ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2555
อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 6
อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 6
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ในขณะที่พระมหากัสสปะกำลังถือบาตรมุ่งหน้าเดินทางไปโปรดหญิงเข็ญใจอยู่นั้น ท้าวสักกะเทวราชก็ได้จำแลงแปลงกายมาเป็นมนุษย์
ในขณะที่พระมหากัสสปะกำลังถือบาตรมุ่งหน้าเดินทางไปโปรดหญิงเข็ญใจอยู่นั้น ท้าวสักกะเทวราชก็ได้จำแลงแปลงกายมาเป็นมนุษย์ แล้วก็ได้ไปดักรอใส่บาตรพระเถระก่อนที่ท่านจะเดินไปถึงบ้านที่หญิงเข็ญใจคนนั้นไปขออาศัยอยู่แต่ด้วยความที่ท้าวสักกะเทวราชเตรียมการมาไม่เนียนพอ คือภัตตาหารของท่านมีความวิจิตรประณีตเกินกว่าภัตตาหารที่มนุษย์ทั่วๆ ไปจะปรุงได้ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้พระเถระรู้ได้ทันทีว่า “ บุคคลท่านนี้ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาอย่างแน่นอน ”
บุคคลท่านนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาเดินดิน แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นท้าวสักกะเทวราชที่จำแลงแปลงกายมานี่เอง
และเมื่อพระมหากัสสปะตรวจดูด้วยญาณทัสสนะของท่านแล้ว ท่านก็ทราบว่า “ บุคคลท่านนี้ไม่ได้เป็นมนุษย์ธรรมดาเดินดิน แต่แท้ที่จริงแล้วกลับเป็นท้าวสักกะเทวราชที่จำแลงแปลงกายมานี่เอง ” เมื่อพระมหากัสสปะทราบเช่นนี้แล้ว ท่านจึงได้ห้ามท้าวสักกะเทวราชไปว่า “ ขอท่านจงอย่าได้มาแย่งบุญของคนยากไร้เลย ” ด้วยเหตุนี้เอง ท้าวสักกะเทวราชจึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานแห้ว เพราะอดได้บุญการใส่บาตรพระเถระ แต่ถึงกระนั้นท้าวสักกะเทวราชก็ยังไม่ยอมแพ้ ยังเฝ้ารอคอยที่จะอนุโมทนาบุญกับหญิงเข็ญใจคนนั้นอย่างใจจดใจจ่อ
นางจึงได้กล่าวกับพระมหากัสสปะไปว่า “ ขอพระเถระจงโปรดสัตว์ข้างหน้าต่อไปเถิด ”
เมื่อพระมหากัสสปะเดินทางไปถึงหน้าบ้านที่หญิงเข็ญใจคนนั้นได้ไปขออาศัยอยู่ ทันทีที่หญิงเข็ญใจคนนั้นได้เห็นพระมหากัสสปะ นางก็เกิดความคิดขึ้นมาในใจว่า “พระเถระรูปนี้แลดูเป็นผู้มีบุญญาธิการสูงส่ง ส่วนตัวเรานั้น ก็เป็นแค่เพียงหญิงต่ำต้อย ไม่มีข้าวปลาอาหารอะไรที่สมควรกับท่านเลย จะมีก็แค่เพียงน้ำข้าวและข้าวตังอันจืดชืดที่อยู่ในจานไม่สะอาดนี้เท่านั้น ดังนั้น เราคงไม่อาจที่จะถวายทานแด่พระเถระได้” เมื่อนางมีความคิดและความรู้สึกเช่นนั้น นางจึงได้กล่าวกับพระมหากัสสปะไปว่า “ ขอพระเถระจงโปรดสัตว์ข้างหน้าต่อไปเถิด ”
หญิงเข็ญใจคนนั้นก็ไม่รอช้า ได้บรรจงเกลี่ยข้าวตังลงในบาตรของพระมหากัสสปะด้วยความเคารพนอบน้อม
เมื่อพระมหากัสสปะได้ยินเช่นนั้น ท่านก็ยังคงยืนสบงนิ่งและไม่ขยับเท้าก้าวไปไหนเลยแม้แต่นิดเดียว และแม้ผู้คนทั้งหลายในบ้านจะพากันนำภัตตาหารที่ประณีตมาถวายแด่ท่าน ท่านก็ยังคงยืนสงบนิ่งปิดฝาบาตรและไม่รับภัตตาหารจากคนเหล่านั้นเลย
เมื่อเป็นเช่นนี้ จึงทำให้หญิงเข็ญใจผู้นั้นรู้ได้ทันทีว่า “ พระเถระต้องการที่จะมาโปรดตัวนางโดยเฉพาะ” ด้วยเหตุนี้เอง นางจึงได้เดินไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าพระเถระ เมื่อหญิงเข็ญใจได้ไปนั่งคุกเข่าอยู่ด้านหน้าพระมหากัสสปะแล้ว พระเถระก็ได้เมตตาเปิดฝาบาตร แล้วหญิงเข็ญใจคนนั้นก็ไม่รอช้า ได้บรรจงเกลี่ยข้าวตังลงในบาตรของพระมหากัสสปะด้วยความเคารพนอบน้อม
ท่านก็ได้กล่าวอนุโมทนาสาธุการและบอกให้หญิงเข็ญใจผู้นั้นได้รู้ว่า “นางเคยเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดตัวท่านเมื่อ 3 ชาติที่ผ่านมา”
ภายหลังจากที่พระมหากัสสปะรับบาตรจากหญิงเข็ญใจคนนั้นมาแล้ว ด้วยความที่ท่านต้องการที่จะให้นางเกิดความรู้สึกปลื้มปีติยิ่งๆ ขึ้นไป ด้วยเหตุนี้เองท่านจึงได้นั่งฉันภัตตาหารอยู่ที่บริเวณแห่งนั้นในทันที และเมื่อพระมหากัสสปะฉันภัตตาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว ท่านก็ได้กล่าวอนุโมทนาสาธุการและบอกให้หญิงเข็ญใจผู้นั้นได้รู้ว่า “นางเคยเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดตัวท่านเมื่อ 3 ชาติที่ผ่านมา” ทันทีที่นางได้ยินเช่นนั้น ความปลื้มปีติใจแบบไร้ขีดจำกัดก็ได้เอ่อล้นไปทั่วร่างกายของนาง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้หญิงเข็ญใจมีความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ นางไม่คาดคิดคาดฝันเลยว่า “ ตัวเธอเองจะเคยมีโอกาสเป็นมารดาของพระผู้มีบุญญาธิการสูงส่งที่อยู่ต่อหน้าของเธอเช่นนี้ ” จากนั้น พระมหากัสสปะก็ได้เดินทางกลับเพื่อไปบำเพ็ญสมณธรรมต่อไป
หลังจากที่นางได้เสียชีวิตไปแล้ว นางก็ได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาสุดสวยโสภาอยู่ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดีในทันที
เมื่อถึงเวลากลางคืนของวันนั้น หญิงเข็ญใจก็ได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหัน และหลังจากที่นางได้เสียชีวิตไปแล้ว นางก็ได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาสุดสวยโสภาอยู่ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดีในทันที เมื่อท้าวสักกะเทวราชทรงทราบว่านางได้เสียชีวิตลงไปแล้ว พระองค์ก็ทรงมีพระประสงค์ อยากที่จะรู้ว่า “ นางไปบังเกิดอยู่ที่ไหน ” ด้วยเหตุนี้เอง พระองค์จึงทรงตรวจดูทั่วทั้งภพดาวดึงส์ด้วยทิพยจักษุ แต่เมื่อพระองค์ทรงตรวจดูแล้ว พระองค์ก็พบนางไม่ได้อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์แห่งนั้นเลย เมื่อเป็นเช่นนี้ พระองค์จึงได้ ไปกราบพระมหากัสสปะ แล้วก็ได้เรียนถามถึงสถานที่บังเกิดขึ้นของหญิงเข็ญใจคนนั้น
พระมหากัสสปะก็
ได้เฉลยคำตอบแก่ท้าวสักกะเทวราชว่า
เมื่อหญิงเข็ญใจคนนั้นละอัตภาพจากกายมนุษย์ไปแล้ว ด้วยผลแห่งบุญที่นางได้ถวายข้าวตังแด่เราเอา
ซึ่งพระมหากัสสปะก็ได้เฉลยคำตอบแก่ท้าวสักกะเทวราชว่า “ เมื่อหญิงเข็ญใจคนนั้นละอัตภาพจากกายมนุษย์ไปแล้ว ด้วยผลแห่งบุญที่นางได้ถวายข้าวตังแด่เราเอาไว้นี้เอง จึงส่งผลทำให้นางได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาอยู่ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดีในทันที ”
เมื่อท้าวสักกะทรงทราบถึงอานิสงส์แห่งบุญที่ยิ่งใหญ่อย่างนั้น พระองค์จึงตรัสสรรเสริญทานของนางว่า “ ทานของหญิงลำเค็ญที่ได้ทำไว้ในเนื้อนาบุญอันเลิศอย่างเช่นพระมหากัสสปะให้ผลที่น่าอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังให้ผลที่มากมายมหาศาลเกินควรเกินคาดเลยทีเดียว ขนาดที่ว่าบุญที่ทำให้เป็นพระเจ้าจักรพรรดิผู้ปกครองทวีปทั้งสี่และมีสมบัติมากมายบุญนี้ก็ยังไม่ถึงเศษเสี้ยวส่วนที่ 16 หรือไม่ถึง 6.25 เปอร์เซ็นต์ ของผลแห่งบุญที่นางได้ถวายทานแด่พระมหากัสสปะเอาไว้เพียงครั้งเดียว”
เราจะเห็นได้ถึงคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ของพระมหากัสสปะ คือท่านมีเมตตาธรรมที่เปี่ยมล้นในการโปรดมหาชน
จากเรื่องราวของอาจามะทายิกาเทพธิดา หรือเทพธิดาผู้ถวายข้าวตังนี้ เราจะเห็นได้ถึงคุณธรรมที่ยิ่งใหญ่ของพระมหากัสสปะ คือท่านมีเมตตาธรรมที่เปี่ยมล้นในการโปรดมหาชน โดยไม่เลือกชนชั้นวรรณะและก็ไม่เลือกที่รักผลักที่ชัง อีกทั้งท่านก็ไม่ได้ติดในเรื่องภัตตาหารด้วยว่า
“ ท่านจะต้องได้รับบิณฑบาตหรือภัตตาหารดีๆ มาหล่อเลี้ยงสังขาร ” แต่ท่านจะมองถึงประโยชน์หรือผลแห่งบุญที่จะเกิดขึ้นกับผู้ถวายทานเป็นหลักไม่ใช่เพียงเท่านั้นท่านยังถือว่าเป็นสุดยอดของผู้ที่มีความกตัญญูกตเวทีอีกด้วย เพราะท่านได้ไปโปรดอดีตมารดาของท่านไม่ให้พลัดไปเกิดในอบายและให้ได้บุญใหญ่กับท่านด้วย ซึ่งก็เป็นผลทำให้อดีตมารดาของท่านได้ไปบังเกิดเป็นเทพธิดาอยู่ในสวรรค์ชั้นนิมมานรดีนั่นเอง
สำหรับเรื่องราวเกี่ยวกับคุณธรรมของพระมหากัสสปะก็ยังไม่จบลงเพียงเท่านี้ เพราะเรื่องราวของท่านยังมีสิ่งที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์ต่อการนำไปปฏิบัติอีกมากมาย ส่วนว่าเรื่องราวเหล่านั้นจะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร เราคงจะต้องมาติดตามกันต่อในวันถัดไป
อานิสงส์การถือธุดงควัตร (ภาคพิเศษ) ตอนที่ 1, ตอนที่ 2, ตอนที่ 3, ตอนที่ 4, ตอนที่ 5, ตอนที่ 7, ตอนที่ 8, ตอนที่ 9, ตอนที่ 10, ตอนที่ 11, ตอนที่ 12, ตอนที่ 13