ซึ่งได้เสด็จหลบออกมาจากพลับพลาที่ประทับ   เพราะทรงต้องการที่จะเห็นความเป็นอยู่ของพสกนิกรอย่างใกล้ชิดมาเรียบร้อยแล้ว
   
        และที่สำคัญ ตัวท่านมหาเสนาบดีเองยังได้ปฏิบัติภารกิจพิเศษที่ตื่นเต้นและสนุกสนานร่วมกับพระราชโอรสมาด้วย นั่นก็คือ การชิงช่อดอกไม้มงคล และจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ก็ยิ่งทำให้ตัวท่านเองรู้สึกปลาบปลื้มในพระปรีชาสามารถและปฏิภาณไหวพริบของพระราชโอรสอย่างมาก  อีกทั้งยังทำให้ท่านมหาเสนาบดีมีความสนิทสนมคุ้นเคยกับพระราชโอรสมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วย
 
พระราชโอรสเกิดความคิดขึ้นมาว่าในอนาคตถ้าได้ท่านมหาเสนาบดีมาร่วมงานด้วย  ท่านมหาเสนาบดีน่าจะสามารถทำงานร่วมกับพระองค์ได้เป็นอย่างดี
 
พระราชโอรสเกิดความคิดขึ้นมาว่าในอนาคตถ้าได้ท่านมหาเสนาบดีมาร่วมงาน
ด้วย  ท่านมหาเสนาบดีน่าจะสามารถทำงานร่วมกับพระองค์ได้เป็นอย่างดี
 
        ส่วนพระราชโอรส หลังจากได้ร่วมปฏิบัติการชิงช่อดอกไม้มงคลร่วมกับท่านมหาเสนาบดีในงานเทศกาลเฉลิมฉลองประจำปีของเมืองในครั้งนี้แล้ว พระองค์ก็ทรงรู้สึกชื่นชมในฝีไม้ลายมือขอท่านมหาเสนาบดีเป็นอย่างมาก   เพราะฝีไม้ลายมือของท่านเสนาบดีนั้นที่ไม่ธรรมดาจริงๆ
 
        และด้วยความไม่ธรรมดาของท่านมหาเสนาบดีนี่เอง  จึงทำให้ พระราชโอรสเกิดความคิดขึ้นมาว่าในอนาคตถ้าได้ท่านมหาเสนาบดีมาร่วมงานด้วย  ท่านมหาเสนาบดีน่าจะสามารถทำงานร่วมกับพระองค์ได้เป็นอย่างดี  เพราะท่านมหาเสนาบดีเป็นผู้ที่เพียบพร้อมไปด้วยความสามารถและความเคารพอ่อนน้อมแบบหาตัวจับยาก
 
ท่านมหาเสนาบดีจึงได้ขอโอกาสพระราชโอรส ในการเอ่ยถามถึงข้อสงสัยที่ตัวท่านอัดอั้นตันใจมานาน
 
ท่านมหาเสนาบดีจึงได้ขอโอกาสพระราชโอรส ในการเอ่ยถามถึงข้อสงสัยที่ตัวท่านอัดอั้นตันใจมานาน  
 
        ในเวลาต่อมา เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้มีโอกาสพบกับพระราชโอรสอีกครั้ง ท่านมหาเสนาบดีจึงได้ขอโอกาสพระราชโอรส ในการเอ่ยถามถึงข้อสงสัยที่ตัวท่านอัดอั้นตันใจมานาน   นั่นก็คือในยามที่พระราชโอรสทรงทอดพระเนตรการแสดงวิชาต่อสู้หรือยุทธวิธีทางการทหาร พระองค์กลับทรงรู้สึกไม่แสดงออกถึงอาการยินดียินร้ายใดๆ ในการแสดงต่างๆ    ประหนึ่งราวกับว่า พระองค์ทรงมีเรื่องไม่สบายพระทัยอยู่ตลอดเวลา  ซึ่งก็ทำให้เหล่านายทหารใหม่ไม่กล้าเข้าหา  เพราะกลัวจะเป็นการขัดพระราชหฤทัย
 
แต่พอพระองค์ได้เสด็จประทับอยู่ท่ามกลางเด็กๆ  พระองค์กลับทรงรู้สึกเบิกบานใจ
  
 แต่พอพระองค์ได้เสด็จประทับอยู่ท่ามกลางเด็กๆ  พระองค์กลับทรงรู้สึกเบิกบานใจ
 
        แต่พอพระองค์ได้เสด็จประทับอยู่ท่ามกลางเด็กๆ  พระองค์กลับทรงรู้สึกเบิกบานใจ  มีความสุข   มีชีวิตชีวาดูเป็นธรรมชาติ และไม่ถือพระองค์เลยแม้แต่นิดเดียว ซึ่งพระจริยวัตรเช่นนี้ เป็นพระจริยวัตรที่งดงามน่าเข้าใกล้ยิ่งนัก
 
ที่สำคัญก็คือ พระองค์ทรงมีความรัก, ความเมตตาต่อชาวบ้านและพวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก
 
ที่สำคัญก็คือ พระองค์ทรงมีความรัก, ความเมตตาต่อชาวบ้านและพวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก 
 
        และที่สำคัญก็คือ พระองค์ทรงมีความรัก, ความเมตตาต่อชาวบ้านและพวกเด็กๆ เป็นอย่างมาก  ครั้นพระองค์ทรงเห็นพวกเด็กๆ กำลังมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกัน   พระองค์ก็ทรงไม่นิ่งดูดาย รีบอาสาเข้าไปช่วย

        ไกล่เกลี่ยเพื่อไม่ให้พวกเด็กๆ ทั้งสองฝ่ายตีกันหรือทะเลาะกัน แถมยังสามารถสอนคุณธรรมเรื่องการแบ่งปันให้กับพวกเด็กๆ ที่ดูเหมือนจะดื้อด้านไม่ฟังเสียงใคร ได้เข้าใจในสิ่งที่พระองค์ทรงสอน จนเด็กๆ เหล่านั้นสามารถนำไปใช้ได้อย่างง่ายๆ อีกด้วย ซึ่งความสงสัยเหล่านี้ แม้ปัญญาระดับหัวกะทิขั้นเทพอย่างท่าน   ยังไม่อาจที่จะค้นหาคำตอบนี้ได้
 
 เมื่อพระราชโอรส ทรงได้ฟังข้อสงสัยที่ท่านมหาเสนาบดีติดค้างอยู่ภายในใจเช่นนั้น  พระองค์ก็ทรงพระสรวลแต่พองาม
 
 เมื่อพระราชโอรส ทรงได้ฟังข้อสงสัยที่ท่านมหาเสนาบดี
ติดค้างอยู่ภายในใจเช่นนั้น  พระองค์ก็ทรงพระสรวลแต่พองาม
 
        เมื่อพระราชโอรส ทรงได้ฟังข้อสงสัยที่ท่านมหาเสนาบดีติดค้างอยู่ภายในใจเช่นนั้น  พระองค์ก็ทรงพระสรวลแต่พองาม คือ แย้มยิ้มแบบนิดๆ  แล้วพระองค์ก็ทรงเฉลยปริศนาทั้งหมดให้ท่านมหาเสนาบดี ฟังในทำนองที่ว่า
 
        ในตอนที่ พระองค์จะต้องเสด็จตามพระราชบิดาไปที่โรงเรียนฝึกนายทหาร หรือ โรงเรียนเตรียมทหารนั้น พระองค์ก็ทรงเข้าใจเรื่องวิชาการต่อสู้ หรือยุทธวิธีทางการทหาร และเรื่องการปกครองเป็นอย่างดีแล้ว แต่ที่พระองค์ทรงมีความรู้สึกนิ่งเฉยต่อหน้านายทหารทุกคนนั้น ก็เป็นเพราะ พระองค์ไม่โปรดให้มีการรบพุ่งกัน เพราะการรบราฆ่าฟันกันมีแต่ความสูญเสียทั้งชีวิตและเลือดเนื้อ
 
ตัวพระองค์เองก็ไม่ได้มีความปรารถนาอยากที่จะเป็นพระราชาเลย
 
ตัวพระองค์เองก็ไม่ได้มีความปรารถนาอยากที่จะเป็นพระราชาเลย 
 
        อีกทั้ง ตัวพระองค์เองก็ไม่ได้มีความปรารถนาอยากที่จะเป็นพระราชาเลย ที่พระองค์ทรงคิดเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะภายในใจลึกๆ พระองค์ทรงมีความรู้สึกว่า  พระองค์ทรงมีภารกิจอันยิ่งใหญ่บางอย่างรออยู่ข้างหน้า  ซึ่งเป็นภารกิจที่สำคัญยิ่งกว่าการครองราชย์สมบัติเป็นพระราชาแต่ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังไม่รู้ว่าภารกิจนั้นคืออะไร
 
พระองค์จึงทรงเป็นห่วงพวกเด็กๆ และไม่อยากให้พวกเด็กๆ เป็นคนไม่ดี
 
  พระองค์จึงทรงเป็นห่วงพวกเด็กๆ และไม่อยากให้พวกเด็กๆ เป็นคนไม่ดี 
 
        ส่วนในเวลาที่พระองค์เสด็จประทับอยู่ท่ามกลางเด็กๆ ซึ่งมีแต่ความใสซื่อบริสุทธิ์นั้น  แล้วพระองค์ทรงมีสีหน้าที่ดูเบิกบาน   และมีความสุขมากกว่าตอนที่ไปดูการฝึกซ้อมของทหารนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ เวลาที่พระองค์ได้อยู่กับเด็กๆ ความมีชีวิตชีวาและความเป็นธรรมชาติของเด็กๆ มันช่วยทำให้พระองค์พลอยมีความสุขไปด้วย
 
        อีกทั้ง ด้วยอัธยาศัยส่วนตัวของพระองค์เป็นคนรักเด็กอยู่แล้ว   พระองค์จึงทรงเป็นห่วงพวกเด็กๆ และไม่อยากให้พวกเด็กๆ เป็นคนไม่ดี   ดังนั้น ทันทีที่พระองค์เห็นพวกเด็กๆ กำลังทะเลาะกัน   และเตรียมที่จะใช้ความรุนแรงต่อกัน   พระองค์จึงต้องรีบเข้าไปห้าม
 
เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้รับทราบความจริงจากใจของพระราชโอรสแล้ว  ท่านมหาเสนาบดีจึงรู้สึก ตื้นตันใจและทรงเลื่อมใสในพระราชโอรสเป็นอย่างยิ่ง
 
  เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้รับทราบความจริงจากใจของพระราชโอรสแล้ว 
 ท่านมหาเสนาบดีจึงรู้สึก ตื้นตันใจและทรงเลื่อมใสในพระราชโอรสเป็นอย่างยิ่ง
 
        เมื่อท่านมหาเสนาบดีได้รับทราบความจริงจากใจของพระราชโอรสแล้ว  ท่านมหาเสนาบดีจึงรู้สึก ตื้นตันใจและทรงเลื่อมใสในพระราชโอรสเป็นอย่างยิ่งว่า แท้ที่จริงแล้ว พระราชโอรสไม่ได้เป็นคนที่ติดในยศถาบรรดาศักดิ์ หรือ ถือพระองค์ว่าสูงศักดิ์แต่อย่างใดเลย อีกทั้ง พระองค์ยังทรงรักและมีความห่วงใยในประชาชนของพระองค์ด้วยดวงใจที่ใสสะอาดบริสุทธิ์อย่างแท้จริงอีกด้วย
 
หลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีสำเร็จการศึกษาแล้ว ท่านก็ได้รับคำสั่งด่วนพิเศษให้ไปประจำการอยู่ที่หน่วยทหารในหัวเมืองแห่งหนึ่งในทันที
 
หลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีสำเร็จการศึกษาแล้ว ท่านก็ได้รับคำสั่ง
ด่วนพิเศษให้ไปประจำการอยู่ที่หน่วยทหารในหัวเมืองแห่งหนึ่งในทันที
 
        หลังจากงานเทศกาลฉลองประจำปีในเมืองของท่านมหาเสนาบดีผ่านพ้นไป  กอปรกับช่วงเวลาแห่งการปิดภาคเรียนได้หมดลงแล้ว  ท่านมหาเสนาบดีจึงได้กลับไปศึกษาเล่าเรียนวิชาการทหาร หลักสูตรภาคพิเศษ ต่อ จนกระทั่ง ตัวท่านได้สำเร็จการศึกษาวิชาทหาร
 
        ซึ่งหลังจากที่ท่านมหาเสนาบดีสำเร็จการศึกษาแล้ว ท่านก็ได้รับคำสั่งด่วนพิเศษให้ไปประจำการอยู่ที่หน่วยทหารในหัวเมืองแห่งหนึ่งในทันที  ทำไม ท่านมหาเสนาบดีจะต้องไปประจำการอยู่ที่หัวเมืองแห่งนั้น แล้วทำไม ส่วนกลางจะต้องเฉพาะเจาะจงว่าต้องเป็นท่านมหาเสนาบดีด้วย เรื่องนี้ต้องมีเหตุ
 
        ส่วนว่าเหตุนั้น เป็นอย่างไรเราก็คงจะต้องมาติดตามกันในตอนต่อไป 
  
 
กรณีศึกษากฎแห่งกรรมจากชีวิตจริง (Case study in real life)

     บุคคลที่ปรากฏในเรื่องราวต่อไปนี้ มีตัวตนจริงในปัจจุบัน ประสบชะตากรรมขึ้นลงตามกระแสของวัฏฏะและกฎแห่งกรรม (ชมตัวอย่างบทสัมภาษณ์จากรายการชีวิตในสังสารวัฏ) ผู้อ่าน-ผู้ชมก็อย่าเพิ่งเชื่อหรือปฏิเสธในทันที ควรศึกษาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา แล้วค่อยนำไปเป็นอุทธาหรณ์ในการดำเนินชีวิตต่อไป

     "วิชชาธรรมกาย" เป็นความรู้ดั้งเดิมในพระพุทธศาสนา เมื่อปฏิบัติแล้วสามารถไปรู้ไปเห็นเรื่องราวกฎแห่งกรรม การเวียนว่ายในภพภูมิต่างๆ ตรงตามพระธรรมคำสอนในพระไตรปิฎก วิชชาธรรมกายจึงเป็นหลักฐานยืนยันการตรัสรู้ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งทันสมัยตลอดกาล (อกาลิโก)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
DMC ที่โซโลมอนDMC ที่โซโลมอน

Solomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคนSolomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคน

เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน