อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ตอน หลวงปู่ช่วย อดีตรองแชมป์มวยโลก

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 8 ตุลาคม พ.ศ.2555

อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ 

 

ตอน.. หลวงปู่ช่วย อดีตรองแชมป์มวยโลก

เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา

 

 

กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ

 

       
    ลูกชื่อ องุ่น  สุขเจริญ เป็นลูกหลานทางสายเลือดแท้ ๆ ของหลวงปู่ค่ะ

 

น้าองุ่น  สุขเจริญ  หลานหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ

     วันนี้ลูกก็มีเรื่องจากลุงหลอมมาฝากอีกตามเคยค่ะ  พอลูกฟังจากลุงหลอมแล้วก็รู้สึกทึ่งในอานุภาพของหลวงปู่มากๆค่ะ  เรื่องมีอยู่ว่า..ในช่วงที่หลวงปู่อาพาธหนัก ทางทีมงานอุปัฏฐากก็จะไม่ให้ใครเข้าไปรบกวนท่าน แต่มีอยู่วันหนึ่ง..เวลาประมาณบ่ายสามโมงเย็น มีแขกคนหนึ่งขอเข้ามากราบท่าน ลุงหลอมจึงอธิบายว่า “ขณะนี้หลวงพ่ออาพาธหนัก รับแขกไม่ไหวแล้ว คุณกลับไปเสียเถอะ” แล้วลุงก็ปิดประตูกุฏิ

 

     จนกระทั่งเวลาผ่านไประยะหนึ่ง พอลุงหลอมเปิดประตูมาอีกที แขกคนนั้น..ก็ยังไม่ยอมไปไหน ยังคงเฝ้าอยู่ที่หน้ากุฏิเหมือนเดิม จนลุงหลอมต้องไปขอร้องเขาว่าให้กลับไปอีก แต่เขาก็อ้อนวอนว่า “จะต้องไปชกมวยที่ฝรั่งเศส จะมาขอบารมีหลวงพ่อ ขออนุญาตเข้าไปกราบหลวงพ่อสักนิดเถอะ ขอสัญญาว่าจะไม่ชวนหลวงพ่อคุยหรอก”

 

     เมื่อลุงหลอมฟังดังนั้น..จึงเดินกลับเข้าไปในกุฏิ แล้วเรียนให้หลวงปู่ทราบ ซึ่งหลวงปู่ก็อนุญาต แต่ลุงหลอมก็พูดกำชับกับแขกคนนั้นอีกว่า “อย่าชวนหลวงพ่อคุยนะ” จากนั้นพอแขกคนนี้คลานเข้าไปหาหลวงปู่  หลวงปู่ท่านก็เอื้อมมือไปจับศีรษะของเขา แล้วก็ว่าคาถาสั้นๆ จากนั้นก็เป่ากระหม่อมให้ 3 ที  แล้วแขกคนนั้น..ก็คลานกลับออกมาจากกุฏิ

 

 

   ลุงฉลอม  มีแก้วน้อย   ปัจจุบัน..ยังมีชีวิตอยู่ อายุ  91 ปี

    ต่อมาอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น...แขกคนนี้ก็มาวัดปากน้ำอีก โดยนำเงินมามอบให้ลุงประยูร(ไวยาวัจกรของวัด) เพื่อทำบุญกับหลวงปู่ แล้วเขาก็คุยกับลุงหลอมว่า เขา คือ สามารถ ศรแดง เป็นนักมวยมีฉายาในวงการว่า “เชน” (ซึ่งเป็นแชมป์มวยไทย และแชมป์มวยสากล รุ่นเวลเตอร์เวท ซึ่งตอนหลังได้เป็นรองแชมป์โลก) โดยเขาบอกลุงหลอมว่า เขาชกชนะ พอได้เงินรางวัลมา..ก็เลยแบ่งมาถวายหลวงปู่ 

 

ชกชนะเพราะมาขอบารมีหลวงปู่

บารมีหลวงปู่ช่วยให้รอด

     จากนั้น..รองแชมป์โลกคนนั้น...เขาก็กล่าวขอบคุณลุงหลอมเป็นการใหญ่ โดยบอกว่า “ถ้าวันนั้น..ลุงไม่ให้ผมเข้าพบหลวงพ่อ ผมต้องตายแน่ เพราะหลังจากหลวงปู่จับศีรษะมาเป่ากระหม่อมให้แล้ว ขณะที่ผมเดินออกจากวัดปากน้ำไป เข้าเขตวัดขุนจันทร์ ปรากฏว่ามีคน 3 คน ซุ่มดักลอบฆ่าเขาแบบเอาตาย  ในขณะที่สู้กัน หนึ่งในนั้น..ถือมีดโกนคมกริบปาดไปที่คอผมอย่างจัง ซึ่งถ้าใครโดนอย่างผมตอนนั้นยังไงก็ไม่รอดแน่ๆ แต่แปลกมาก คือ ปาดแล้ว..มันไม่เข้า เป็นแค่รอยไหม้ เป็นทางคล้ายยางบอนพาดอยู่ที่คอ ซึ่งพอคนร้ายเห็นดังนั้นก็ตกใจมาก ที่เห็นว่า..ผมหนังเหนียวปาดไม่เข้า ก็เสียขวัญ ซึ่งขณะที่คนร้ายกำลัง "งง" ผมจึงได้ที คว้าโอกาสเตะต่อยคนร้ายทั้งสาม จนวิ่งกระเจิงหนีไป” ซึ่งตอนหลังเขามาสืบรู้ว่า คนที่ลอบทำร้ายเขาแบบเอาตายนั้น เป็นคนที่นักมวยรุ่นพี่ส่งมา เพราะหมั่นไส้และแค้นที่เขาไม่ยอมสวามิภักดิ์เหมือนนักมวยคนอื่นๆ

 

หลวงปู่มอบพระประจำตัวของท่านให้กับลุงหลอม

    จากนั้นลุงหลอมก็เล่าต่ออีกว่า..ในช่วงที่หลวงปู่อาพาธหนัก มีอยู่วันหนึ่งช่วงบ่าย ขณะที่ท่านนั่งอยู่บนเก้าอี้หวาย ท่านก็บอกกับลุงหลอมว่า “กูมันถึงกำหนดแล้ว หมอให้วิเศษอย่างไร..ก็เอากูไม่อยู่แล้ว กูจะต้องไป ยาหยูก หมอเขาให้กิน..กูก็กิน แต่กูรู้ว่า..มันไม่หายหรอก กูต้องไปชุดนี้แหละ” และหลังจากนั้น 2 เดือน หลวงปู่ท่านก็มอบพระของขวัญประจำตัวท่าน ให้กับลุงหลอมเอาไว้เป็นเครื่องตรึกระลึกถึงท่านในยามที่ท่านไม่อยู่  ซึ่งพอหลวงปู่ยื่นให้.. ลุงหลอมก็รับมาแบบงงๆ เพราะคิดในใจว่า เอ..หลวงพ่อท่าจะหลงแล้ว อยู่ๆ มาให้พระเรา ที่ลุงหลอมคิดอย่างนี้ เพราะตลอดเวลาลุงหลอมเข้าใจว่า หลวงปู่ไม่รักตนเอง เนื่องจากลุงหลอมโดนหลวงปู่ดุมาตั้งแต่เล็กจนถึงป่านนี้ อีกทั้งคนที่ลุงหลอมคิดว่า..คนที่เหมาะสมควรจะได้พระประจำตัวของหลวงปู่องค์นี้ ก็คือ พระครูเจียก ซึ่งเป็นพระอุปัฏฐากใกล้ชิดหลวงปู่ ที่หลวงปู่ไว้ใจ..ให้มอบพระของขวัญแก่สาธุชนแทนท่านในช่วงที่ท่านอาพาธ เมื่อลุงหลอมคิดดังนั้น..ลุงหลอมจึงเอาพระไปถวายคืนหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ก็พูดให้ลุงหลอมแน่ใจว่า “พระนี่..กูให้มึง เก็บไว้ให้ดี อย่าให้หาย เป็นพระประจำตัวของกู” ซึ่งลุงหลอมดีใจมากค่ะ บอกว่าใครเอาเงินมาให้สักล้าน ก็ยังไม่ดีใจเท่าได้พระองค์นี้เลย  ซึ่งตอนหลังลุงหลอมได้นำมาถวายพระเดชพระคุณคุณครูไม่ใหญ่ เพื่อทำคุณประโยชน์กับวิชชาธรรมกายต่อไป...

 

    หลวงพ่อคะ..แม้ลุงหลอมมักจะโดนหลวงปู่ดุบ่อย แต่เป็นเพราะหลวงปู่ท่านรักและเมตตาลุงหลอมมาก ซึ่งในระหว่างที่หลวงปู่อาพาธ ท่านก็ได้บอกเคล็ดวิชชากับลุงหลอมไว้ว่า  “หลังจากกูไปแล้ว... ถ้าคิดถึง จะบูชาบอกเล่าแล้ว(ขอบารมี) ก็ให้ใช้ดอกมะลิ แล้วทุกอย่างจะสำเร็จ แล้วให้รู้จักมัธยัสถ์ หาได้ใช้เป็น เหมือนอย่างนายห้างฯสวัสดิ์ และคุณหญิงล้อม ผู้ก่อตั้งห้างขายยาโอสถสภา(เต็กเฮงหยู)” ซึ่งเป็นทานบดีคนสำคัญของวัดปากน้ำ

 

     สุดท้ายนี้. เรื่องราวเกี่ยวกับความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่จะยังไม่จบ โปรดติดตามตอนต่อไป