บั้งไฟพญานาค คลิปบั้งไฟพญานาค บั้งไฟพญานาคหนองคาย


[ 9 ต.ค. 2557 ] - [ 18647 ] LINE it!

บั้งไฟพญานาค
เทศกาลวันออกพรรษา บั้งไฟพญานาค
 

 

วันออกพรรษาวันมหาปวารณาบั้งไฟพญานาคกำเนิดพญานาคคลิปพญานาคพญานาคคือหนังสือพญานาคคนเห็นพญานาค
 
บั้งไฟพญานาค
วันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11
วันอาทิตย์ที่ 16 ตุลาคม 2559



 

บั้งไฟพญานาค 2559 (อย่างไม่เป็นทางการ)

     บั้งไฟพญานาคจากแม่น้ำโขงขึ้นแล้ว 7 ลูกชาวบ้านสวดมนต์เจริญภาวนา รักษาศีล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ
 
     ที่ลานพญานาคเขตเทศบาลอำเภอปากคาด จ.บึงกาฬ มีนักท่องเทียวและประชาชนหลายหมื่นคนนั่งรอชมบั้งไฟพญานาคอยู่ที่ริมน้ำโขง ได้มีลูกไฟสีแดงอมชมพูพวยพุ่งขึ้นจากแม่น้ำโขงติดต่อกัน 4 ลูกในเวลา 18.49 นาฬิกา และยังขึ้นตามมาอีก 3 ลูก รวมเป็น 7 ลูกทำให้ประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดและนั่งรอชมต่างเฮลั่นสนั่นริมโขง บางคนต่างยกมือสาธุทุ่มหัวที่ได้เห็นเป็นบุญตา ซึ่งมีนักท่องเที่ยวที่มารอชมบางคนเคยมาดูเป็นครั้งแรก ส่วนที่วัดอาฮงศิลาวาสก็มีนักท่องเที่ยวและผู้ที่มาทำบุญนั่งรอชมเป็นจำนวนมากเช่นกัน นอกนั้นก็ยังมีประชาชนรอชมบั้งไฟพญานาคอยู่ที่ริมน้ำโขงบ้านท่าดอกคำ และบ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง

     ขณะที่บ้านบุ่งคล้าเหนือ ต.บุ่งคล้า อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ นายสาธิต ศิริสวัสดิ์ นายอำเภอบุ่งคล้า ได้เป็นประธานในพิธีสวนมนต์เจริญภาวนา รักษาศีล เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในพระบรมโกศ และยังได้จัดสมุดลงนามถวายความอาลัยอีกด้วยและเนื่องจากวันนี้ตรงกับวันออกพรรษา อำเภอบุ่งคล้า มี 3 ตำบล 25 หมู่บ้าน ได้พร้อมใจกันจัดทำเรือไฟ เพื่อบูชาพญานาค และพระแม่คงคา โดยเฉพาะ อำเภอบุ่งคล้า อยู่ตรงข้ามบ้านปากกระดิ่ง ของ สปป.ลาว โดยประชาชนทั้งสองฝั่งมีความเลื่อมใสศรัทธาเจ้าโต่ง ซึ่งตามความเชื่อของชาวบ้านทั้ง 2 ฝั่งโขง เจ้าโต่งเป็นเทพที่คอยปกปักรักษาคุ้มครองประชาชน 2 ฝั่งโขง จึงได้จัดให้มีพิธีเซ่นไหว้ศาลเจ้าโต่งเพื่อความเป็นศิริมงคลอีกด้วย หลังจากนั้นชาวบ้านจึงได้ร่วมใจกันไหลเรือไฟลงในแม่น้ำโขง ซึ่งเรือไฟที่ชาวบ้านช่วยกันทำมาจากวัสดุธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น ไม้ไผ่ เตย คล้า จักตอก และธูปเทียน ถือเป็นประเพณีที่งดงาม

บั้งไฟพญานาค 2558 (อย่างไม่เป็นทางการ)

     บั้งไฟพญานาคลูกแรก ที่ บ้านตาลชุม อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของประชาชนและนักท่องเที่ยวนับแสนคน สรุปบั้งไฟพญานาคที่หนองคาย ปี 2558 อย่างไม่เป็นทางการ นับได้ 536 ลูก บึงกาฬ 47 ลูก

     บรรยากาศงานเทศกาลออกพรรษา บั้งไฟพญานาค ที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ที่ จ.หนองคายคึกคัก และเมื่อ เวลา 18.24 น. ที่ผ่านมา บั้งไฟพญานาคลูกแรกได้โผล่ขึ้นตามลำน้ำโขงแล้ว ในพื้นที่ บ้านตาลชุม อ.รัตนวาปี จากนั้นได้ขึ้นตามมาอีกหลายสิบลูก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องของประชาชนและนักท่องเที่ยวนับแสนคน ส่วนบริเวณวัดไทย ต.จุมพล อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย นักท่องเที่ยวยังเฝ้ารอบั้งไฟพญานาคด้วยเช่นกัน

หนองคายบั้งไฟขึ้น 536 ลูก - บึงกาฬ 47

      สรุปบั้งไฟพญานาคที่จังหวัดหนองคาย ประจำปี 2558 จากการติดตามการรายงานผลการปรากฏขึ้นของลูกไฟจากนักวิทยุสมัครเล่นจังหวัดหนองคาย ที่ประจำในทุกอำเภอของจังหวัดหนองคายที่คาดว่าจะปรากฏบั้งไฟพญานาคทั้ง อ.สังคม (อ่างปลาบึก) อ.ศรีเชียงใหม่ (วัดหินหมากเป้ง) อ.โพนพิสัย และ อ.รัตนวาปี พบว่า หลังจากเกิดบั้งไฟพญานาคลูกแรกเมื่อเวลา 18.24 น. ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี 20 ลูก หลังจากนั้นมีบั้งไฟพญานาคทยอยพุ่งขึ้นกลางแม่น้ำโขงอย่างต่อเนื่องจนถึงเวลา 21.00 น. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่อำเภอรัตนวาปี ประกอบด้วย บ้านตาลชุม 43 ลูก บ้านโปร่งสำราญ 31 ลูก บ้านท่าม่วง 20 ลูก บ้านหนองแก้ว 44 ลูก บ้านโพนแพง 187 ลูก บ้านหนองคอน 134 ลูก ส่วนที่อำเภอโพนพิสัยมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่หน้า อบต.จุมพล 18 ลูก บ้านหนองกุ้งเหนือ 4 ลูก หน้าวัดไทย ต.วัดหลวง 12 ลูก พุทธอุทยาน 26 ลูก บ้านปากสวย 4 ลูกบ้านน้ำเป 12 ลูก ส่วนที่อ่างปลาบึก อ.สังคม เกิดบั้งไฟพญานาค 1 ลูก รวมจำนวนบั้งไฟพญานาคในวันที่ 27 ตุลาคม 2558 ณ ช่วงเวลา 21.00 น. จำนวน 536 ลูก ส่วนในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่ลานพญานาค อ.ปากคาด 38 ลูก วัดอาฮงศิลาวาส 6 ลูก และที่ บ้านท่าสีไค อ.บึงโขงหลง จำนวน 3 ลูก รวม 47 ลูก สำหรับบั้งไฟพญานาคในปีนี้มีสีส้มอมแดง
 
 
ชมบั้งไฟพญานาค ณ สถานที่บั้งไฟพญานาคขึ้นมากที่สุดในโลก

     ขอเชิญท่านผู้มีบุญร่วมงานทอดผ้าป่าเพื่อสร้างพุทธอุทยานนานาชาติ และร่วมสร้างปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์ ในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำเดือน 11 ในวันอังคารที่ 27 ตุลาคม 58 ณ พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย

ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 วันอังคารที่ 27 ตุลาคม 2558 ช่วงเช้า

     7.00 น.มีพิธีตักบาตรรอบปทุมรัตน์ธรรมเจดีย์เป็นครั้งแรก

     9.00 น.ปฎิบัติธรรมตามเสียงพระเทพญาณมหามุนี

     10.45 น.มีพิธีถวายสังฆทาน และไทยธรรม

     14.00 น. ปฎิบัติธรรมกลั่นกายใจให้ใสสว่างทอดผ้าป่ามหาทานบารมี

     17.00 น. พิธีบูชาปทุมรัตน์ธรรมะเจดีย์ครั้งแรกและอธิฐานจิตบูชาเจดีย์เพื่อความเจริญในชีวิต

     19.00 น. ชมบั้งไฟพญานาคตามอัทธยาสัยเสร็จพิธี หรือใครจะอยู่บูชาพระเจดีย์ต่อท่ามกลางบรรยากาศริมโขง
 

ภาพยนตร์สั้น 3 มิติ (3D) ท่องเมืองพญานาค “The Miracle Day อัศจรรย์วันข้ามภพ”

   ภาพยนตร์สั้น 3 มิติ(3D) ท่องเมืองพญานาค
ท่องเมืองพญานาค

คลิปบั้งไฟพญานาคปี พ.ศ. 2557 (บั้งไฟ 57)

     รายงานจากนักข่าวบุญสว่าง สิ่งอัศจรรย์หนึ่งปีมีครั้งเดียว บั้งไฟพญานาคขึ้นตรงจุดพุทธอุทธยานมากที่สุดเลย แต่ปีนี้ขึ้นช้ากว่าปีที่แล้ว เพราะมีเหตุการณ์จันทรุปราคา พญานาคจะพ่นบั้งไฟ ตอนพระจันทร์เต็มดวง จะพ่นทั้งทีต้องพระจันทร์สว่าง ดังนั้น เวลาทุ่มครึ่งจึงขึ้นทันที ปีที่แล้วขึ้นตอน 18.30 น. พญานาคพ่นไปเรื่อยๆ เป็นชุดๆ 3-4 ดวง สวยงามมากเลย
 
 
 
 
 

คลิปบั้งไฟพญานาคปี พ.ศ. 2556

บั้งไฟพญานาค 19 ตุลาคม 2556 ถ่ายโดยคุณไพบูลย์
 
คลิปบั้งไฟพญานาค ขึ้นจากกลางน้ำ 19 ตุลาคม 2556
 
 

บั้งไฟพญานาค 2556

 
ฮือฮาบั้งไฟพญานาคโผล่ 978 ลูก

     เมื่อวันที่ 20 ต.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเมื่อวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวจำนวนมากต่างนั่งรอชมปรากฏการณ์ที่ริมฝั่งน้ำโขง โดยเฉพาะที่บ้านท่าม่วง, บ้านตาลชุม และบ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ขณะที่นักท่องเที่ยวหลายคนที่ได้เห็นบั้งไฟพญานาคต่างส่งเสียงโห่ร้องยินดี และยืนยันว่าไม่ผิดหวังที่มารอชมบั้งไฟพญานาคที่ จ.หนองคาย
  
     สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย จ.หนองคาย ซึ่งเป็นศูนย์ข้อมูลข่าวสารงานเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาค จ.หนองคาย รวบรวมสถิติการเกิดปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค โดยเวลาประมาณ 18.14 น.ได้มีบั้งไฟพญานาคลูกแรกเกิดขึ้นติดต่อกัน 3 ลูก ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี หลังจากนั้นก็เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นติดต่อกันเป็นระยะๆ จนถึงเวลาประมาณ 22.00 น. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ประกอบด้วย ที่ อ.รัตนวาปี บ้านน้ำเป 132 ลูก, อบต.บ้านต้อน 122 ลูก, บ้านท่าม่วง 176 ลูก, บ้านตาลชุม 136 ลูก, บ้านโป่งสำราญ 194 ลูก รวมใน อ.รัตนวาปี เกิดขึ้น 760 ลูก

      ส่วนใน อ.โพนพิสัย เกิดบั้งไฟพญานาคขึ้นที่บ้านหนองกุ้งเหนือ 168 ลูก, บ้านเวิน 3 ลูก, อบต.จุมพล 38 ลูก, วัดไทย 9 ลูก รวมใน อ.โพนพิสัย เกิดขึ้น 218 ลูก รวมทั้งสองอำเภออย่างไม่เป็นทางการเกิดขึ้นแล้วกว่า 978 ลูก
 

วันที่สองยังมาตามนัดบั้งไฟพญานาคที่หนองคาย


     นักท่องเที่ยวประมาณพันคนยังคงปักหลักพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง เพื่อลุ้นชมบั้งไฟพญานาควันที่สอง และก็ไม่ผิดหวัง เกิดบั้งไฟพญานาคกลางน้ำโขง ที่ อ.รัตนวาปี อีก 42 ลูก...

     เมื่อวันที่ 20 ต.ค. 56 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้มีประชาชนนักท่องเที่ยวประมาณพันคน เดินทางไปยังพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขง โดยเฉพาะที่บ้านท่าม่วง ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย เพื่อรอชมปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคเป็นวันที่สอง เพราะหลายคนเชื่อว่าจะมีบั้งไฟพญานาคให้ชมต่อจากวันออกพรรษาอีกหนึ่งวัน และก็ไม่ผิดหวัง บั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นเมื่อเวลา 18.40 น. โดยเกิดลูกไฟขึ้นติดต่อกัน 3 ลูก ที่บ้านท่าม่วง หลังจากนั้นก็มีบั้งไฟพญานาคทยอยขึ้นจากแม่น้ำโขงปรากฏให้เห็น จนถึงเวลาประมาณ 20.30 น. เกิดบั้งไฟพญานาค 42 ลูก ส่วนสภาพการจราจรวันที่สองเป็นไปอย่างคล่องตัว รถยนต์ของนักท่องเที่ยวสามารถสัญจรเส้นทางหนองคาย – อ.รัตนวาปี ได้อย่างสะดวก และท้องฟ้าโปร่ง ไม่มีฝนตก
 
 

 

 
คลิปบั้งไฟพญานาค 30 ตุลาคม 2555 ตอนที่ 1 ถ่ายโดยคุณไพบูลย์
 

 
คลิปบั้งไฟพญานาค 30 ตุลาคม 2555 ตอนที่ 2 ถ่ายโดยคุณไพบูลย์ 
 

บั้งไฟพญานาค 2 วันขึ้นกว่า 500 ลูก
 
"พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย ได้แชมป์ บั้งไฟพญานาคขึ้นมากที่สุด คือ 112 ลูก"
 
     ยอดรวมบั้งไฟพญานาคอย่างไม่เป็นทางการ ในวันที่ 30 ต.ค.2555 มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 439 ลูก วันที่ 31 ต.ค.2555 เกิดบั้งไฟพญานาค 106 ลูก รวมปี 2555 บั้งไฟพญานาคขึ้นแล้วทั้งสิ้น 545 ลูก พบมากที่บ้านน้ำเป บ้านท่าม่วง และบ้านตาลชุม อ.รัตนวาปี รวม 392 ลูก

      ในวันนี้ยังคงมีนักท่องเที่ยวส่วนหนึ่งที่พลาดการชมบั้งไฟพญานาคในวันแรกยังคงรอชมบั้งไฟพญานาคริมฝั่งแม่น้ำโขงต่ออีกหนึ่งวัน เนื่องจากคาดว่าจะมีบั้งไฟพญานาคเป็นวันที่สองเพราะปีนี้มีเดือนแปดสองหนตามปีอธิกมาส และวันออกพรรษาไทยกับออกพรรษาลาวไม่ตรงกันโดยมุ่งหน้าไปยังพื้นที่อำเภอรัตนวาปีที่มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นมากกว่าที่อำเภอโพนพิสัย
 
บั้งไฟพญานาค 2555
credit: Panote Sukkasem
 
 
บั้งไฟพญานาค 2555 
credit: Weera Jutarut
 
สถานการณ์บั้งไฟพญานาค 30 ตุลาคม 2555
 
 เฮลั่น! คนนับหมื่นริมโขงสมใจ 'บั้งไฟพญานาค'โผล่แล้ว 5 ลูก
 
     เมื่อช่วงเย็นจนถึงค่ำวันที่ 30 ต.ค. เวลา 18.24 น. บั้งไฟพญานาค ก็ผุดขึ้นกลางแม่น้ำโขง ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี โดยลูกไฟสีแดงอมชมพูพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 ลูก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของนักท่องเที่ยวที่รอชมอยู่ริมฝั่ง
 
     19.59 น. ขณะนี้ บั้งไฟพญานาค ขึ้นบริเวณพุทธอุทยานนานาชาติ โพนพิสัย บั้งไฟพญานาคขึ้นแล้วประมาณ 60 กว่าลูก
  

     20.15 น. ณ พุทธอุทยาน อ.โพนพิสัย ขึ้นแล้ว 95 ดวง โดยขึ้นครั้งละ 3-5 ดวงติดต่อกัน - รายงานข่าวจากพื้นที่

      วันที่ 31 ต.ค. 2555 ที่จังหวัดหนองคาย ได้รวบรวมสถิติการเกิดบั้งไฟพญานาคของวันที่ 30 ต.ค. มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นใน 2 อำเภอ คือ อ.โพนพิสัย ที่บ้านหนองกุ้ง ต.กุดบง จำนวน 67 ลูก และวัดไทย ต.จุมพล จำนวน 4 ลูก และที่อำเภอรัตนวาปี มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นที่บ้านน้ำเป จำนวน 112 ลูก, บ้านท่าม่วง จำนวน 100 ลูก, บ้านตาลชุม จำนวน 101 ลูก และบ้านหนองแก้ว จำนวน 55 ลูก รวมปีนี้มีบั้งไฟพญานาค 439 ลูก (เฉพาะ 30 ต.ต. 2555)

 



บั้งไฟพญานาค 2555

พิธีจุดประทีปถวายเป็นพุทธบุชา ณ พุทธอุทยานนานาชาติ
อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เย็น วันที่ 30 ตุลาคม 2555

บั้งไฟพญานาค
 
 
 
 
พิธีตักบาตรพระ 2,555 รูป ณ วัดศิริสุทโธ ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี
เช้าวันอาทิตย์ที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2555
 
คลิปฮือฮา เงาดำทะมึนโผล่กลางน้ำโขง
 




บั้งไฟพญานาค

       ในฐานะที่เราเป็นโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เราก็น่าจะมีทรรศนะของเราบ้างถ้าหากว่าบังเอิญไม่ไปตรงอะไรกับใคร หรือบางทีอาจพ้องบ้าง ก็ต้องถือว่า ให้ฟังเป็นนิทาน ฟังเพลินๆ ก็รู้ไว้ใช่ว่าติดขาติดแข้งกันไป ไม่ ต้องถึงกับใส่บ่าแบกหาม

บั้งไฟพญานาค 2555
 

       เรื่องก็มีอยู่ว่า........กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว เมื่อหลายพันปีก่อนสมัยพุทธกาล บนผืนแผ่นดินอันสะอาดบริสุทธิ์ของประเทศลาวในปัจจุบัน ชาวเมืองเป็นผู้มีศีลมีธรรม มีจิตใจที่งดงาม เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความเคารพผู้หลักผู้ใหญ่ ผู้เฒ่าผู้แก่ ดูแลมารดาบิดากันเป็นปกติ พระราชาผู้ปกครอง บ้านเมืองทรงมีธรรมราชาครบถ้วน 10 ประการ แล้วก็มีปุโรหิตท่านหนึ่ง เป็นคนจิตใจงาม เป็นผู้มีปัญญามาก เวลาจะตัดสินคดีความอะไรก็บริสุทธิ์ ยุติธรรม ท่านชำนาญในไตรเพท มีหน้าที่ประกอบพิธีกรรมบวงสรวงพญานาค โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพราะมีความเชื่อว่านาคเป็นผู้ให้น้ำ ท่านก็ประกอบพิธีอย่างนี้ทุกปีๆ จนกระทั่งหมดอายุขัย

บั้งไฟพญานาค 2555
 
       ด้วยใจที่ผูกพันกับพญานาคมาก กอปรกับบุญกุศลที่ท่านปุโรหิตทำใน ระดับที่ดีของชาวโลก ในยุคที่พระพุทธศาสนายังไม่บังเกิดขึ้น เมื่อละโลกแล้ว ท่านจึงไปเกิดเป็นพญานาค มีกายสีทองสวยงาม เป็นหัวหน้าปกครองชุมชน นาคในระดับล่าง อยู่ใต้ลำน้ำโขง ซึ่งจะเป็นภพซ้อนภพ มีอายุยืนมาก


       พญานาคมีอยู่ 3 ระดับ คือ ระดับล่าง ระดับกลาง ระดับสูง ระดับ สูงก็อยู่บนสวรรค์ชั้นจาตุมหาราชิกา ระดับกลางๆ ก็ลดหย่อนลงมา ระดับ ล่างก็อยู่ในระดับพื้นมนุษย์ มีบ้านเมือง ที่สวยสดงดงามพอสมควร ท่านเป็นผู้ ปกครองชุมชนนาคในละแวกลำน้ำโขงนั้น ซึ่งกว้างขวางมาก พญานาคท่านนี้ เมื่ออยู่ ในเมืองนาคท่านจะแปลงกายเป็นกายทิพย์ ที่คล้ายๆ มนุษย์ มีเครื่องประดับงดงาม แล้วท่านปรารถนาพุทธภูมิมานาน ตั้งแต่ ก่อนจะมาเกิดเป็นปุโรหิต แม้มาเป็นปุโรหิต ก็มีความรู้สึกเช่นนี้อยู่ลึกๆ ในใจ


       ครั้นเวลาล่วงเลยมาถึงสมัยพุทธกาล ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสมณโคดม พอใกล้ถึงวันออกพรรษา เหล่าเทวดาก็โจษกันไปทั่วว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จะเสด็จลงจากดาวดึงส์ จนเสียงอื้ออึงโจษขานดังไปทั่ว พร้อมๆ กับเสียง ดนตรีสวรรค์ดังไปถึงนาคพิภพ ทำให้อาสนะของพญานาค ที่เคยอ่อนนิ่ม กลับแข็งกระด้างขึ้นมา สงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น พญานาคและบริวารจึง ออกมาจากนาคพิภพ ขึ้นไปอยู่บนผิวน้ำของแม่น้ำโขง ในวันเทโวโรหณะ ออกพรรษา สายตาก็มองไปบนท้องฟ้า


        ตอนนั้นเมฆบนท้องฟ้าก็ยังฟูฟ่องล่องลอยอยู่เยอะแยะ แต่สักพัก หนึ่งเมฆก็แวบหายไป ท้องฟ้าเริ่มเปิดออก มีลำแสงฉัพพรรณรังสีพุ่งออกมา ท้องฟ้ากลวงเข้าไป เหมือนไม่มีท้องฟ้าในบริเวณนั้น คือท้องฟ้าเปิดจนมอง เห็นสวรรค์ 4 ชั้น อสัญญีสัตตาพรหม หรือพรหมรูปฟัก ที่ไม่ได้มา นอกนั้นมาหมดเลย
 
       พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสด็จ อยู่ตรงกลางบันไดแก้วเพชรที่มี หลากสี ทั้งม่วง คราม น้ำเงิน เขียว เหลือง แสด แดง ตามหลังมาด้วย ปัญจสิกขเทวบุตร และมาตุลีเทพ สารถี ส่วนบันไดทองคำใสก็เป็น ของเทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ มีท้าว สุยามาผู้ปกครองสวรรค์ชั้นยามา ถือพัดวีชนี ท้าวสักกเทวราชหรือ พระอินทร์ถือปาริฉัตกะ ถัดมาก็ ท้าวสันตดุสิต ผู้ปกครองสวรรค์ ชั้นดุสิต ท้าวนิมมานรมิต ผู้ปกครอง สวรรค์ชั้นนิมมานรดี ถัดมาก็ท้าว ปรนิมมิต ผู้ปกครองสวรรค์ชั้นปรนิมมิตวสวัตตี และตามด้วยเหล่า เทวดาผู้มีศักดิ์ใหญ่ทั้งหลาย
 
บั้งไฟพญานาค
 
       บันไดเงินเป็นของมหาพรหม ซึ่งล้วนแต่งชุดขาว มหาพรหมใน ที่นี้หมายถึงพรหมผู้มีศักดิ์ใหญ่ มี อานุภาพมาก ทั้ง 16 ชั้น ผู้มีศักดิ์ ใหญ่มากที่สุดก็อยู่ข้างหน้า เสด็จมา ทางบันไดที่ดูคล้ายๆ เงินยวง ไม่ใช่ เงินดำๆ แบบเมืองมนุษย์ แล้วก็เนรมิตฉัตรสีขาว 9 ชั้น ลอยอยู่เบื้องบน พระสัมมาสัมพุทธเจ้าเปล่งฉัพพรรณรังสี สว่างไสว เนรมิตพระวรกายให้ใหญ่ กว่าเทวดาและพรหม ในระดับที่มนุษย์อยู่ไกลก็เห็นใกล้ แต่อยู่ใกล้ๆ จะเห็น พอดีๆ คือจะใกล้หรือไกลก็เห็นเท่ากันด้วยพุทธานุภาพ


        เหตุการณ์ในวันนั้นไม่ใช่มนุษย์ทั่วโลกได้เห็นกันหมด แต่เห็นเฉพาะ ผู้มีบุญที่สังกัสสะนคร ซึ่งอยู่ในเมืองสาวัตถี ในรัศมีแค่ 36 โยชน์เท่านั้น แล้ว มนุษย์ที่เห็นวันนั้นก็มีหลายประเภท คือ ผู้ที่เลื่อมใสก็มี ที่เฉยๆ ก็มี ไม่ เลื่อมใสก็มี ที่เลื่อมใสมากก็เห็นมาก ที่เฉยๆ ก็เห็นหย่อนลงมา ที่ไม่เลื่อมใส ก็เห็นมั่งไม่เห็นมั่ง แต่พวกมีตาทิพย์กายละเอียดเขามองเห็น เพราะฉะนั้น มนุษย์เห็นเฉพาะจุดตรงนั้น แล้ว ณ ตรงนั้นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ใด บังเกิดขึ้น ก็จะเสด็จลงมาที่สังกัสสะนครนี่แหละ เพราะเป็นเมืองที่เป็นเนิน สามารถเห็นได้รอบทิศ มีจารึกของภิกษุฟาเหียนที่ท่านเดินทางไปค้นหาพระคัมภีร์สืบคำสอนของพระ สัมมาสัมพุทธเจ้าที่อินเดีย ในนั้นกล่าวว่า ท่านเห็น ตำแหน่งที่บันไดทอดมาถึงพื้นมนุษย์ด้วย


         เพราะฉะนั้นมนุษย์ก็เห็น เทวดาก็เห็น แล้วนาคก็เห็น ท่านจึงเกิดกุศล ศรัทธามาก ได้เปล่งวาจาตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต ดังนั้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา พญานาคก็จะออกมาจาก นาคพิภพมาจำศีลภาวนาใต้ลำน้ำโขง ซึ่งท่านปรารถนาจะให้ใครเห็นหรือไม่ เห็นก็ได้ด้วยอานุภาพของท่าน


       ตอนแรกท่านก็มาตามลำพังตนเดียว ต่อมาลูกน้องบริวารเกิดศรัทธา ตามขึ้นมาจำศีลด้วย พอถึงวันออกพรรษา ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระสัมมา สัมพุทธเจ้า จึงบูชาพระพุทธองค์ด้วยประทีป ที่กลั่นจากใจใสๆ ด้วยการ ประพฤติพรหมจรรย์มาตลอด 1 พรรษา และได้อธิษฐานว่า ด้วยอานิสงส์นี้ ขอให้ข้าพระองค์ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต
 
บั้งไฟพญานาค 2555
 
พญานาคจะพ่นไฟถวายเป็นพุทธบูชาได้ ต้องประพฤติพรหมจรรย์
ไม่เสพเมถุนตลอด 1 พรรษา


       การพ่นไฟของนาคนั้นมีหลายลักษณะ ถ้าพ่นเพราะความโกรธจะพ่น อย่างร้อนแรงโดนที่ไหนก็พังที่นั่น แต่ก็พ่นไม่ได้ทุกตัว ปริมาณที่พ่นไฟก็ไม่ เท่ากัน แล้วแต่ฤทธิ์ของใคร ใครมีบุญมาก มีฤทธิ์มาก ก็พ่นได้มาก หรืออีก แบบหนึ่งที่เราได้ยินบ่อยๆ ในพระไตรปิฎกว่า "บังหวนควัน" คือจะพ่นควัน ที่มีไอร้อนออกมา


    แต่การพ่นไฟเป็นประทีปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นอีกแบบ การที่พญานาคจะพ่นไฟถวายเป็นพุทธบูชาได้ ต้องประพฤติพรหมจรรย์ ไม่เสพเมถุนตลอด 1 พรรษา แล้วก็ระลึกนึกถึงพระสัมมาสัมพุทธเจ้าใน วันเทโวโรหณะที่เสด็จลงมาจากดาวดึงส์ ด้วยใจที่ปลื้มปีติ แล้วพ่นไฟลอยขึ้นไปในอากาศ เมื่อเป็นฟองอยู่ใต้น้ำก็กลม ๆ เนื่องจากเป็นของกึ่งหยาบกึ่งละเอียด ทำให้เวลาลอยพ้นน้ำขึ้นมา ผิวน้ำจะไม่กระเพื่อม คือ เหมือนผ่านอากาศ แล้วลอยขึ้นไปสว่างวาบบนท้องฟ้า


       แต่เดิมท่านทำลำพังเพียงตนเดียว ต่อมานาคบริวารเกิดกุศลศรัทธา ก็ทำตามบ้าง เพราะฉะนั้นจึงเกิดแสงสว่างขึ้นบนท้องฟ้า ช่วงสั้นบ้าง ยาวบ้าง ดวงโตบ้าง ดวงเล็กบ้าง แล้วแต่อานุภาพของแต่ละท่าน ใครกำลังบารมี อ่อนก็พ่นได้ไม่กี่ดวง แล้วก็สูงไม่มาก แต่ของพญานาคจะสูงทีเดียว ด้วยเหตุนี้ บั้งไฟพญานาคจึงเกิดขึ้นในวันออกพรรษาทุกปี และเริ่มมีมากขึ้นตาม ห้วยหนองคลองบึงต่าง ๆ


        นี่คือสิ่งที่เป็นอจินไตยที่เกิดขึ้นจริงด้วยจิตที่เลื่อมใสของพญานาค พญานาคท่านก็รู้จิตใจของมนุษย์ทุกคน ในทุกยุคที่ผ่านมาสองพันห้าร้อยกว่าปี ว่ามนุษย์คิดกันอย่างไร ยุคต้นๆ มนุษย์มีจิตเลื่อมใสพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก็เชื่อมั่น ส่วนในยุคนี้ เชื่อก็มี เชื่อมั่งไม่เชื่อมั่งก็มี ไม่เชื่อเลยก็มี แต่พญานาคท่านไม่สนใจ เพราะเอาใจไปอยู่กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์อยู่ตลอดเวลา ปลื้มปกติ ไม่สนใจเสียงการละเล่น ต่างๆ ของมนุษย์ทั้งสองฝั่งริมโขงเลย ใครจะคิด ตำหนิติเตียนหรือจะลบหลู่ ท่านก็เฉยๆ ไม่สนใจ ใจปลื้มอยู่ในบุญ เพราะท่านรู้ว่ามนุษย์ไม่เห็นวันนั้น จะ ให้มาปลื้มอย่างท่านคงยาก


       เพราะฉะนั้น เมื่อถึงวันมหาปวารณาของไทย หรือวันออกพรรษาของลาว เราจะเห็นดวงไฟลอยขึ้นมาจากลำน้ำพญานาคแปลงร่างเป็นมนุษย์โขง เป็นประจำทุกปี ปีละครั้ง และมีที่นี่ที่เดียวในโลก เพราะฉะนั้น ณ จุดตรงนี้ ถ้าหากว่าผู้มีบุญทั้งหลายได้ไปดูแล้ว ทำจิตให้เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่างพญานาค ก็จะเป็นทางมาแห่งบุญ แล้วก็เป็นทางไปสู่สวรรค์ ด้วยอานิสงส์แห่งการเลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า สมบัติใหญ่จะไหลมาเทมา เราจะมีดวงปัญญาอันเลิศ มีรัศมีสว่างไสว ผิวพรรณผ่องใส ตอนเป็นมนุษย์ ก็จะรูปหล่อ จะสวยทีเดียว

โพนพิสัยบั้งไฟพญานาคโลก

      เทศบาลตำบลโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จับมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จัดงาน " โพนพิสัยบั้งไฟพญานาคโลก " ในช่วงเทศกาลออกพรรษา " บั้งไฟพญานาค 2555 " โดยกำหนดจัดงานในระหว่างวันที่ 27 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2555 รวม 7 วัน 7 คืน


       โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเสียงของอำเภอโพนพิสัย และจังหวัดหนองคายให้คนทั่วประเทศและทั่วโลกได้รู้จัก ในความเมืองน่าอยู่ เมืองแห่งตำนานพุทธประวัติที่เป็นความเชื่อของเมืองหนองคาย ที่เชื่อว่าพญานาคจุดบั้งไฟขึ้นเพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ในคราวที่เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ กลับมายังโลกมนุษย์
 
บั้งไฟพญานาค คืนนี้!! หนองคาย บึงกาฬ คึกคัก
 
      เฮลั่น! คนนับหมื่นริมโขงสมใจ 'บั้งไฟพญานาค'โผล่แล้ว 5 ลูก
 
      เมื่อช่วงเย็นจนถึงค่ำวันที่ 30 ต.ค. เวลา 18.24 น. บั้งไฟพญานาค ก็ผุดขึ้นกลางแม่น้ำโขง ที่บ้านตาลชุม ต.รัตนวาปี อ.รัตนวาปี โดยลูกไฟสีแดงอมชมพูพุ่งขึ้นติดต่อกัน 5 ลูก ท่ามกลางเสียงโห่ร้องยินดีของนักท่องเที่ยวที่รอชมอยู่ริมฝั่ง
 
     ตำรวจภูธรจังหวัดหนองคายเตรียมความพร้อมเทศกาลออกพรรษาบั้งไฟพญานาคเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวจำนวนมากที่จะเดินทางมาชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคในอำเภอโพนพิสัยและอำเภอรัตนวาปี ที่จะมีขึ้นในวันนี้ ( 30 ต.ค.) ทำให้โรงแรมที่พักถูกจองเต็มแล้วทั้งหมด ซึ่งคาดว่าจะมีเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท

     นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติจำนวนมากเริ่มทยอยเข้าสู่ตัวเมืองหนองคาย ก่อนจะเดินทางไปชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ในอำเภอโพนพิสัยและอำเภอรัตนวาปี ที่จะมีขึ้นในวันนี้ ( 30 ต.ค.) ซึ่งเป็นจุดที่เกิดบั้งไฟพญานาคมากที่สุดทำให้ถนนหลายสายเริ่มมีการจราจรคับคั่ง

     น.ส.นฤมล รักษาภักดี อุปนายกสมาคมส่งเสริมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดหนองคาย บอกว่า ปีนี้จะมีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ ร้อยละ 40 โรงแรมในจังหวัดหนองคาย กว่า 4,500 ห้อง ถูกจองจนเต็ม ตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.- 1 พ.ย.และคาดว่า จะมีเงินสะพัดไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

     นายวิรัตน์ ลิ้มสุวัฒน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า ปีนี้นักท่องเที่ยวจะไม่ต่ำกว่า 300,000 คน แม้ว่าวันออกพรรษาจะเป็นวันอังคารไม่ใช่วันหยุดประกอบกับปีนี้เป็นปีเดือน 8 สองหนที่ตามความเชื่อของผู้เฒ่าผู้แก่ หนองคาย บอกว่า จะมีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้น 2 วัน ติดต่อกันคือ วันที่ 30-31 ต.ค.นี้

      ด้านนายอดิศักดิ์ ศักดิฤทธิ์ ขนส่ง จ.หนองคาย กล่าวว่า ขนส่งจังหวัดจัดรถโดยสารไว้ให้บริการนักท่องเที่ยว เริ่มตั้งแต่เวลา 06.00-24.00 น.หรือจนกว่าจะไม่มีผู้โดยสารใช้บริการ
 
บรรยากาศชมบั้งไฟพญานาคที่บึงกาฬ


      เมื่อวันที่ 30 ต.ค.55 ได้มีประชาชนมาจากต่างจังหวัดและจังหวัดบึงกาฬเอง ได้ทยอยหลั่งไหลเข้าจับจองปูสื่อปูสาดตามริมน้ำโขงพนังกั้นของวัดอาฮงศิลาวาส ต.ไคสี อ.เมืองบึงกาฬ เพื่อจับจองที่นั่งหาจุดชมที่ถนัดและคาดว่าบั้งไฟพญานาคจะขึ้นมาปรากฏให้ชม โดยก่อนหน้านี้ทางวัดได้ใช้รถแบ็คโฮมาปรับเกลี่ยดินใหม่ทำให้มีจุดนั่งได้ดีมากทำให้นักท่องเที่ยวและประชาชนได้นั่งชมได้สะดวกสบายมากขึ้น นอกจากนี้ก็ยังมีจุดชมบั้งไฟพญานาคที่ลานพญานาคในเขตเทศบาลตำบลปากคาด อ.ปากคาด ที่หน้าวัดโพธารามหรือวัดหลวงพ่อใหญ่บ้านท่าไคร้ ต.บึงกาฬ ก็มีพีธิบวงสรวงไหลเรือไฟถวายพญานาคด้วย ซึ่งจัดเมื่อเดือนที่แล้วก็มีบั้งไฟพญานาคปรากฏขึ้นกลางลำน้ำโขง มีคนงานก่อสร้างโบสถ์และชาวบ้านไปยิงหนูนาพบเห็น และที่ อ.บึงโขงหลงริมน้ำโขง บ้านท่าสีใคร ต.ดงบัง ก็มีคนไปจับจองหาที่นั่งรอชมบั้งไฟพญานาคเช่นกัน เพราะที่นี่ทุกปีจะมีปรากฎให้เห็นคราวละ 30- 50 ลูก


        ด้าน พ.ต.อ.ชยรพ ฉายจันยนต์ ผกก.สภ.บึงโขงหลง กล่าวถึงปู่อือลือตำนานพญานาค มาตามนัดที่สร้างความฮือฮาเมื่อปีที่แล้วได้ เปิดเผยว่า เมื่อคืนวันที่ 29 ต.ค.55 เวลา 19.19 น.ได้มีบั้งไฟพญานาคผุดขึ้นจำนวน 35 ลูกที่ริมเขื่อนใกล้กับกระชังเลี้ยงปลาของชาวบ้าน มีประชาชนได้ออกจากบ้านไปดูจำนวนมาก แต่วันนี้ได้มีพิธีบวงสรวงปู่อือลือก็คาดว่าจะมีบั้งไฟพญานาคขึ้นให้เห็นเช่นกัน ส่วนนักท่องเที่ยวปีนี้มีไม่มาก คงมีแต่ผู้ที่เชื่อศรัทธาในพญานาคมา รอชมปรากฏการธรรมชาติอยู่จำนวนหนึ่ง

 
     ทั้งนี้หลังจากชมบั้งไฟพญานาคแล้วสำหรับการเดินทางกลับสามารถเลี่ยงไปใช้เส้นทางโดยใช้เส้นอำเภอโพนพิสัย มุ่งหน้าไปยัง อำเภอเฝ้าไร่ จังหวัดหนองคาย เข้าสู่อำเภอสร้างคอม จังหวัดอุดรธานี หรือ ใช้เส้นทาง อำเภอโพนพิสัย มุ่งหน้าไป อำเภอสร้างคอม และ อำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี โดยจะมีเจ้าหน้าที่คอยแนะนำเส้นทางและอำนวยความสะดวกด้านการจราจรตลอดเส้นทาง เพื่อลดปัญหาการการจราจรที่แออัดและลดอุบัติเหตุ

      นอกจากที่หนองคายแล้ว จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดน้องใหม่ที่แยกตัวออกมาจากหนองคาย ได้เตรียมความพร้อมในการรับนักท่องเที่ยวเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะที่วัดอาฮงคิลาวาส ที่ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองบึงกาฬ ซึ่งจุดนี้เป็นจุดชมสะดือแม่น้ำโขง หรือ เป็นจุดที่ลึกที่สุดของแม่น้ำโขง และ มีน้ำเชี่ยว ซึ่งชาวบ้านเชื่อกันว่า บริเวณนี้จะเป็นจุดที่เห็นบั้งไฟพญานาคได้ชัดเจนอีกจุดหนึ่ง โดยตั้งแต่เมื่อวานนี้ ก็เริ่มมีประชาชนมาจับจองพื้นที่เพื่อรอชมปรากฏการณ์กันแล้ว 
 
บั้งไฟพญานาค

ตำนานและปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค คลิปบั้งไฟพญานาค


บั้งไฟพญานาค ตำนาน ความเชื่อหรือความจริง

 

บั้งไฟพญานาค ความจริง..ที่ไม่ใช่เพียงตำนานและความเชื่อ

 
     
บั้งไฟพญานาค เป็นที่ทราบกันดีว่า วันออกพรรษาของทุกๆ ปี จะตรงกับวัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งในปีนี้ตรงกับวันอังคารที่ 30 ตุลาคม 2555 ในวันดังกล่าวตามภาคต่างๆ จะมีงานประเพณีที่จัดขึ้นเนื่องในวันออกพรรษา และหนึ่งในประเพณีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี และเป็นที่สนใจของคนไทยทั้งประเทศก็คืองาน ''บั้งไฟพญานาค'' มนต์ขลังความมหัศจรรย์ดินแดนแห่งพุทธศาสนาเมืองพญานาค ที่จัดขึ้นที่ อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย
 
 
">
">
">

">
">
">
">

">
">
">
">

">
">
">
">

">
">
">
">

 
      โดยในทุกๆ ปี จะมีประชาชน ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ให้ความสนใจและเดินทางมาชมบั้งไฟพญานาคกันเป็นจำนวนมาก และมีแนวโน้มเพิ่มจำนวนมากขึ้นทุกๆ ปี สำหรับงานเทศกาล ''บั้งไฟพญานาค'' ถือเป็นงานเทศกาลที่ได้รับการยกย่องจากนิตยสารของอังกฤษ ว่าเป็น 5 กิจกรรมในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกไม่ควรพลาด โดยกิจกรรมทั้ง 5 ประเภท ได้แก่

1. เทศกาลสงกรานต์
2. งานประเพณียี่เป็ง จังหวัดเชียงใหม่
3. งานบั้งไฟพญานาค จังหวัดหนองคาย
4. งานประเพณีบุญบั้งไฟ จังหวัดยโสธร
5. งานเทศกาลร่มบ่อสร้าง จังหวัดเชียงใหม่
">
">
">
">
 
">
">
">
">
">
">

ย้อนรอยปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาค  12 ต.ค. 2554

     “บั้งไฟพญานาค” เป็นปรากฎการณ์ของการเกิดลูกไฟสีชมพูพวยพุ่งขึ้นจากกลางลำน้ำโขงสู่อากาศ โดยลูกไฟนั้นไม่มีควัน ไม่มีกลิ่น ไม่มีเสียง พุ่งสูงประมาณ 20-30 เมตร แล้วหายไปโดยไม่มีการโค้งตกลงมายังพื้น เช่น บั้งไฟทั่วๆ ไป ขนาดของบั้งไฟพญานาคนั้นมีตั้งแต่ขนาดเท่าหัวแม่มือ กระทั่งขนาดเท่าฟองไข่ไก่ เกิดขึ้นเป็นจำนวนไม่แน่นอน บั้งไฟพญานาคจะขึ้นตั้งแต่เวลา 6 โมงเย็นจนถึง 2-3 ทุ่ม สถานที่เกิดมักเป็นลำน้ำโขง ในท้องที่อำเภอโพนพิสัย อำเภอปากคาด อำเภอสังคม อำเภอศรีเชียงใหม่ จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬซึ่งเป็นจังหวัดที่ 77 ของไทยและบริเวณอื่นๆ บ้าง เช่น ตามห้วยหนองที่อยู่ใกล้แม่น้ำโขง


    “บั้งไฟพญานาค” จะเป็นปรากฏการณ์ที่แน่นอน คือตรงกับ วันออกพรรษา วันเพ็ญขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ถ้าปีใดมีเดือน 8 สองหน ปรากฏการณ์นี้จะเกิดขึ้นในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งตรงกับวันออกพรรษาของลาว

 

ข่าวบั้งไฟพญานาคเมื่อปี พ.ศ.2554 ที่ผ่านมา

     ออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 บั้งไฟพญานาค พบโผล่พ้นน้ำโขงหลายจังหวัดรวม 181 ลูก แต่นักท่องเที่ยวกลับไม่คึกคัก เนื่องจากลดลงกว่าครึ่ง จากภัยน้ำท่วม


     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ต.ค.54 ที่ผ่านมา ได้มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางมาชมปรากฏการณ์ธรรมชาติบั้งไฟพญานาค ที่ริมฝั่งแม่น้ำหนองคาย เนื่องในวันออกพรรษา ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ซึ่งจากการรวบรวมข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการในหลายจังหวัด สามารถนับได้ 181 ลูก  แต่เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา พบจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเกินครึ่ง


     จากการรวบรวมข้อมูลสถิติการรายงานของศูนย์ข้อมูลข่าวสารสถานีวิทยุกระจาย เสียงแห่งประเทศไทยจังหวัดหนองคาย พบว่า ปีนี้มีบั้งไฟพญานาคเกิดขึ้นดังนี้ ที่ อ.รัตนวาปี เกิดที่บ้านตาลชุม 79 ลูก, บ้านน้ำเป 21 ลูก, อ.โพนพิสัย เกิดบั้งไฟพญานาคที่บ้านหนองแก้ว 60 ลูก, วัดหลวง 1 ลูก, หน้า อบต.จุมพล 17 ลูก, อ.เมืองหนองคาย พบที่บ้านเดื่อ 1 ลูก และ หน้าวัดอุบมุง ต.บ้านม่วง อ.สังคม 2 ลูก รวม 181 ลูก


     นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า จังหวัดบึงกาฬ เกิดบั้งไฟพญานาคที่แก่งอาฮง อ.เมืองบึงกาฬ 13 ลูก, บ้านท่าไคสี อ.บึงโขงหลง 4 ลูก และภายในบึงโขงหลง 2 ลูก
 
 

ดู พุทธอุทยานนานาชาติ อ.โพนพิสัย ในแผนที่ขนาดใหญ่กว่า
 

ตำนานบั้งไฟพญานาค ตอนที่ 1 

 
คลิปบั้งไฟพญานาค

ตำนานบั้งไฟพญานาค ตอนที่ 2

 
คลิปบั้งไฟพญานาค

บั้งไฟพญานาควันออกพรรษา

 
     "บั้งไฟพญานาค" เป็นปรากฏการณ์ ที่เกิดขึ้นในวันออกพรรษาของทุกๆ ปี ของจังหวัดที่ติดแม่น้ำโขง เช่น จังหวัดหนองคาย จังหวัดบึงกาฬ เป็นต้น มีลักษณะเป็นดวงไฟพวยพุ่งขึ้นจากกลางลำน้ำโขงสู่อากาศ สูงประมาณ 20-30 เมตร โดยที่ไม่ได้มีเสียง กลิ่น ควัน และประกายไฟเลย ดับหายไปในอากาศเฉยๆ ไม่ตกลงมา จนเกิดเป็นประเด็นถกเถียงกันอย่างกว้างขวางในสังคมไทยยุคไฮเทคโนโลยี ซึ่งข้อถกเถียงต่างๆ สรุปแล้วก็จะตั้งอยู่บนสมมุติฐาน 2 ประการ คือ
 
     1. สมมุติฐานที่ไม่ เชื่อว่าพญานาคมีจริง คนกลุ่มนี้จะเห็นว่า พญานาคเป็นเพียงเรื่องปรัมปราที่เล่าสืบต่อๆ กันมา จึงไม่เชื่อว่า ดวงไฟที่ลอยขึ้นมาจากลำน้ำโขงคือ บั้งไฟพญานาค ดังนั้น จึงมีการตั้งสมมุติฐานกันว่า อาจจะเกิดมาจากฝีมือของมนุษย์ หรือเป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ แต่สุดท้ายก็ไม่สามารถหาหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ใดๆ มาพิสูจน์ได้อย่างแน่ชัดเจนว่า บั้งไฟพญานาคเกิดจากสิ่งใดกันแน่


      2. สมมุติฐานที่เชื่อว่าพญานาคมีจริง กลุ่มนี้จะเป็นผู้ที่เคารพ นับถือพญานาคสืบเนื่องกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษยาวนานนับพันปี รวมไปถึงชาวพุทธที่ศึกษาคำสอนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า จนเกิดความเชื่อมั่นว่า คนเราตายแล้วไม่สูญ ชีวิตในโลกหน้ามีจริง ซึ่งพญานาคนั้นก็เป็น ภพภูมิหนึ่งใน 31 ภพภูมิของชีวิตหลังความตาย ที่เกิดขึ้นด้วยอำนาจของกฎแห่งกรรม


พญานาค
พญานาคมี 4 ตระกูลด้วยกัน
 
     เหตุการณ์สำคัญที่ทำให้เกิดบั้งไฟพญานาคก็มีอยู่ว่า เมื่อหลายพันปีก่อน ในสมัยพุทธกาล พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรางเสด็จไปจำพรรษาที่สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เพื่อโปรดพุทธมารดา จนท่านบรรลุเป็นพระโสดาบัน ครั้นเมื่อถึงวันออกพรรษา พระพุทธองค์ก็เสด็จลงจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ และเปิดโลกทั้ง 3 ด้วยพุทธานุภาพ เพื่อให้สัตว์ทุกภพภูมิได้เห็นกันและกัน ทั้งเทวดา มนุษย์ สัตว์นรก สัตว์เดรัจฉาน เปรต อสุรกายต่างได้เห็นกันและกันด้วยตาเนื้อ สรรพสัตว์ทั้งหลายที่ได้เห็นพุทธานุภาพในวันนั้น ต่างตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต หนึ่งในนั้นก็คือ พญานาค เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้วจึงเกิดกุศลศรัทธามาก ได้เปล่งวาจาตั้งความปรารถนาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต

บั้งไฟพญานาค
 
พญานาคร่วมกันบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
 
      ดังนั้น เมื่อถึงวันเข้าพรรษา พญานาค และเหล่าบริวารจะออกมาจำศีลภาวนาที่ใต้ลำน้ำโขง ด้วยจิตที่เลื่อมใสในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พอถึงวันออกพรรษา ก็จะกระทำการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยดวงประทีป ที่กลั่นจากใจใสๆ ที่ท่านได้ตั้งใจจำศีล ประพฤติพรหมจรรย์มาตลอด 1 พรรษา และอธิษฐานขอให้ได้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์หนึ่งในอนาคต

คลิปบั้งไฟพญานาค



คลิปบั้งไฟพญานาค ลักษณะของลูกบั้งไฟพญานาค
 

บั้งไฟพญานาค

รายการวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

พญานาค
พญานาค พระพุทธเจ้าทรงตรัสเรื่องราวพญานาคไว้หลายแห่ง ซึ่งพญานาคก็มีกำเนิดหลากหลาย มีอานุภาพ และในทรรศนะของโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา พญานาคเกี่ยวข้องกับบั้งไฟพญานาคอย่างไร

 
บทความที่เกี่ยวข้องกับปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค
 




Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ปฏิทินวันพระ 2567 ปฏิทินจันทรคติปฏิทินวันพระ 2567 ปฏิทินจันทรคติ

รูปการ์ตูนวันสงกรานต์ รวมการ์ตูนน่ารักสำหรับส่งในวันสงกรานต์รูปการ์ตูนวันสงกรานต์ รวมการ์ตูนน่ารักสำหรับส่งในวันสงกรานต์

ข่าวจากปรโลก - สึนามิ (Tsunami)ข่าวจากปรโลก - สึนามิ (Tsunami)



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

เรื่องเด่นทันเหตุการณ์