ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 8


[ 3 มี.ค. 2550 ] - [ 18271 ] LINE it!

 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  สุวรรณสาม   ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี  ตอนที่ 8
 

        จากตอนที่แล้ว ทุกูละ และปาริกาทั้งสองท่าน ครั้นดำรงเพศเป็นฤษีอาศัยอยู่ในอาศรมที่ท้าวสักกะประทานให้ ต่อจากนั้น ก็ได้ดำเนินชีวิตอย่างสงบเย็นเป็นสุขเรื่อยมา    จนกระทั่งวันหนึ่ง ท้าวสักกะเทวราช ทรงมองเห็นภัยอย่างหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นแก่พระฤษีทั้งสอง จึงเสด็จมาแนะนำทุกูลฤษีว่า   อีกไม่นานนักอันตรายจะเกิดขึ้นแก่ท่านทั้งสอง ควรที่ท่านทั้งสองจะได้บุตรไว้สำหรับปรนนิบัติดูแล ขอท่านทั้งสองจงเสพโลกธรรมเถิด  
        ทุกูลฤษีสดับพระดำรัสของท้าวสักกะแล้ว ก็กล่าวค้านว่า  เราทั้งสองแม้ครั้งที่ยังครองเรือน ก็มิได้เสพโลกธรรมฉันท์สามีภรรยา  ก็บัดนี้เราบวชเป็นฤษีแล้ว จะทำกรรมเช่นนั้นได้อย่างไร ท้าวสักกะจึงทรงแนะนำว่า ไม่ต้องทำถึงอย่างนั้นก็ได้  เพียงแต่เอามือลูบที่ท้องของปาริกาฤษิณีในเวลาที่นางมีระดู เพียงเท่านี้นางก็จะตั้งครรภ์   

        ทุกูลฤษีได้ฟังอย่างนั้นก็เบาใจ ครั้นในเวลาที่ปาริกามีระดู  สองฤษีจึงได้กระทำตามคำแนะนำของท้าวสักกะทุกประการ พระบรมโพธิสัตว์จึงได้จุติจากเทวโลก มาถือปฏิสนธิในท้องของนางปาริกาฤษิณี  นางจึงตั้งครรภ์โดยวิธีที่แตกต่างจากสตรีทั่วไป 

        เมื่อล่วงไปครบ 10 เดือน นางก็ให้กำเนิดบุตรมีผิวผ่องดั่งทองคำที่ออกจากเบ้าหลอม  เหตุนี้ฤษีทั้งสองจึงขนานนามว่า สุวรรณสาม พระโพธิสัตว์ได้รับการเลี้ยงดูจากสองฤษีด้วยความรักโดยมีเพื่อนเล่นเป็นสัตว์ทั้งหลาย และมีเหล่ากินรีเป็นพี่เลี้ยงนางนม คอยประคบประหงมเป็นอย่างดี

        พระโพธิสัตว์ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความรักความห่วงใย จากทั้งมารดาผู้ให้กำเนิด และนางกินรีผู้ประดุจนางนมเช่นนี้ จนกระทั่งเจริญวัย

        เมื่อยามที่สุวรรณสามเริ่มรู้ความ สองดาบสจะสอนให้ลูกได้รู้จักการเจริญภาวนาแผ่เมตตาให้แก่สรรพสัตว์อยู่เสมอ     ด้วยอานุภาพแห่งเมตตาภาวนาที่สุวรรณสามโพธิสัตว์ได้แผ่ไปยังสัตว์น้อยใหญ่อยู่เสมอนั้น ได้บันดาลให้พระโพธิสัตว์เป็นที่รักและคุ้นเคยของสัตว์ป่านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นมฤคชาติชนิดใด ก็มักพากันมาห้อมล้อมพระโพธิสัตว์อยู่เสมอ

        แม้แต่เหล่ากินนรกินรี ผู้มีความขลาดกลัว มีความละอายเป็นปกติ ซึ่งมักจะอาศัยอยู่ในซอกเขาหรือสถานที่ห่างไกลจากผู้คนแต่พวกมันกลับออกจากที่ซุกซ่อนเพื่อมาเที่ยวเล่นกับพระโพธิสัตว์ 

        ยามใดที่บิดามารดาต้องออกไปหาผลาผลในป่า ทั้งสองท่านจะไม่ยอมให้สุวรรณสามออกติดตามไปด้วย แต่จะให้ลูกน้อยรอคอยอยู่ในอาศรมบท พระโพธิสัตว์จึงอาศัยอยู่ในอาศรมบทอย่างอบอุ่น และเป็นสุขเรื่อยมากระทั่งเจริญวัยเป็นหนุ่มน้อยมีอายุได้ 16 ปี

        สุวรรณสามโพธิสัตว์นั้นเป็นผู้มีปัญญา เมื่อได้เห็นบิดามารดาไปป่าเพื่อหาผลไม้  ก็คอยสังเกตหนทางไว้ด้วยดำริว่า “บิดามารดาทั้งสองของเรา ต้องออกไปหามูลผลาผลเพื่อนำมาเลี้ยงดูเรา  ซึ่งในป่าใหญ่นั้น ย่อมเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ร้ายมากมาย หากวันใดวันหนึ่งมีอันตรายเกิดขึ้นกับท่านพ่อและท่านแม่ของเรา เราจะได้ตามไปให้ความช่วยเหลือท่านทั้งสองได้”

        นับแต่นั้นมา ยามใดที่ฤษีทั้งสองต้องออกป่าไปหาผลไม้ สุวรรณสามก็จะเฝ้าสังเกตหนทางที่ฤษีทั้งสองเดินไป ทั้งยังกำหนดเวลาที่ท่านทั้งสองกลับมาด้วย

        กระทั่งวันหนึ่ง สองฤษีก็ออกป่าไปหาผลไม้เช่นเคย ครั้นถึงเวลาเย็น ขณะที่ทั้งสองกำลังเดินทางกลับมาใกล้จะถึงอาศรมนั้นเอง ลมพายุก็ก่อตัวขึ้น โหมพัดผืนป่าให้สะท้านหวั่นไหว   เบื้องบนท้องฟ้ามีหมู่เมฆดำทมึนตั้งเค้ามาแต่ไกล และแล้วก็โปรยปรายสายฝนลงมาประหนึ่งฟ้ารั่ว เมื่อไม่อาจเดินทางต่อไปได้ สองฤษีจึงมองหาที่หลบฝน ได้เห็นต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งมีใบดกหนา ทั้งอยู่บนจอมปลวกซึ่งเป็นเนินสูงกว่าบริเวณอื่น ทำให้น้ำฝนไหลบ่ามาท่วมไม่ถึง

        ทั้งสองจึงพากันไปยืนหลบฝนอยู่บนจอมปลวกใหญ่ภายใต้ร่มไม้นั้น โดยหารู้ไม่ว่า ภายในจอมปลวกนั้นมีอสรพิษร้ายตัวหนึ่งอาศัยอยู่   สายฝนได้ไหลหลั่งลงมาอย่างไม่ขาดสาย จนร่างของทั้งสองท่านเปียกชุ่ม น้ำฝนปนเหงื่อไคลของฤษีทั้งสองได้ไหลลงสู่ช่องจอมปลวก    แล้วไหลเข้าช่องจมูกของอสรพิษร้ายนั้น กลิ่นเหงื่อไคลของสองฤษีทำให้มันโกรธมากจึงพ่นลมพิษออกมาทางช่องจมูก ลมพิษนั้นได้ฟุ้งเข้านัยน์ตาของดาบสทั้งสอง

        พิษอันร้ายแรงได้ทำลายดวงตาทั้งสองข้างของสองฤษีในทันที จากที่เคยมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่าง แต่มาบัดนี้ดวงตากลับพลันมืดบอดจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งแสงริบหรี่

        เมื่อเกิดเหตุร้ายซ้ำเติมอย่างไม่คาดฝัน ทุกูลฤษีก็เกิดพรั่นพรึงใจร้องบอกปาริกาฤษิณีว่า “ปาริกา ดวงตาของฉันมืดบอดแล้ว มองอะไรไม่เห็นเลย  เธอเป็นอย่างไรบ้าง”

        แม้นางปาริกาฤษิณีก็ร้องเรียกหาทุกูลฤษีด้วยน้ำเสียงที่ตกใจและหวาดกลัวระคนกันว่า “ท่านพี่ ดวงตาของฉันก็มืดสนิท ฉันก็มองไม่เห็นเหมือนกัน” ต่างฝ่ายต่างร้องเรียกหากัน ยืนคร่ำครวญอย่างน่าสงสาร เพราะเข้าใจว่า บัดนี้ชีวิตของตนคงต้องสูญสิ้นเป็นแน่แท้

        เหตุที่สองฤษีจำต้องมาตาบอดทั้งสองข้างเช่นนี้ ก็เป็นเพราะวิบากกรรมของทั้งคู่ในครั้งอดีตชาติ  ซึ่งในครั้งนั้น คนทั้งสองมีอาชีพเป็นแพทย์รักษาคนไข้ และได้เป็นสามีภรรยากัน 

        ทุกูลฤษีในครั้งนั้นได้ทำการรักษาคนไข้รายหนึ่งที่ป่วยเป็นโรคตา ชายคนนั้นเป็นคนมีฐานะ เขาได้สัญญาว่าหากหมอรักษาตาเขาให้หายขาดจนมองเห็นได้ เขาจะให้ค่ารักษาพยาบาลอย่างงาม   แต่ครั้นหมอรักษาจนหายแล้ว ชายคนนั้นกลับไม่ยอมจ่ายค่ารักษาให้ ฝ่ายหมอผู้รักษาตานั้นโกรธมาก ได้นำความไปปรึกษากับภรรยาของตนว่าจะทำอย่างไรดี

        ฝ่ายภรรยานั้นเล่า เมื่อได้ฟังสามีกล่าวเช่นนั้นก็โกรธเช่นกัน ได้แนะอุบายให้กับสามีว่า “ถ้ามันไม่ยอมให้ค่ารักษา ท่านจงประกอบยาพิษขึ้น แล้วหยอดตาทั้งสองของมันให้บอดไปเสียเลยซิ” 

        สามีฟังคำของภรรยาแล้วก็เห็นชอบด้วย จึงได้ประกอบยาพิษแล้วใช้อุบายของตนหยอดยาให้ชายคนไข้ จนตาของเขากลับมาบอดสนิททั้งสองข้าง ด้วยบาปกรรมสาหัสนั้นเอง จึงกลายเป็นวิบากกรรมติดตามมาตัดรอนทำให้สองฤษีต้องมาตาบอดในภพชาตินี้

        เราจะเห็นได้ว่าบาปกรรมใดที่บุคคลก่อ แม้จะรู้สึกสะใจสมใจในคราวที่ก่อกรรม แต่บาปกรรมนั้นมันไม่ได้สูญหายไปไหน และไม่ให้อโหสิกรรมง่ายๆ แต่มันจะตามตอบสนองแก่บุคคลนั้นสักวันหนึ่ง

        ดังนั้น เราจึงต้องเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม จะได้รู้จักให้อภัย และหมั่นฝึกฝนตนเองให้มีเมตตาต่อกันอยู่เสมอ เมื่อยามที่ถูกใส่ร้าย ถูกเบียดเบียนให้ทุกข์ร้อน จะได้ไม่เร่าร้อนใจจนต้องก่อบาปกรรมขึ้น    เพราะถ้าหากไม่รู้จักให้อภัยแล้ว ก็อาจจะก่อเวรใหม่ได้ ซึ่งจะต้องไปชดใช้กรรม ดังที่ฤษีทั้งสองท่านประสบอยู่ในขณะนี้ ซึ่งท่านต้องตาบอดหลงทางอยู่กลางป่า ส่วนว่าท่านทั้งสองจะกลับอาศรมได้อย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
 
โดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 9ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 9

ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 10ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 10

ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 11ทศชาติชาดก เรื่องสุวรรณสาม ผู้ยิ่งด้วยเมตตาบารมี ตอนที่ 11



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก