ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 10


[ 4 มิ.ย. 2550 ] - [ 18275 ] LINE it!

 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  เนมิราช   ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี  ตอนที่ 10
 

        จากตอนที่แล้ว มาตลีเทพสารถีได้นำพระเจ้าเนมิราชไปถึงอังคารกาสุนรก อุสสุทนรกขุมที่ ๔  ซึ่งนายนิรยบาลกำลังใช้อาวุธไล่แทงสัตว์นรก ให้ตกไปในหลุมถ่านเพลิง  แล้วก็เอากระเช้าเหล็กตักถ่านเพลิงโปรยลงบนหัวของสัตว์นรกเหล่านั้น   เพราะตอนเป็นมนุษย์  ได้เรี่ยไรทรัพย์ของคนอื่นโดยอ้างว่าจะนำไปทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แต่กลับนำทรัพย์นั้นไปใช้เสียเอง

        ต่อจากนั้นก็มาถึงอุสสุทนรกขุมที่  ๕  มีชื่อว่า โลหกุมภีนรก ซึ่งเป็นนรกที่มีหม้อเหล็กใหญ่เท่าภูเขา ซึ่งเต็มไปด้วยน้ำเหล็กร้อนแรง สัตว์นรกจะถูกนายนิรยบาลจับโยนลงไปในหม้อโลหะอันร้อนแรง  เพราะโทษที่ตอนเป็นมนุษย์ชอบด่าสมณะพราหมณ์ผู้มีศีลมีกัลยาณธรรม
 
 
            
 
 
        จากนั้นก็มาถึงอุสสุทนรกขุมที่ ๖  มีชื่อว่า อโยทกนรก  ทรงเห็นนายนิรยบาลเอาเชือกเหล็กร้อนผูกคอสัตว์แล้วดึงขึ้นตัดคอจนสัตว์นรกคอขาดแล้วไล่ต้อนให้วิ่งไปตกลงไปในน้ำโลหะที่ร้อนแรง  เพราะโทษที่ตอนเป็นมนุษย์ ชอบผูกคอสัตว์  ฆ่าตัดหัว กินเองบ้าง ขายบ้าง
 
 
            

 
        ถัดมาก็ถึงอุสสุทนรกขุมที่  ๗  มีชื่อว่า ถุสปลาสนรก เป็นแม่น้ำสายหนึ่ง ที่เหล่าสัตว์นรกเกิดอาการกระหายน้ำ ต่างก็วิ่งย่ำแผ่นดินโลหะร้อนกระโจนลงไปในแม่น้ำนั้นเพื่อจะอาบและดื่ม  แต่น้ำนั้นก็พลันกลายเป็นแกลบลุกเป็นไฟ  เพราะวิบากกรรมตอนเป็นมนุษย์ได้เป็นพ่อค้าปนแกลบและข้าวลีบลงในข้าวเปลือก  แล้วหลอกขายให้แก่ลูกค้า 
 
 
            

 
        แล้วก็มาถึงอุสสุทนรกขุมที่ ๘ มีชื่อว่า สัตติหตนรก ในนรกขุมนี้ ปรากฏเห็นนายนิรยบาลห้อมล้อมฝูงสัตว์นรก  เมื่อล้อมเข้ามาใกล้ตัวสัตว์นรก ก็จะทิ่มแทงด้วยอาวุธหลายหลาก    เพราะวิบากกรรมตอนเป็นมนุษย์ชอบขโมยทรัพย์  เช่น เงิน ทอง แพะ  แกะ  วัว  ควาย
 
 
            

 
        อันดับต่อมา มาตลีเทพสารถีได้นำพระเจ้าเนมิราชมายังนรกอีกขุมหนึ่ง ชื่อว่า พิลสนรก (พิ-ละ-สะ-นะ-รก) ซึ่งเป็นอุสสุทนรกขุมที่ ๙  ได้ทรงทอดพระเนตรเห็นนายนิรยบาลกำลังผูกคอสัตว์นรกด้วยเชือกเหล็กอันมีไฟลุกโพลงอยู่  ฉุดคร่าลากมาให้สัตว์นรกล้มลงบนแผ่นดินเหล็กที่ลุกโพลง   แล้วนายนิรยบาลก็ทุบตีสัตว์นรกด้วยอาวุธต่างๆ เช่น ค้อนและขวาน จากนั้นก็นำสัตว์นรกมาวางให้นอนลงบนแผ่นเหล็กร้อน  แล้วเอามีดเชือดเนื้อสับเนื้อทำให้เป็นก้อนๆ วางไว้บนแผ่นเหล็กนั้น  ดูแล้วน่าสยดสยองยิ่งนัก  
 
        พระเจ้าเนมิราชจึงตรัสถามว่า “ท่านมาตลีเทพสารถี สัตว์นรกเหล่านี้ทำบาปกรรมอะไรไว้ จึงถูกนายนิรยบาลเชือดหั่นทำเป็นก้อนๆ นอนอยู่เช่นนี้”

        มาตลีเทพสารถีจึงได้กราบทูลให้ทรงทราบว่า “อดีตตอนเป็นมนุษย์ได้ฆ่าวัว  ฆ่าควาย แพะ แกะ สุกร  ปลา  เป็นต้น แล้วแล่เป็นชิ้นๆ นำมาวางไว้ในร้านขายเนื้อ เพราะต้องการเลี้ยงชีพตัวเอง แต่เบียดเบียนสัตว์อื่นจนถึงแก่ชีวิต  ตนเองจึงต้องมาทนทุกข์เวทนาเช่นนี้”

        อุสสุทนรกขุมที่ ๑๐ ถัดมามีชื่อว่า  โปราณมิฬหนรก (โป-รา-ณะ-มิน-ละ- หะ-นะ-รก) พระเจ้าเนมิราชได้ทอดพระเนตรเห็นสัตว์นรกกำลังกินมูตรและคูถเป็นอาหารอันโอชะอยู่    ทรงสดับจากมาตลีเทพสารถีที่ทูลตอบให้ทรงหายสงสัยว่า  “ข้าแต่พระจอมประชา ในอดีต สัตว์นรกนี้ก็เกิดเป็นมนุษย์ ได้ประทุษร้ายมิตร  คือได้รับการต้อนรับ ได้นั่งได้นอน ได้รับประทานอาหาร   ในที่ๆ มิตรสหายเขาจัดต้อนรับไว้อย่างดี   แต่เมื่อโอกาสอำนวย ก็กลับขโมยเงินทองของมิตรสหายผู้แสนดีของตน  จึงต้องมาเคี้ยวกินก้อนคูถอย่างที่พระองค์ทรงทอดพระเนตรอยู่นี้”
 
 
            

 
        ต่อมา  เวชยันตรถก็มาหยุดอยู่  ณ  โลหิตปุพพนรก (โล-หิ-ตะ-ปุพ-พะ-นะ-รก) อุสสุทนรกขุมที่  ๑๑ ที่สัตว์นรกเกิดในแม่น้ำใหญ่ที่เต็มไปด้วยเลือดและหนอง ทรงทอดพระเนตรเห็นสัตว์นรกกำลังเอาเลือดและหนองทำเป็นก้อนๆ คลุกเคล้ากัน   แล้วนำมาเคี้ยวกิน
 
        เมื่อเลือดและเนื้อตกไปถึงท้อง ลำไส้น้อยใหญ่ก็จะกลายเป็นไฟพวยพุ่งออกจากทางทวารเบื้องต่ำทันที    เพราะในอดีตเป็นมนุษย์ได้ทำกรรมหนักคือทำร้ายมารดาบิดา  พระสงฆ์  และผู้มีพระคุณ   จึงต้องมาเสวยผลแห่งกรรมเช่นนี้

        นรกอีกขุมถัดมานั้นเล่า  เป็นอุสสุทนรกขุมที่ ๑๒ ที่ชื่อว่า  โลหพฬิสนรก (โล-หะ-พะ-ฬิ-สะ นะ-รก)  ก็ทรงเห็นนายนิรยบาลเอาคีมเหล็กดึงลิ้นของสัตว์นรกออกมา หลังจากนั้นก็เอาเบ็ดเหล็กอันร้อนแรงที่มีขนาดโตเท่ากับลำตาลเกี่ยวลิ้นสัตว์นรก   พร้อมทั้งฉุดคร่าสัตว์นรกให้ล้มลงบนแผ่นดินโลหะร้อนๆ  แล้วก็จับสัตว์นรกให้นอนแผ่ แล้วก็เอาตะขอเหล็กใหญ่ร้อนสับที่ร่างของสัตว์นรก แล้วก็ถลกหนังสัตว์นรกออกมา  นำมาขึงพืดไว้  ทำเหมือนสับหนังโคขึงไว้ ฉะนั้น 

        สัตว์นรกก็ดิ้นทุรนทุรายเหมือนปลาที่ถูกทุบดิ้นอยู่บนบก  สุดจะทนทานต่อความทุกข์ร้อนที่รุมเร้าได้ ก็ร้องไห้ปล่อยน้ำลายให้ไหลออกมา      ทุกขเวทนาแสนสาหัสที่เขาได้รับนี้ เพราะอดีตชาติตอนเป็นมนุษย์เป็นคนค้าขายที่โกงตาชั่ง  ปกปิดกลโกงที่ตนทำไว้ ใช้คำพูดอ่อนหวานหว่านล้อมให้คนอื่นมาซื้อของของตน      เหมือนคนที่ใช้เหยื่อหุ้มเบ็ดไว้เพื่อล่อปลาให้มากินเบ็ด  จึงต้องมาทนทุกข์รับกรรมที่ตนเองได้ทำไว้
 
 
            
 

        นรกขุมที่ ๑๓ ต่อมานั้นชื่อว่า  สังฆาฏนรก  (สัง-ฆา-ฏะ-นะ-รก) ซึ่งมีลักษณะเป็นหลุมใหญ่ที่เต็มไปด้วยถ่านเพลิงที่ลุกโชน  ซึ่งมีไว้เพื่อต้อนรับสัตว์นรกที่เป็นผู้หญิงซึ่งมีศีรษะขาด  ร่างกายก็เป็นแผลไปทั้งตัว ทั้งเปรอะเปื้อนไปด้วยเลือดและหนอง มีแมลงวันรุมตอม       แถมยังถูกนายนิรยบาลไล่แทงด้วยอาวุธต่างๆ อยู่ตลอดเวลา  ไม่มีการพักและไม่มีหมดแรง  เพราะทุกแรงเสริมนั้นมาจากกรรมของสัตว์นรกหญิงเหล่านั้นเป็นกำลังหนุน

        จากนั้นนายนิรยบาลก็จับที่เท้าของสัตว์นรกหญิงเหล่านั้น แล้วยกขึ้นโยนลงไปในหลุมถ่านเพลิง  ตัวสัตว์นรกเหล่านี้จมอยู่แค่สะเอว    ชั่วครู่ก็มีภูเขาไฟกลิ้งมาเองจากทั้ง ๔ ทิศ ซึ่งภูเขาไฟจากทุกทิศจะกลิ้งเข้าหาสัตว์นรกแล้วก็พร้อมกันบดร่างของสัตว์นรกจนละเอียดเป็นจุณไป  

        พระเจ้าเนมิราชทรงได้รับคำทูลตอบให้หายสงสัยว่า “ข้าแต่จอมประชา ในอดีตชาติ  สัตว์นรกหญิงเหล่านี้ เป็นกุลธิดา  แต่เป็นหญิงนักเลง  ไม่กลับบาปกรรม คบชู้กับชายอื่น ไม่กลัวเกรงสามีของตน จึงต้องมาถูกภูเขาที่ลุกไหม้กลิ้งมาบดร่างให้แหลกละเอียดอยู่เช่นนี้”
 

            
 

        ท่านผู้มีบุญทั้งหลาย การที่เราได้มาท่องนรกกับพระเจ้าเนมิราชในครั้งนี้ไม่ใช่ว่าจะเกิดขึ้นง่ายๆ แม้ว่าในนรกแต่ละขุมที่ผ่านมา การลงโทษทัณฑ์จะสุดแสนหฤโหด แต่ก็มีประโยชน์ที่ได้ศึกษา อันดับแรกก็จะทำให้เรารู้ว่า การทำบาปอย่างนี้ๆ มีขุมนรกคอยรอต้อนรับอยู่

        อีกอย่างหนึ่ง เราจะได้นำไปบอกกล่าวห้ามปรามบุคคลที่เรารัก เมื่อยามที่เขาหลงผิดไปก่อบาปอกุศลว่า อย่าได้หลงผิดคิดว่า บาปกรรมที่เราทำนั้นจะไม่ตามตอบสนอง เพราะมีคนที่คิดอย่างนี้ต้องตกไปสู่นรกถูกทัณฑ์ทรมานมามากแล้ว

        ขอให้อดทนติดตามสักนิด อีกเพียงสามขุมเท่านั้น เทวรถที่นำเที่ยวโดยมาตลีเทพสารถีก็จะนำขึ้นไปเยี่ยมชมสวรรค์แล้ว ส่วนว่าในสรวงสวรรค์นั้นจะสวยงาม และมีความสุขสบายอย่างไร โปรดรอติดตามตอนต่อไป
 
พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 11ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 11

ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 12ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 12

ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 13ทศชาติชาดก เรื่องเนมิราช ผู้ยิ่งด้วยอธิษฐานบารมี ตอนที่ 13



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก