ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 13 มกราคม พ.ศ.2556Case Studyโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 2เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาในช่วงที่มีการจัดงานบำเพ็ญกุศลสวดพระอภิธรรมให้กับคุณพ่อของลูกนั้น หลังจากที่ตัวลูกและทุกคนในครอบครัวได้ทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่าน ไม่ว่าจะเป็นบุญถวายภัตตาหารเป็นสังฆทาน หรือบุญฟังสวดพระอภิธรรม เป็นต้น แล้วภาพของการสั่งสมบุญที่ตัวลูก และทุกคนได้ตั้งใจทำให้กับกายละเอียดคุณพ่อของลูก ก็ได้ไปปรากฏฉายอยู่ภายในใจของท่าน แต่ด้วยความที่ตัวท่านมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องการสั่งสมบุญในพระพุทธศาสนาแค่เพียงระดับหนึ่ง จึงทำให้ตัวท่านไม่ได้อนุโมทนาบุญร่วมกับทุกๆ คนภาพของการสั่งสมบุญที่ตัวลูกและทุกคน ได้ตั้งใจทำให้กับกายละเอียดคุณพ่อของลูก ได้ไปปรากฏฉายอยู่ภายในใจของท่านเมื่อเป็นเช่นนี้ ผลแห่งบุญที่เกิดขึ้นกับตัวท่าน จึงมีปริมาณที่ไม่เต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น แต่ถึงกระนั้นผลแห่งบุญที่ตัวลูกและทุกคนในครอบครัวได้ทำ แล้วก็อุทิศส่งไปให้กับท่าน ก็ได้ส่งผลทำให้ใจของท่านเกิดความชุ่มเย็น และมีความสุขใจเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังทำให้กายละเอียดของท่านเกิดความผ่องใสและสว่างไสวมากขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วยและเมื่อถึงช่วงก่อนวันที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจร่างคุณพ่อของลูก กายละเอียดคุณพ่อของลูกก็ได้รู้ว่า “ร่างของท่านกำลังจะถูกเผาในอีกไม่ช้า” เมื่อตัวท่านได้รู้เช่นนั้น ด้วยความที่ตัวท่านมีความเข้าใจผิดคิดว่า “ถ้าหากร่างของท่านถูกเผาไปแล้ว ตัวท่านก็จะไม่ได้อยู่ใกล้ๆ กับทุกคนในครอบครัวและโรงเรียนของท่านอีกต่อไป”ตัวท่านพยายามเข้าไปพูดอยู่ใกล้ๆ กับทุกคน ในช่วงที่แต่ละคนกำลังจะหลับด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ตัวท่านเกิดความรู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก จนถึงขั้นต้องพยายามไปเข้าฝันคนที่ตัวท่านรู้จักหลายๆ คน ทั้งคนในครอบครัวและคุณครูที่สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งนั้น โดยตัวท่านจะพยายามเข้าไปพูดอยู่ใกล้ๆ กับทุกคน ในช่วงที่แต่ละคนกำลังจะหลับ เพื่อต้องการที่จะบอกให้ทุกคนได้รู้ว่า “ตัวท่านไม่อยากให้ทุกคนในครอบครัวเผาร่างของท่าน”ทุกคนในครอบครัวได้ตัดสินใจยกเลิกการประกอบพิธีฌาปนกิจร่างของท่านแล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็นฝังร่างของท่านแทนซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น กายฝันหรือกายละเอียดของคุณครูบางคน ก็สามารถรับรู้ถึงสิ่งที่ตัวท่านต้องการจะสื่อสารได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้คุณครูบางคน ได้ฝันเห็นคุณพ่อของลูกมาบอกในทำนองที่ว่า “ให้ยกเลิกการประกอบพิธีฌาปนกิจร่างของท่าน” และเมื่อกายละเอียดคุณพ่อของลูกได้ทราบว่า “ทุกคนในครอบครัวได้ตัดสินใจยกเลิกการประกอบพิธีฌาปนกิจร่างของท่านแล้ว ก็เปลี่ยนมาเป็นฝังร่างของท่านแทน” ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกที่สบายใจและดีใจเป็นอย่างมาก เพราะต่อไปนี้ ตัวท่านจะได้อยู่ใกล้ๆ กับโรงเรียนและทุกคนในครอบครัวผู้เป็นที่รักของท่านต่อไป ซึ่งนี่ก็เป็นความรู้ความเข้าใจของท่านแต่เพียงเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงแล้วการที่กายละเอียดของตัวท่าน จะได้อยู่ใกล้หรือจากทุกคนไปนั้น มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการเผาร่างของท่านเลยแม้แต่นิดเดียวจนกระทั่งเมื่อวันเวลาผ่านไป ผลแห่งบุญทุกๆ บุญที่ตัวท่านได้ตั้งใจสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ตัวท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ในพระพุทธศาสนา เช่นบุญที่ตัวท่านได้เคยทอดกฐินและทอดผ้าป่า เป็นต้น หรือบุญสงเคราะห์โลก เช่น บุญที่ตัวท่านได้ก่อตั้งโรงเรียนเพื่อสร้างคนเก่งและดีให้กับสังคม หรือบุญที่ตัวท่านได้คอยให้การช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ เป็นต้น กับผลแห่งบุญที่ตัวลูกและทุกคนในครอบครัวได้ทำแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่าน ก็ได้ช่องตามมาส่งผลอย่างเต็มที่กายละเอียดคุณพ่อของลูกได้แว้บไปบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซและในทันใดนั้นเอง กายละเอียดคุณพ่อของลูกก็ได้แว้บไปบังเกิดเป็น “เทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ” ที่มีวิมานไม้แกะสลักแบบทรงจีน 2 ชั้น ซ้อนอยู่กับโรงเรียนของท่านในเมืองมนุษย์ในทันที ซึ่งอาณาเขตวิมานของท่าน จะมีขนาดพื้นที่ที่ใหญ่กว่าโรงเรียนของท่านประมาณ 2 เท่าตัวเลยทีเดียวหลังจากที่กายละเอียดคุณพ่อของลูกได้ไปบังเกิดเป็น “เทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ” แล้ว ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกที่ตื่นเต้นดีใจและก็อัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ที่อยู่รอบๆ ตัวท่านนั้น ล้วนแล้วแต่ทำด้วยทองและเงินอันประณีต และมีลวดลายแกะสลักที่วิจิตรสวยงามกว่าในเมืองมนุษย์เป็นอย่างมากตัวท่านรู้สึกตื่นเต้นดีใจและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมากอีกทั้งตัวท่านยังมีเหล่าบริวารที่น่ารักและรู้ใจ คอยปรนนิบัติรับใช้ตัวท่านอยู่ประมาณ 15-20 ตนอีกด้วย และที่สำคัญที่สุด วิมานของท่านยังซ้อนอยู่กับโรงเรียนของท่านในเมืองมนุษย์ ไม่เพียงแค่นั้น นอกจากคุณพ่อของลูกจะเป็น “เทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ” แล้ว ตัวท่านยังเป็นถึง “เทพบุตรภุมมะเทวาระดับหัวหน้าเขต” ที่ทำหน้าที่ปกครองดูแลภุมมะเทวาระดับกลางและระดับล่าง หรือพวกผีบ้านผีเรือนที่อยู่ในพื้นที่แถบนั้นทั้งหมดอีกด้วยสำหรับกิจวัตรกิจกรรมที่ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ มักจะชอบทำด้วยใจที่รักและผูกพันมากเป็นพิเศษนั้นก็คือ การเดินตรวจดูพื้นที่ภายในโรงเรียนของท่าน พร้อมกับสั่งให้เหล่าภุมมะเทวาที่อยู่ในสายการปกครองของท่าน คอยเฝ้าปกป้องคุ้มครองดูแลคุณครูและเด็กนักเรียนทุกคน ที่อยู่ภายในโรงเรียนแห่งนั้นอยู่ตลอดเวลา เรียกได้ว่าแม้ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ จะอยู่กันคนละภพภูมิกับครอบครัวและทุกคนในโรงเรียนที่ท่านรักแล้วก็ตาม แต่ตัวท่านก็ยังคงเฝ้าปกปักษ์รักษาและคอยดูแลทุกคนที่ท่านรักอย่างไม่เสื่อมคลายเลยนั่นเองท่านมักจะชอบทำเดินตรวจดูพื้นที่ภายในโรงเรียนของท่าน พร้อมกับสั่งให้เหล่าบริวารคอยเฝ้าดูแลคุณครูและเด็กนักเรียนทุกคนซึ่งในความเป็นจริงแล้ว ด้วยผลแห่งบุญที่คุณพ่อของลูกได้ตั้งใจสั่งสมเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ กับผลแห่งบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัวได้ตั้งใจสั่งสม แล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่านนั้น สามารถที่จะส่งให้คุณพ่อของลูกไปบังเกิดอยู่ในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ได้อย่างสบายๆความจริงแล้วคุณพ่อของลูกสามารถไปบังเกิดในภพภูมิที่สูงขึ้นไปกว่านี้ได้แต่ด้วยความที่คุณพ่อของลูก มีใจรักและผูกพันอยู่กับโรงเรียนและครอบครัวของท่านเป็นอย่างมากนี้เอง จึงทำให้ผลแห่งบุญทุกๆ บุญดังกล่าวยังไม่ได้ช่องที่จะส่งผลอย่างเต็มที่เต็มกำลังอย่างที่ควรจะเป็น เมื่อเป็นเช่นนี้ กายละเอียดของคุณพ่อของลูกจึงต้องมาบังเกิดเป็น “เทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ” ที่มีวิมานไม้ซ้อนอยู่กับโรงเรียนของท่านในเมืองมนุษย์เหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเองโดยในช่วงที่คุณพ่อของลูกไปบังเกิดเป็นเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซใหม่ๆ นั้น ตัวท่านจะมีลักษณะคล้ายๆ กับชายหนุ่มที่มีอายุประมาณ 40-45 ปี แต่พอวันเวลาผ่านไป เมื่อตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัวได้ตั้งใจสั่งสมบุญ และอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่านเรื่อยๆ อย่างตลอดต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นบุญจากการสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัว, บุญจากการเป็นประธานกฐินสามัคคี, บุญหล่อรูปเหมือนพระเดชพระคุณหลวงปู่พระผู้ปราบมารด้วยทองคำ, บุญที่ตัวลูกและทุกคนในครอบครัวได้ตั้งใจปฏิบัติธรรม และบุญที่ตัวลูกได้จัดกิจกรรมนิมนต์พระภิกษุสงฆ์มาทำบุญที่โรงเรียน ซึ่งท่านเทพบุตรภุมมะเทวา ก็จะเป็น “แฟนพันธุ์แท้” ที่ชอบมาร่วมงานบุญที่ตัวลูกจัดขึ้นในโรงเรียนฯ ด้วยความปลาบปลื้มปีติใจในทุกๆ ครั้งเลยทีเดียว เป็นต้นท่านเทพบุตรภุมมะเทวา ชอบมาร่วมงานบุญที่ตัวลูกจัดขึ้นในโรงเรียนฯ ด้วยความปลาบปลื้มปีติใจทุกครั้งและด้วยอานิสงส์แห่งบุญทุกๆ บุญดังที่ได้กล่าวไปแล้วนี้เอง ก็ได้ส่งผลทำให้ ท่านเทพบุตรภุมมะเทวามีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องใสสว่างไสวมากขึ้นไปกว่าเดิมเป็นอย่างมาก อีกทั้งรูปร่างหน้าตาของท่านยังแลดูอ่อนเยาว์ลงไปจากเดิมเป็นอย่างมากอีกด้วย คือจากเดิมที่ตัวท่านจะแลดูเหมือนกับชายหนุ่มที่มีอายุประมาณ 40-45 ปี แต่ในตอนนี้ตัวท่านจะแลดูเหมือนกับชายหนุ่มที่มีอายุเพียงแค่ 20-30 ปีเท่านั้น ไม่เพียงแค่นั้น วิมานไม้แกะสลักแบบทรงจีน 2 ชั้น ซึ่งซ้อนอยู่กับโรงเรียนของท่านในเมืองมนุษย์ ยังมีขนาดที่ขยายใหญ่โตและมีประกายม้อบๆ แม้บๆ ว้อบๆ แว้บๆ มากขึ้นไปกว่าเดิม ซึ่งก็เป็นผลทำให้ท่านเทพบุตรภุมมะเทวารู้สึกมีความสุขใจ และปลื้มปีติใจเป็นอย่างมากท่านเทพบุตรภุมมะเทวามีผิวพรรณวรรณะที่ผ่องใสสว่างไสวมากขึ้นไปกว่าเดิมเป็นอย่างมากเวลาต่อมา ในขณะที่ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ กำลังชื่นชมและตรวจตราดูคุณครูกับเด็กนักเรียนในโรงเรียนอยู่ภายในวิมานของท่าน ซึ่งซ้อนภพอยู่กับโรงเรียนในเมืองมนุษย์ ด้วยใจที่ผ่องใสสว่างไสวและเบิกบานใจอยู่นั้น พระธรรมกายก็ได้เมตตาไปโปรดท่านเทพบุตรภุมมะเทวาถึงที่วิมานของท่าน เพื่อให้ท่านได้ฝากสารแห่งความรักและความคิดถึงมาถึงคุณแม่ของลูก, ตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัวพระธรรมกายได้เมตตาไปโปรดท่านเทพบุตรภุมมะเทวาถึงที่วิมานของท่านทันทีที่ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาหรือคุณพ่อของลูก ได้เห็นพระธรรมกายเมตตามาโปรดตัวท่านเช่นนั้น ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกปลื้มปีติใจและอัศจรรย์ใจเป็นอย่างมาก แล้วตัวท่านก็ไม่รอช้า ได้ก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความเคารพนอบน้อมในทันทีและเมื่อท่านเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซ ได้ทราบว่า การที่พระธรรมกายได้เมตตามาโปรดตัวท่านนั้น ก็เพื่อต้องการให้ตัวท่านได้ฝากข้อความไปถึงคุณแม่ของลูก, ตัวลูกและทุกๆ คนในครอบครัว ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาก็ยิ่งรู้สึกปลาบปลื้มปีติใจมากขึ้นไปกว่าเดิมอย่างที่สุด เพราะตัวท่านเองก็อยากที่จะบอกกล่าวและสื่อสารกับทุกๆ คนในครอบครัวของท่านมานานแล้วท่านเทพบุตรภุมมะเทวาจึงได้ฝากสารมาถึงทุกๆ คนในครอบครัวเมื่อเป็นเช่นนี้ ท่านเทพบุตรภุมมะเทวาระดับไฮโซจึงไม่รอช้า ได้ฝากสารแห่งความรักความคิดถึงมาถึงคุณแม่ของลูก, และลูกๆ ทุกคนในทำนองที่ว่า “ตัวท่านอยากขอบใจทุกๆ คนที่ได้ตั้งใจสั่งสมบุญทุกๆ บุญแล้วก็อุทิศส่งมาให้กับท่าน เพราะแม้ว่าตัวท่านจะจากทุกคนไปหลายปีแล้ว แต่ทุกคนก็ยังไม่เคยลืมท่านเลย ในตอนนี้ตัวท่านมีความสุขสบายดี และตัวท่านก็ยังอยู่กับทุกๆ คนไม่ได้หายไปไหน เพราะวิมานของท่านก็อยู่ที่โรงเรียนของเราเหมือนเดิม ตัวท่านรู้สึกสบายใจและมีความสุขใจเป็นอย่างมากที่ได้อยู่ใกล้ๆ กับคุณแม่ของลูกและลูกๆ ทุกๆ คนตัวท่านรู้สึกภาคภูมิใจและปลาบปลื้มใจเป็นอย่างมาก ที่ได้เห็นคุณแม่ของลูกและลูกๆ ทุกคนช่วยกันบริหารโรงเรียนของเราให้เจริญก้าวหน้า และประสบความสำเร็จตามที่ตัวท่านได้เคยมุ่งหวังเอาไว้ ตัวท่านอยากให้ลูกๆ ทุกคนช่วยกันพัฒนาโรงเรียนของเราให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไป ขอให้ลูกๆ ทุกคนร่วมมือกันสามัคคีกัน ให้ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน และให้เอาใจใส่โรงเรียนของเราเหมือนอย่างที่ตัวท่านเคยทำเอาไว้ในสมัยที่ตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ตัวท่านอยากให้ลูกๆ ทุกคนช่วยกันพัฒนาโรงเรียนให้เจริญก้าวหน้ายิ่งๆ ขึ้นไปอีกทั้งขอให้ลูกๆ ทุกคนช่วยกันส่งเสริม สนับสนุน และปลูกฝังให้คุณครูทุกคนในโรงเรียนฯ มีศีลธรรม มีคุณธรรมและรักเด็กนักเรียนให้มากๆ เพื่อที่คุณครูทุกคนจะได้เป็นตัวอย่างที่ดีและเป็นต้นแบบที่งดงามให้กับเด็กๆ ทุกคน ซึ่งก็จะส่งผลทำให้การปลูกฝังศีลธรรมอันดีงามให้กับเด็กนักเรียนทุกคนเป็นไปได้โดยง่าย”นอกจากนี้ท่านเทพบุตรภุมมะเทวา ยังมีสารแห่งความรักและความคิดถึงมาถึงตัวลูกในทำนองที่ว่า “ตัวท่านได้รับบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกได้ตั้งใจทำและอุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้กับท่านแล้ว และด้วยผลแห่งบุญดังกล่าวนี้เอง ก็ได้ส่งผลทำให้ตัวท่านหนุ่มขึ้น และมีความเป็นอยู่ที่สุขสบายมากขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่เพียงแค่นั้น ผลแห่งบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกได้ตั้งใจทุ่มเททำนี้ ยังส่งผลทำให้พระธรรมกายได้เมตตามาโปรดตัวท่านอีกด้วย ซึ่งตัวท่านรู้สึกดีใจ ซาบซึ้งใจ และปลื้มปีติใจเป็นอย่างมาก ที่พระธรรมกายได้เมตตามาโปรดตัวท่านถึงที่วิมานแห่งนี้ผลบุญทุกๆ บุญที่ตัวลูกได้ตั้งใจทำนี้ ส่งผลทำให้พระธรรมกายได้เมตตามาโปรดตัวท่านถึงที่วิมานขอให้ตัวลูกและลูกๆ ทุกคนช่วยกันดูแลคุณแม่ของลูกให้ดี แล้วก็ให้ช่วยกันบริหารโรงเรียนของเราให้เจริญรุ่งเรือง ควบคู่ไปกับการปลูกฝังศีลธรรมยิ่งๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะเรื่องของบุญและบาปจะต้องให้เข้าไปอยู่ในใจของเด็กนักเรียนทุกคน เพราะในตอนนี้ ตัวท่านได้เห็นและรับรู้ด้วยตาของตัวท่านเองแล้วว่า บุญที่ทำในพระพุทธศาสนานั้นมีอานิสงส์มากมายจริงๆ และทุกๆ ครั้งที่ตัวลูกและทุกคนได้สั่งสมบุญแล้ว ก็ขอให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้กับท่านอีกบ่อยๆ เพราะตัวท่านอยากที่จะอยู่อย่างนี้ แบบนี้ไปอีกนานๆ”ตัวท่านรู้แล้วว่าบุญที่ทำในพระพุทธศาสนานั้นมีอานิสงส์มากมายจริงๆดังนั้น สำหรับคำถามที่ตัวลูกถามมาว่า ลูกชายของตัวลูกใช่คุณพ่อกลับมาเกิดใหม่หรือเปล่า เพราะลูกชายของลูกมีตำหนิเหมือนกับที่ตัวลูกได้ทำเอาไว้ในตอนที่คุณพ่อเสียชีวิต ก็คงจะได้รับคำตอบกันแบบชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่จ้ะ เพราะในตอนนี้ คุณพ่อของลูกยังเป็นเทพบุตรภุมมะเทวาไฮโซสุดหล่ออยู่เลยส่วนว่า บุพกรรมใดที่ทำให้คุณพ่อของลูกต้องมาถูกยิงจนเป็นอัมพาต อีกทั้งตัวท่านยังป่วยเป็นโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นผลทำให้เกิดแผลกดทับในช่วงที่ตัวท่านรักษาตัวหลังถูกยิง และเสียชีวิตในเวลาต่อมาด้วยวัยเพียง 55 ปีนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป
กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 2
[ 15 ม.ค. 2556 ] - [ 18273 ]
Desktop Version
