ผีจ้างหนัง เผยตํานานผีจ้างหนัง อาถรรพ์ป่าคำชะโนด


[ 7 ต.ค. 2557 ] - [ 18278 ] LINE it!

ผีจ้างหนัง

ผีจ้างหนัง เผยตํานานผีจ้างหนัง อาถรรพ์ป่าคำชะโนด

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

     เรื่อง ผีจ้างหนังมาฉาย ซึ่งก็คือนาค แปลงกายเป็นมนุษย์ ไปว่าจ้างหนังกลางแปลงให้ไปฉายที่ คำชะโนด และอีกเรื่องหนึ่งก็คือ เวลาชาวบ้านจัดงานประจำปี มีมหรสพมากมาย นาคก็จะขึ้นมาเที่ยว โดยแปลงร่างเป็นคนธรรมดา ผู้หญิงจะแต่งตัวใส่เสื้อขาว นุ่งผ้าสีคล้ายๆ สีดำ ผู้ชายชอบโพกศีรษะด้วยผ้าแดง

เทปคำสัมภาษณ์เจ้าของเรื่องผีจ้างฉายหนัง

ตํานานผีจ้างหนัง จาก Case Study 25 ตุลาคม พ.ศ.2547

      คำถามผีจ้างหนัง : ตอนนั้นประมาณ 1 ทุ่มเศษ มีคนมาถามบ้านนางทรง (คนทรงของชาวบ้าน) ให้พาไปจ้างหนังบริการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ให้แจ่มจันทร์ภาพยนตร์เอาหนังไปฉาย แล้วตกลงราคากันที่สองพันบาท ฉาย 3 ม้วน เลือกเฉพาะหนังผี คนมาจ้างเป็นชายอายุ 50 ปี แต่งตัวนุ่งผ้าจูงกระเบน เหน็บเกี่ยว ใส่เสื้อสีขาวแขนยาว เข็มขัดหนัง หวีผมแต่งตัวดี ทาแป้งข้างขวาด้านเดียว ชายคนนั้นได้นั่งรถกลับมาพร้อมกับรถที่ว่าจ้างหนังมาฉาย เวลาประมาณ 2 ทุ่ม มาถึงบริเวณที่ฉายหนัง คือ เกาะคำชะโนด

     คนขับรถบอกว่า ถนนที่รถวิ่งเข้ามาก็เป็นถนนวิ่งลาดยางดีมากๆ ยาวไปตลอดทาง พอมาถึงที่ฉายหนังที่คำชะโนด มีทุ่งหญ้า และก็มีสนามสวยงามมาก ก็เลยไปกลางจอฉายหนังบริเวณใต้สะพานสูง ซึ่งยามหน้าฝน น้ำจะลึกขนาดคอ หรือเอว มีคนมาดูเยอะมาก เต็มสนามเลย ไปถึงตั้งจอหนังเสร็จก็เริ่มฉายเลย คนก็ทยอยเยอะขึ้นมาเรื่อยๆ หนังก็ได้ฉายไปประมาณตี 5 คนที่จ้างหนังมาฉายก็บอกหยุดเถอะ มันใกล้สว่างแล้ว ขณะนั้นหนังยังไม่ทันจบเรื่องที่ 3 เลย คนฉายหนังก็เลยเลิกฉาย แล้วก็เก็บของขึ้นรถ พอเก็บของขึ้นรถเสร็จ หันมาไม่เห็นคนมาดูหนังอีกเลย แม้แต่เพียงคนเดียว ไม่ทราบหายไปไหนกันหมด และหายไปได้รวดเร็วมากขนาดนั้น ตอนที่มีคนมาดูหนังตั้งเยอะ ตอนแรกเป็นสนามหญ้า ตอนนี้มีแต่ต้นตะนา และได้เห็นชายคนจ้างหนังเข้ามาบอกว่า พ่อจะไปส่ง แล้วก็นั่งรถไปด้วยกัน พอขับรถออกมาจากพื้นที่ฉายหนัง แปลกมาก พอเหลียวหลังกลับไปดู ก็มีแต่ก้อนหิน แม้ขับรถไปไกลขนาดไหนก็ตาม หันกลับไปมองด้านหลังก็เป็นสนามหญ้าเหมือนเดิม แต่มีต้นไม้ แต่ดูไปข้างหน้าเป็นถนนลาดยางอย่างดี

     พอมาถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มองกลับไปด้านหลัง จึงเห็นว่าเป็นถนนลูกรัง ถนนลาดยางหายไปแล้ว เป็นปกติ พอวิ่งไปได้สักพักหนึ่ง ชายที่มาจ้างหนังก็หยิบเงินออกมาให้ 2 มัดๆ ละพัน เป็นแบ๊งค์ใบละ 20 บาท แล้วบอกว่าให้เอาไปทำทานที่วัด อย่าเอาไปใช้ พอนั่งไปด้วยกันอีกสักครู่ เขาก็ขอลงที่ข้างทาง พอเปิดประตูลงจากรถก็หายแว้บไปกับตา เร็วมาก ไม่รู้ว่าไปทางไหน

ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากัน นะจ๊ะ

     คำตอบเรื่องผีจ้างหนัง : ชายที่ว่าจ้างหนังก็เป็นพญานาคจริงๆ ภพอยู่ใกล้ชิดมนุษย์ อีกทั้งก็เป็นอดีตมนุษย์ เห็นพฤติกรรมของมนุษย์แล้วก็อยากรู้ อยากเห็น อยากจะลอง

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

 

     นาคก็เอาเงินมาจากมนุษย์ที่มาเซ่นสรวง บนบาน สานกล่าว เพราะได้ช่วยเหลือสิ่งที่เขาปรารถนาได้สำเร็จ เขาก็จะเอาเงินมาเซ่นไหว้แก้บน ต่อมาปรากฏว่าสิ่งบนไว้ก็สำเร็จ จึงนำเงินมาแก้บน ด้วยการโยนลงไปในแม่น้ำโขง

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

 

     ซึ่งนาคผู้ใหญ่ก็รับรู้ และมารับเงินโดยไม่เปียกน้ำเลย แล้วก็เอามาเล่าให้หนุ่มสาวนาควัยคะนองว่าได้เงินมาอย่างไร และปรึกษาว่าควรจะเอาเงินมาทำอะไร เพราะในเมืองนาคไม่ได้ใช้ นาคหนุ่มสาวจึงลงมติว่าให้เอาเงินนี้ไปจ้างหนังกลางแปลงมาฉาย เพราะอยากดูหนังมาก และหนังที่อยากดูก็เรื่องผีๆ  เรื่องก็เลยเกิดขึ้นมาดังกล่าว เพราะเรื่องผีๆ ตอนนั้นกำลังฮิตตอนนั้น

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

     และนาคเหล่านั้นก็มาแปลงกายเป็นมนุษย์ เนรมิตสิ่งต่างๆ ดังกล่าว ที่ให้เอาเงินไปทำบุญ เพราะต้องการบุญมาก เพื่อให้บุญนี้ทำให้ได้อัตภาพเป็นมนุษย์ และได้บรรลุธรรมในภพชาติต่อๆ ไป

 

พญานาคจ้างฉายหนังที่คำชะโนด

 

ที่มาของผีจ้างหนังจากเจ้าของกิจการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์

     สถานที่แห่งนี้กลายเป็นสถานที่ที่รู้จักไปทั่วประเทศจากเรื่องเล่าผีจ้างหนังโดยมีบุคคลนิรนามไปว่าจ้างหน่วยฉายหนังเร่แจ่มจันทร์ภาพยนตร์ในตัวเมืองอุดรธานีไปฉายหนังในเกาะคำชะโนด   และพบว่าละแวกที่ฉายหนังนั้นไม่มีหมู่บ้านใด ๆ โดยคนในหมู่บ้านใกล้เคียงแถวนั้นก็ยืนยันว่า ไม่ได้เดินทางมาดูหนังคืนนั้น  แต่คนฉายหนังก็ยืนยันว่า ตอนดึก ๆ  มีคนมานั่งดูหนังที่ฉายเต็มไปหมด

     คุณธงชัย  แสงชัย  เจ้าของหนังเร่บริษัทแจ่มจันทร์ภาพยนตร์กล่าวในบันทึกประวัติคำชะโนดของนายสวาท  บุรีเพีย  อดีตศึกษาธิการอำเภอบ้านดุง “เรื่องเกิดขึ้นในวันที่ 29 มกราคม พ.ศ. 2532  มีคนมาว่าจ้างให้หนังของผมไปฉายที่บ้านวังทอง อำเภอบ้านดุง  ห่างจากตัวเมืองอุดรธานีประมาณ 100 กิโลเมตร ค่าจ้างตกลงกันไว้ 4,000 บาท  มีหนังฉาย 4 เรื่อง  แต่มีสัญญาพิเศษอยู่ 1ข้อ คือ ให้ฉายถึงแค่ตี 4 เท่านั้น  ห้ามฉายถึงสว่าง  พอตี 4 ก็ให้รีบเก็บข้าวของออกจากสถานที่ฉาย   ซึ่งผมได้ฟังก็แปลกใจมากแต่ไม่ได้คิดอะไรในตอนนั้น  เพราะเห็นว่าเป็นความต้องการของผู้มาว่าจ้าง   จึงไม่ได้ซักถามถึงเหตุผล  แต่ปรกติแล้วเวลาไปฉายหนังที่อื่น ชาวบ้านมักจะให้ฉายถึงสว่างทุกเจ้าไป  
 
     หลังจากนั้นผมก็ได้ส่งหน่วยฉายหนังไปตามที่ได้ตกลงกันไว้   ในตอนเช้าพนักงานของผมจำนวน 7 คน ซึ่งกลับมาจากฉายหนังเมื่อคืน  ก็เล่าให้ผมกับภรรยาฟังว่า เมื่อคืนไปฉายหนังให้ผีดู
 เด็ก ๆ เล่าให้ฟังว่า หนังเริ่มฉายตั้งแต่ตอน 3 ทุ่ม  ในตอนหัวค่ำไม่เห็นผู้คน  ก็ยังสงสัยว่าหายไปไหนหมด  แต่พอ 3 ทุ่มก็มีคนมาเป็นจำนวนมาก  และที่แปลกคือ ผู้หญิงซึ่งนุ่งขาวห่มขาวจะนั่งอยู่ด้านหนึ่ง  ส่วนผู้ชายใส่เสื้อผ้าสีดำจะนั่งอีกข้างหนึ่ง  และคนทั้งหมดก็นั่งกันสงบเงียบเรียบร้อยเหมือนจะไม่เคลื่อนไหวตัว  และที่ยิ่งกว่านั้นคือ ไม่ว่าจะฉายหนังอะไร ก็ไม่มีการส่งเสียงเอะอะเหมือนกับฉายหนังกลางแปลงทั่ว ๆ ไป  ฉายหนังบู๊ก็เฉย  ฉายหนังตลกก็เฉย ไม่มีเสียงหัวเราะ

      อีกอย่างคือ งานนี้ไม่มีร้านขายข้าวของ จำพวกของกินเลย  โดยทั่วไปงานอื่น ๆ จะมีร้านขายขนม ขายบุหรี่   พอถึงตี 4 พวกคนดูก็ไม่รู้หายไปไหนกันหมด  หายไปเร็วเหลือเกิน    พวกเด็ก ๆ เขาก็รีบเก็บข้าวของออกจากสถานที่ฉายหนัง   พอขับรถมาถึงหมู่บ้านวังทองตอนเช้าก็แวะซื้อบุหรี่ก่อนเลย  เนื่องจากเมื่อคืนไม่มีขาย  ชาวบ้านถามว่าไปฉายหนังที่ไหนมา   เด็ก ๆ ก็บอกว่าฉายในหมู่บ้านวังทอง   แต่ชาวบ้านกลับยืนยันว่าไม่มีหนังมาฉายในหมู่บ้านเลย  

     เรื่องก็เลยยุ่งว่าเมื่อคืนไปฉายหนังที่ไหนมา  ในที่สุดเมื่อสอบถามกันจนเป็นที่เข้าใจ ชาวบ้านสรุปว่า “สงสัยพวกคุณจะไปฉายหนังที่ใน “ดงคำชะโนด”  ซึ่งเป็นสถานที่ลี้ลับที่เชื่อว่าเป็นเมืองพญานาค  มีภูตผีปีศาจสิงสถิตอยู่ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับหมู่บ้านวังทองนี่เอง

     พวกเด็ก ๆ ก็เลยเชื่อว่าถูกผีจ้างไปฉายหนังจริงอย่างที่ชาวบ้านว่า   จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมก็อยากจะพิสูจน์ความจริงจึงเดินทางไปที่บ้านวังทอง  ผมไปที่ดงคำชะโนดซึ่งอยู่ห่างจากหมู่บ้านไปสัก 3  กิโลเมตร  แต่ที่ผมแปลกใจมากเพราะดงไม้ที่ผมมองเห็นอยู่กลางทุ่งนาห่างจากตัวถนนครึ่งกิโลเมตรนั้นเป็นดงไม้ทึบ   อย่าว่าแต่ให้ขับรถยนต์จะเข้าไปข้างในเลย  แม้แต่จะขึงตั้งจอหนังก็ยังไม่ได้ด้วย

     ผมจึงไปสอบถามชาวบ้านแถวนั้นว่า  เมื่อคืนที่ผ่านมาในหมู่บ้านวังทอง หรือหมู่บ้านใกล้เคียงมีการฉายหนังกันบ้างไหม   ทุกคนต่างก็ยืนยันว่า ไม่มีหนังเข้ามาฉายเลย   ทำให้ผมงุนงงเป็นอันมาก  ทำให้ผมต้องเดินทางกลับไปที่ดงคำชะโนดอีกครั้ง เพื่อหาข้อพิสูจน์ ว่าเด็ก ๆ ได้มาฉายหนังที่นี่จริง  ในที่สุดก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมเชื่อว่า  เด็ก ๆ ของผมได้เข้าไปฉายหนังในดงคำชะโนดจริง  นั่นก็คือ ตรงขอบถนนมีรอยรถยนต์แล่นผ่านลงไปในหล่มดินข้างทาง  รอยรถนั้น  แล่นผ่าเข้าไปในท้องนาซึ่งเป็นที่ลุ่มน้ำขัง   ไม่น่าเชื่อเลยว่ารถฉายหนังจะแล่นเข้าไปในดงคำชะโนดนั้นได้
 
     ด้วยความประหลาดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคุณธงชัยได้ไปนมัสการ  หลวงปู่คำตา  สิริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดศิริสุทโธ  คำชะโนด  ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ใกล้ ๆ ดงคำชะโนด  และได้ไต่ถามถึงเรื่องนี้กับเจ้าอาวาส  ซึ่งท่านก็ได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า “คงเป็นเพราะช่วงนั้นเป็นเทศกาลของบรรดาวิญญาณซึ่งอาศัยอยู่ในดงไม้นี้  จึงได้ว่าจ้างให้หนังมาฉายฉลองเหมือนพวกมนุษย์   วิญญาณเหล่านั้นชาวอีสานเรียกว่า “ ผีบังบด” ในวันนั้นที่วัดไม่ได้มีการจัดงานแต่อย่างใด  แต่ในป่าคำชะโนดจะมีเสียงซู่ ๆ  เหมือนกับมีพายุพัดเข้ามาทั้ง ๆ  ที่คืนนั้นไม่มีลมใหญ่พัดมาจากไหนเลย”

     “ในขณะที่หลวงปู่คำตาเล่าเรื่องนี้อยู่  ก็ปรากฏว่ามีงูตัวหนึ่งสีดำสนิท ท่าทางน่ากลัวเลื้อยเข้ามานอนขดอยู่ตรงหน้าของท่าน   ผมและภรรยาตกใจมาก   แต่หลวงปู่คำตาก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก  คงจะเป็นวิญญาณของผู้ที่อาศัยอยู่ในดงไม้ไม่ต้องการให้ท่านเล่าหรือเปิดเผยอะไรต่อไป  จึงได้ส่งให้งูตัวนี้มาปรากฏเพื่อเป็นการเตือน   หลังจากนั้นท่านจึงขอตัวไม่เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ  แต่ผมก็เชื่อว่ายังมีอะไรที่แปลกน่าสนใจอีกมาก เกี่ยวกับดงคำชะโนดนี้”

ที่มาของผีจ้างหนังจากลูกสาวเจ้าของกิจการ

     สวัสดีค่ะ ดิฉันชื่อธนาทิพย์ แสงไชย เป็นลูกสาวของเจ้าของกิจการแจ่มจันทร์ภาพยนตร์ ร้านดังที่ทุกท่านในเวปนี้เข้าใจกันแล้วว่าได้ไปจัดฉายภาพยนตร์ให้ผีดู ได้มีคนบอกให้ดิฉันมาเปิดอ่านดูกระทู้ต่างๆแล้วเข้าใจว่าหลายๆท่านสับสนกับ เรื่องผีจ้างหนังดังกล่าว เพราะมีหลายกระแสมาก ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงกับทางบ้านค่ะ และทางบ้านของดิฉันก็ไม่มีความต้องการที่จะอยากเด่นดังในเรื่องแบบนี้ดังที่ บางท่านเข้าใจ ดิฉันเคยไปที่คำชโนดด้วยตัวเองหลายครั้งแล้ว ก็จะเจอคนแก่ๆที่คอยมานั่งเล่าเรื่องนี้แบบใส่สีตีไข่เพื่อให้ดูน่าสนใจมาก ขึ้น โดยที่เค้าก็ไม่ทราบว่าครอบครัวดิฉันเป็นใคร จนกระทั่งได้มีการแสดงตัวจึงยอมรับว่าได้เล่าเกินความเป็นจริงอยู่มาก ดิฉันอยากเรียนให้ทุกท่านที่อยู่ในเวปนี้เป็นรายละเอียดคร่าวๆให้ทราบกันว่า

     ตอนที่มีคนมาจ้างเป็นชาวบ้านผู้ชายชื่อ นายจำปา คำแก้วเป็นชาวบ้านหมู่บ้านวังทอง ได้มีการว่าจ้างให้ไปฉายภาพยนตร์ที่บ้านคำชะโนดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 4,000 บาท โดยมีเงื่อนไขว่าให้เก็บของออกจากที่ฉายในเวลาตี4 (โดยปกติเจ้าของงานมักให้ฉายภาพยนตร์ถึงสว่าง) ทางร้านตามใจลูกค้าเป็นสำคัญจึงไม่ได้เอะใจอย่างไร จากวันที่ไปฉายมีคนงานไปทั้งหมด 5 คน โดยมีสิ่งปกติดังนี้คือ

1.เวลา 21.00 น. จีงจะมีชาวบ้านเริ่มทะยอยมาดูหนัง (ปกติจะมากันตั้งแต่ 19.00 น.)
2.ไม่ว่าหนังจะเป็นบู๊ หรือตลก อย่างใดก็ตามไม่มีการแสดงความรู้สึกใดๆทั้งสิ้น
3.เมื่อใกล้เวลา 04.00น. ทุกคนก็รีบเก็บของ(เสื่อปูที่นั่ง)กลับทันที
4.ไม่มีแม่ค้ามาขายของแม้แต้เจ้าเดียว


     จากความผิดปกติข้อ 4 นั้นทำให้คนงานไม่มีบุหรี่สูบ เมื่อสว่างจึงได้แวะที่หมู่บ้านใกล้เคียงเพื่อซื้อบุหรี่ โดยได้ถามคนขายว่าได้ไปดูหนังเมื่อคืนหรือเปล่า คนขายจึงถามว่าฉายที่ไหน ไม่รู้เรื่อง คนงานได้บอกว่าฉายที่บ้านคำชะโนด จึงทำให้เกิดความสงสัยจนนำไปถึงการร่ำลือว่าโดนผีหลอก เพราะที่ตรงนั้นรถใหญ่ไม่สามารถเข้าไปได้แน่นอนเพราะเป็นที่ดินน้ำซับ

     เมื่อคนงานทั้งหมดกลับมาที่บ้านก็ได้ตื่นเต้นตกใจว่าผีหลอกแน่นอน และได้นำมาเล่าให้พ่อของดิฉันฟัง แต่ท่านก็ลงความเห็นว่าทั้งหมดเมาจึงคิดไปเอง ซึ่งปกติคนงานก็กินเหล้ากันเป็นประจำและสิ่งที่คนงานเล่าก็ถือเป็นเรื่องที่ เชื่อได้ยาก คุณพ่อจึงไม่สนใจถามเอาความต่อ แต่เรื่องมันเริ่มมาดังหลังจากนั้น 2 เดือนผ่านไป ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นเริ่มบอกกันปากต่อปาก และแน่นอนว่าก็ต้องบิดเบือนความเป็นจริงให้ดูเหมือนนิยายสยองขวัญเพื่อให้ดู น่าติดตาม ดิฉันอยากจะบอกว่าทั้งหมดที่เกิดขึ้นมีเพียงเท่านี้จริงๆค่ะ เงินที่ได้รับมาก็เป็นเงินปกติไม่ได้เป็นใบไม้หรืออะไรก็ตามที่มีคนกล่าว อ้าง ดิฉันเคยเห็นใบสัญญาจ้างหนังกับตาตนเองว่าได้มีคนมาจ้างจริงๆ ซึ่งภายหลังเมื่อกระแสมันแรงมากขึ้น พ่อกับแม่ของดิฉันจึงเริ่มเก็บข้อมูลและได้ไปพบท่านเจ้าอาวาสวัดที่หมู่บ้าน นี้ ก็ได้รับทราบข้อมูลหลายอย่างที่หากนำมาบอกคงยืดยาวเกินไป

     ทั้งนี้ ที่ดิฉันได้มาลงกระทู้นี้ก็เพื่อให้ทุกท่านรับทราบและเข้าใจด้วยว่า ทางบ้านของดิฉันไม่เคยมีเจตนาที่จะทำเรื่องแบบนี้มาหลอกเพื่อให้ตัวเองดัง หรืออะไรก็ตามที่เป็นการไม่ดี ทางบ้านดิฉันได้เปิดร้านมีชื่อเสียงทางด้านฉายภาพยนตร์กลางแปลงมานานแล้ว ก่อนที่จะมีเรื่องนี้เสียอีก หากไม่เชื่อก็ขอเชิญทุกท่านลองถามคนในจังหวัดอุดรรุ่นเก่าๆดูได้ว่ามีใครไม่ รู้จัก แจ่มจันทร์ภาพยนตร์หรือไม่ ตัวดิฉันและครอบครัวก็เป็นคนมีการศึกษา ซึ่งขณะนี้ดิฉันก็กำลังศึกษาปริญญาโท MBA อยู่ ก็น่าจะเชื่อได้ว่าเป็นผู้มีมาตรฐานทางความคิดที่ดี

     ดังนั้น ขออย่าให้ทุกท่านคลางแคลงใจในเรื่องนี้อีกเลยนะคะ มีอีกสิ่งหนึ่ง ที่ดิฉันอยากเรียนให้เข้าใจใหม่ด้วยว่า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาจ้างหนังที่เราท่านเรียกว่าผีนั้น (ซึ่งท่านบังบทหรือสวมมาในร่างคุณจำปา คำแก้วเมื่อมาจ้างหนัง) แท้จริงแล้วท่านเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือจะเรียกว่าเป็นเทพก็ได้ ในเมืองบาดาล ดังที่เราท่านเข้าใจกันคือ พญานาคค่ะ ตัวดิฉันเองเป็นคนเกิดปีมะโรง ซึ่งก็มีความเชื่อในเรื่องของพญานาคอยู่แล้ว ก็คิดว่าเป็นลูกหลานท่านที่ท่านอยากมาช่วยเหลือเพราะฉะนั้น จึงอยากขอความกรุณาทุกท่านที่ทั้งเชื่อและไม่เชื่อในเรื่องนี้ได้เข้าใจกัน ว่า ไม่เชื่อก็โปรดอย่าลบหลู่ดูหมิ่น และขอสาบานด้วยชีวิตของดิฉันเลยว่าทุกสิ่งอย่างที่ได้แจงรายละเอียดไปน้น เป็นความจริงทุกประการค่ะ
  (ธนาทิพย์ แสงไชย) (ขอบคุณข้อมูลจากบล็อกโอเคเนชั่น)

บทความอื่นๆ ใกล้เคียงผีจ้างหนัง คำชะโนด

ไปดูพญานาคที่โพนพิสัย ตอนที่ 1
ไปดูพญานาคที่โพนพิสัย ตอนที่ 2
บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ที่คำชะโนด
บั้งไฟพญานาค

วันออกพรรษา ประวัติวันออกพรรษา
คำชะโนด

15 ค่ำ เดือน 11



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ปฏิทินวันพระ 2567 ปฏิทินจันทรคติปฏิทินวันพระ 2567 ปฏิทินจันทรคติ

รูปการ์ตูนวันสงกรานต์ รวมการ์ตูนน่ารักสำหรับส่งในวันสงกรานต์รูปการ์ตูนวันสงกรานต์ รวมการ์ตูนน่ารักสำหรับส่งในวันสงกรานต์

ข่าวจากปรโลก - สึนามิ (Tsunami)ข่าวจากปรโลก - สึนามิ (Tsunami)



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

เรื่องเด่นทันเหตุการณ์