เม็กซิโก ประตูสู่อเมริกาใต้


[ 20 ก.ค. 2550 ] - [ 18290 ] LINE it!

เม็กซิโก (Mexico)

 
 
    เม็กซิโก (Mexico) มีเนื้อที่ 1,900,000ตารางกิโลเมตร ใหญ่เป็นอันดับที่15 ของโลก   ทิศเหนือจรดสหรัฐอเมริกา โดยมีพรมแดนติดต่อกันถึง 3,326กิโลเมตร ส่วนทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ จรดเบลีซ และกัวเตมาลา

    จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ ระบุได้ว่า เม็กซิโกเป็นประเทศเก่าแก่  มีการทำเกษตรกรรม มากว่า 7,000ปีก่อนคริสตกาล และเป็นที่ตั้งอาณาจักรโบราณอันยิ่งใหญ่ เช่น มายา ซึ่งมีความเจริญทั้งในด้านสถาปัตยกรรม, วิศวกรรมและดาราศาสตร์ ชาวมายาสร้างวิหารใหญ่โตอลังการ พีระมิดสูงเสียดฟ้า อักษรภาพ และปฏิทิน ส่วนในยุคของแอซแทค ก็รุ่งเรืองด้วยวิทยาการต่างๆ เช่น พีระมิด และร่ำรวยด้วยทรัพยากรอันมีค่า เช่น ทอง เงิน และทองแดง

    ปัจจุบัน เม็กซิโกประกอบด้วยชนหลายเชื้อชาติ เป็นลูกผสมระหว่างชนผิวขาวกับชาวอินเดียนพื้นเมือง ที่เรียกว่า เมสติโซ 60% ชาวอินเดียนเลือดบริสุทธิ์ ที่เรียกว่า อเมรินเดียน 30% และคอเคเชียน 10% มีประชากร 108ล้านคน มากเป็นอันดับ11 ของโลก
 
 
    ปกครองแบบสาธารณรัฐประชาธิปไตย มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ภาษาราชการ คือ ภาษาสเปน และยังเป็นประเทศที่มีผู้ใช้ภาษาสเปนมากที่สุดในโลก

 
    ชาวเม็กซิโกส่วนใหญ่ นับถือศาสนาคริสต์ นิกายโรมันคาทอลิก นักบุญที่ชาวเม็กซิกันนับถือมากที่สุดคือ พระแม่เจ้ากัวดาลูเป แต่ชาวชาวพื้นเมืองในชนบท ยังคงผูกพันกับประเพณีเก่าแก่ เมื่อมีคนเจ็บป่วยในหมู่บ้าน จะเชื่อว่า เกิดจากคนผู้นั้นกระทำผิดต่อเทพเจ้า หรือล่วงเกินวิญญาณศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ต้องสูญเสียวิญญาณไปชั่วขณะ จะแก้ไขได้โดยให้ บรูโฆ่ะ (พ่อมด) หรือคูรานเดโร่ (คนทรง) ทำพิธีกรรมเรียกวิญญาณกลับคืนมา
 
    เม็กซิโก มีความหลากหลายทางธรรมชาติมาก ทั้งทุ่งนา ป่าฝน เทือกเขานับไม่ถ้วน ภูเขาไฟที่มียอดปกคลุมด้วยหิมะ และหาดทรายชายทะเล ทำให้เม็กซิโกเป็นจุดหมายปลายฝันของนักเดินทางทั่วทุกมุมโลก เม็กซิโกมีเมือง และสถานที่สำคัญมากมาย เช่น
 
    เม็กซิโกซิตี้ ชาวเม็กซิโกเรียกว่า ซิวดาส เด เม้ฆิโค เมืองสมัยใหม่ที่เต็มไปด้วยตึกระฟ้า ตั้งอยู่ริมทะเลสาบ แวดล้อมด้วยภูเขาไฟที่ดับสนิท และเป็นแหล่งรวมโบราณสถาน,พิพิธภัณฑ์ ที่มีชื่อเสียงระดับโลกอยู่ทั่วเมือง เช่น พิพิธภัณฑ์มานุษยวิทยา รวบรวมศิลปกรรมของเม็กซิโก อายุเกือบ 3,000ปี
 
 
    โออาซากา ได้ชื่อว่า เป็นดินแดนดั้งเดิม ของชนเผ่าโบราณ เดือนกรกฎาคมของทุกปี จะมีเทศกาลที่มีชื่อเสียงที่สุดงานหนึ่งของเม็กซิโก ชื่อ กเวลาเกวตซ่า ชนกลุ่มน้อยเผ่าต่างๆ จะมาทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น แต่งตัวสวยงามด้วยสีสันของเผ่าตน และแสดงพิธีบวงสรวงเทพเจ้าแห่งความสมบูรณ์ ตามความเชื่อโบราณ
 
    เมืองโบราณเตโอติอัวคัน แปลว่า City of god สร้างราว ค.ศ.200 เป็นเมืองโบราณที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ เชื่อกันว่าพระเจ้าเป็นผู้สร้าง ภายในพีระมิดขนาดใหญ่ เป็นที่ประทับของเทพเจ้าผู้บันดาลให้พระอาทิตย์ เคลื่อนที่ไปตามกาลเวลา ทุกปีชาวเม็กซิโกนับหมื่น นับแสน จะพากันไปที่นี่ เพื่อเสริมพลังชีวิตของพวกเขา ตามความเชื่อดั้งเดิม
 
    ป้อมพีระมิดชิเชน อิทซา ได้รับการประกาศให้เป็น 1ใน7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ จากการโหวตของคนทั่วโลก เมื่อวันที่7 เดือน7 พ.ศ.2550 (ค.ศ.2007)
 
    หุบเขาทองแดง มีพื้นที่กว่า 6,500ตารางไมล์ ใหญ่กว่าแกรนด์แคนยอน 4เท่า เป็นหน้าผาที่เกิดจากหินภูเขาไฟ วิธีไปชมที่ดีที่สุด คือ การเดินทางโดยรถไฟ ซึ่งมีเส้นทาง ตัดผ่านเข้าไปในภูเขา สร้างตั้งแต่ปีค.ศ.1863-1928 (รวม 65 ปี) สูงเหนือระดับน้ำทะเล 7,000ฟุต
 
 
    กานกูน หรือ แคนคูน เมืองท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุด มีชายหาดสีขาว อบอุ่นด้วยแสงแดดตลอดปี เป็นสวรรค์ของผู้รักชายหาด และกีฬาทางน้ำ
 
    อาหารของชาวเม็กซิกัน  ขึ้นชื่อในเรื่องความหลากหลาย และเผ็ดร้อนไม่แพ้อาหารไทย มื้อสำคัญที่สุดคือมื้อกลางวัน ประกอบด้วยอาหารหลัก 1 ใน 3ชนิดนี้ หรือไม่ก็ครบทั้ง 3อย่างคือ ตอร์ติญ่า แป้งข้าวโพดทำเป็นแผ่นกลมๆแบนๆ ฟริโฆ้เลส ถั่วต้ม และ ชิเล อาหารที่ทำจากเนื้อแล้วปรุงด้วยพริก มีความเผ็ดหลายระดับ เช่นเผ็ดมาก เผ็ดปานกลาง เผ็ดน้อย
 
 
    ด้วยพลังที่ซุกซ่อน อยู่ในทุกรายละเอียดของวัฒนธรรม ผสานธรรมชาติอันน่าดึงดูดใจทุกมุมมอง เม็กซิโกกำลังมอบความตราตรึง ให้โลดแล่นอยู่ในหัวใจทุกคนตลอดไป
 
คำทักทายของประเทศเม็กซิโก (ภาษาสเปน)
 
โอ้หล่า–อา–โทโดส–เอน–เม้-หิ-โก

สวัสดีทุกๆคนในเม็กซิโก
 
บ๊วย-โนส-เดี๊ยส
อรุณสวัสดิ์
 
ซา-ลู-โด๊ส
ขอให้โชคดี
 
พระพุทธศาสนาในเม็กซิโก

    พระพุทธศาสนา เดินทางสู่ดินแดนเม็กซิโกครั้งแรกเมื่อใดยังไม่มีหลักฐานปรากฏแน่ชัด แต่มีหลักฐานทางทิเบตกล่าวว่า พระภิกษุชาวจีนเผยแผ่พระพุทธศาสนาในเม็กซิโก เมื่อพุทธศตวรรษที่10 (คริสต์ศตวรรษที่5) และมีชาวพุทธในแผ่นดินนี้สืบมา จนกระทั่งถึงต้นพุทธศตวรรษที่18 (คริสต์ศตวรรษที่13)

    คำบอกเล่าของชาวพื้นเมืองกล่าวถึง พระภิกษุโกนศีรษะห่มจีวร มาจากดินแดนตะวันออก เพื่อเผยแผ่สัจธรรม และความเป็นไปของสิ่งทั้งหลาย (The knowledge of truth and “the way things are”)

    หลังจากสเปน และโปรตุเกส เดินเรือไปค้าขายผ้าไหม เครื่องถ้วยชาม และสินค้าต่างๆจากอินเดีย จีน และเอเชียอาคเนย์ ก็ได้นำสินค้ามาสู่ลาตินอเมริกา รวมถึงดินแดนของเผ่ามายาและแอซแทคโบราณด้วย จึงยังพบวัตถุสินค้าจากจีนหลงเหลืออยู่

    ต่อมา เมื่อชาวแอซแทคได้ชัยชนะและครอบครองเหนือดินแดนเม็กซิโกสำเร็จ ต้นพุทธศตวรรษที่18 พระพุทธศาสนาก็เลือนหายไปจากดินแดนนี้

    พระพุทธศาสนาเข้าสู่ดินแดนเม็กซิโกอีกครั้ง ประมาณพุทธศตวรรษที่24-25 โดยผ่านด้วยบทกวีไฮกุ และงานเขียนต่างๆ และมีการตั้งสถาบันตะวันออกศึกษา ที่มุ่งเน้นไปที่พุทธศาสนา ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติเม็กซิโกด้วย


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
แสงแห่งธรรม สว่างขึ้นแล้ว...แสงแห่งธรรม สว่างขึ้นแล้ว...

เรื่องเล่า จาก เซ้าท์อาฟริกาเรื่องเล่า จาก เซ้าท์อาฟริกา

เมื่อ (อดีต) มนุษย์กินคนร่วมสร้างโมดุลเมื่อ (อดีต) มนุษย์กินคนร่วมสร้างโมดุล



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน