น้องบัวบุญ...เด็กเก่งและดี...วีสตาร์


[ 13 มิ.ย. 2554 ] - [ 18279 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2554
น้องบัวบุญ...เด็กเก่งและดี...วีสตาร์
 
ปรโลกนิวส์: น้องบัวบุญ...เด็กเก่งและดี...วีสตาร์
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
ประวัติ น้องบัวบุญ ปัญญาโกวิทกุล (น้องบัว)
 
ด.ญ.บัวบุญ ปัญญาโกวิทกุล        ด.ญ.บัวบุญ ปัญญาโกวิทกุล ชื่อเล่น น้องบัว อายุ 10 ปี กำลังศึกษาอยู่ชั้น ป.5 โรงเรียนยุวทูตศึกษา กรุงเทพฯ เป็นเด็กดีวีสตาร์ (V-Star) ตั้งแต่เล็กๆน้องบัวจะเป็นคนรักการทำบุญ ชอบใส่บาตรและสวดมนต์เป็นประจำ น้องบัวมีโอกาสมาวัดพระธรรมกายครั้งแรกตอนอายุ 4 ขวบ โดยคุณอาพามาทำบุญที่วัด จนกระทั่งอายุ 6 ขวบ น้องบัวได้ย้ายมาเรียนที่กรุงเทพฯ จึงได้มีโอกาสมาเข้าค่ายยุวกัลยาณมิตร และเป็นอาสาสมัครที่วัด ซึ่งได้มาต้อนรับพระเดชพระคุณหลวงพ่อ และเข้าโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาเป็นประจำ หลังจากนั้นก็ได้ไปปฏิบัติธรรมที่พนาวัฒน์กับคุณอา น้องบัวนั่งธรรมะเห็นดวงสีดำๆสีเหมือนกระดานดำ 3 ดวง น้องบัวบอกว่า “น่ากลัวมาก” ซึ่งก่อนกลับจากพนาวัฒน์ น้องบัวได้ไปที่วัดบ้านขุน และเอาซองบอกบุญสร้างศูนย์ปฏิบัติธรรมที่วัดบ้านขุน มาบอกบุญทุกคนก่อนขึ้นรถกลับวัดพระธรรมกาย ซึ่งบุญนี้เป็นบุญที่น้องบัวปลื้มใจมาก
 
        พอลงมาจากพนาวัฒน์ ถ้ามีโอกาสน้องบัวก็จะสมาทานศีลแปดเป็นประจำ แต่พักหลังๆเวลามีงานบุญอะไรที่วัด ถ้ามาชวนน้องบัวไปทำบุญ น้องบัวก็มักจะพูดเสมอว่า “หนูไปทำบุญด้วยสิ เวลาหนูเหลือน้อยแล้ว” หรือบางครั้งน้องบัวก็มักจะถามว่า “ถ้าถอดกายแล้วจะคุยกันรู้เรื่องไหมคะ” หรือ “ถ้าถอดกายแล้วจะต้องทำยังไงต่อคะ” น้องบัวจะชอบพูดประมาณนี้อยู่เรื่อยๆ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 5 มิถุนายน ที่ผ่านมา ที่วัดได้มีงานบุญใหญ่พิธีรับสไบแก้ว ใน
โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งล้านคน รุ่นที่ 6 น้องบัวก็ได้มาเป็นอาสาสมัครแจกอาหารและไส้เทียนจุดโคมให้แก่เหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งบุญที่น้องบัวปลื้มใจมาก ซึ่งตอนนั้นน้องบัวก็ยังแข็งแรงและปกติดีทุกอย่าง
 
        แทบไม่น่าเชื่อพอวันรุ่งขึ้น ในตอนเช้า น้องบัวมีอาการไม่สบาย ตัวร้อนรุมๆ และอาเจียน จนทางบ้านได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาล คุณหมอได้ตรวจและบอกว่าน่าจะเป็นไข้เลือดออกรอบสอง จึงให้ยาแล้วให้กลับมารักษาตัวที่บ้าน แต่พอตอนเช้าอาการของน้องบัวก็ยังไม่ดีขึ้น น้องบัวอาเจียนหนักขึ้นและปวดท้อง หมอจึงเจาะเลือดและวินิจฉัยว่าน่าจะติดเชื้อในกระเพาะอาหาร คืนนั้นน้องบัวจึงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล จนวันรุ่งขึ้น (วันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2554) อาการของน้องบัวก็ยังไม่ดีขึ้น หมอได้มาตรวจใหม่ พบว่าในกระเพาะอาหารของน้องบัวมีน้ำอยู่มาก หมอสันนิฐานว่าเส้นเลือดเปราะ ทำให้น้ำซึมออกจากเส้นเลือด ทำให้มีน้ำอยู่ในช่องท้องและปอดเป็นจำนวนมาก ตับอักเสบและถุงน้ำดีโต ซึ่งที่น่าตกใจที่สุด คือ หมดตรวจพบไวรัสชนิดหนึ่งที่ได้เข้าไปทำลายกล้ามเนื้อหัวใจโดยตรง ระยะเฉียบพลัน โดยหมอได้บอกให้ทางบ้านทำใจ เพราะรักษาไม่ได้ หมอเสียใจด้วย ในคืนนั้นเวลาประมาณสองทุ่มกว่าๆ คุณแม่ของน้องบัวได้ทำบุญสร้างองค์พระธรรมกายประจำตัวให้น้องบัว 10 องค์ โดยน้องบัวได้อนุโมทนาบุญกับบุญใหญ่ในครั้งนี้ด้วยตนเอง และหลังจากนั้นประมาณห้าทุ่มยี่สิบนาที น้องบัวก็ได้จากไปอย่างสงบไม่ทรมานอะไรเลย โดยน้องบัวมีอายุรวมแล้ว 10 ปี 8 เดือน 16 วัน
 
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
 
คืนวันพุธที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2554 (คืนวันเสียชีวิต)
 
        ก่อนที่น้องบัวบุญจะเสียชีวิต น้องบัวบุญก็ได้นึกถึงบุญทุกบุญที่คุณอาของเธอได้ทำบุญให้เธอ อีกทั้งน้องบัวบุญยังได้พยายามทำสมาธิ ภาวนา “สัมมาอะระหัง” ควบคู่กันไปด้วย แต่อย่างไรก็ตาม ความตายเป็นสิ่งที่ไม่มีนิมิตหมาย และไม่เคยละเว้นใคร ไม่ว่าจะเป็นเด็กน้อยตัวเล็กๆหรือผู้ใหญ่ตัวโตๆ ดังนั้น เมื่อวาระสุดท้ายของน้องบัวบุญมาถึง เธอจึงจำต้องออกจากกายหยาบทั้งๆที่ตัวเธอก็ยังไม่อยากไป ภายหลังจากที่น้องบัวบุญได้เสียชีวิตแล้ว กายละเอียดของเธอก็ได้หลุดออกมาอยู่ข้างๆกายหยาบ แล้วก็เห็นร่างของตนเองนอนอยู่บนเตียง ซึ่งในตอนนั้น น้องบัวบุญก็ยังไม่รู้สึกตัวว่า “ตัวเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว” และยังวนเวียนอยู่ที่โรงพยาบาล
 
ก่อนที่น้องบัวบุญจะเสียชีวิต เธอได้นึกถึงบุญทุกบุญ และพยายามทำสมาธิ
 
ก่อนที่น้องบัวบุญจะเสียชีวิต เธอได้นึกถึงบุญทุกบุญ และพยายามทำสมาธิ
 
วันพฤหัสบดีที่ 9 มิถุนายน พ.ศ.2554
 
        เมื่อเวลาผ่านไป น้องบัวบุญก็เริ่มไปในสถานที่ต่างๆที่เธอคุ้นเคย เช่น ไปหาคุณพ่อคุณแม่, คุณอา และญาติๆที่เธอรักและคุ้นเคย เป็นต้น แล้วเธอก็ได้พูดคุยทักทายกับทุกคน แต่ไม่ว่าน้องบัวบุญจะพูดคุยหรือสื่อสารกับใครก็ไม่มีใครรับรู้หรือรู้เรื่องเลย แม้ทุกคนจะนิ่งเฉยกับน้องบัวบุญ แต่เธอก็ยังไม่มีความคิดว่า “ตัวเธอได้เสียชีวิตไปแล้ว” 
 
เมื่อเวลาผ่านไป น้องบัวบุญเริ่มไปในสถานที่ต่างๆที่เธอคุ้นเคย เช่น ไปหาคุณพ่อคุณแม่
 
เมื่อเวลาผ่านไป น้องบัวบุญเริ่มไปในสถานที่ต่างๆที่เธอคุ้นเคย เช่น ไปหาคุณพ่อคุณแม่ 
 
วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ.2554
 
        วันนี้เป็นวันที่น้องบัวบุญเริ่มสงสัย และเอะใจว่า “ตัวเธอน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว” เพราะเป็นวันที่สองที่เธอไม่สามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับใครได้เลย อีกทั้ง น้องบัวบุญยังเห็นทุกคนในบ้านมีกิจกรรมที่เกี่ยวเนื่องกับงานศพของเธอ แม้ในตอนนั้น น้องบัวบุญจะรู้สึกสงสัยและเอะใจ แต่ด้วยความที่เธอเป็นเด็กที่พิเศษ และเป็นเด็กที่มีบุญ น้องบัวบุญจึงไม่ได้เสียใจหรือร้องไห้ฟูมฟายเหมือนอย่างเด็กทั่วๆไป ตรงกันข้าม น้องบัวบุญกลับสอนตัวเองว่าจะต้องมีสติ หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นกับตัวเธอ กอปรกับในช่วงที่น้องบัวบุญยังมีชีวิตอยู่ เธอมักจะมีความรู้สึกลึกๆในใจเสมอว่า “ตัวเธอเองน่าจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน” เธอจึงขวนขวายทำบุญ รักบุญ และมาเป็นอาสาสมัครช่วยงานวัดอย่างเต็มที่เต็มกำลัง ด้วยหัวใจที่ร่าเริงบันเทิงในบุญเสมอมา 
 
ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ น้องบัวบุญมักจะมีความรู้สึกลึกๆในใจเสมอ ว่าตัวเธอเองน่าจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน เธอจึงขวนขวาย ทำบุญ อย่างเต็มที่เต็มกำลังด้วยหัวใจที่ร่าเริง
 
ในช่วงที่ยังมีชีวิตอยู่ น้องบัวบุญมักจะมีความรู้สึกลึกๆในใจเสมอว่า ตัวเธอเองน่าจะมีชีวิตอยู่ในโลกนี้อีกไม่นาน
เธอจึงขวนขวายทำบุญ อย่างเต็มที่เต็มกำลังด้วยหัวใจที่ร่าเริง 
 
        ในระหว่างที่น้องบัวบุญกำลังสงสัย และเอะใจอยู่นั้น ด้วยความที่เธอมีความคุ้นเคยและชอบมาวัด รับบุญอยู่เป็นประจำ มารวมกับความที่เธอรักและผูกผันกับคุณครูไม่ใหญ่ กายละเอียดของน้องบัวบุญจึงได้แวบมาที่วัดในทันที เมื่อน้องบัวบุญแวบมาที่วัดแล้ว เธอก็ได้เห็นภาพการรับบุญต่างๆที่เธอคุ้นเคยมาปรากฏฉายให้เธอได้เห็น ด้วยเหตุนี้เอง กายละเอียดของเธอจึงเริ่มสดใสและสว่างไสวขึ้นไปตามลำดับ
 
วันเสาร์ที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2554
 
        เมื่อเวลาผ่านไป น้องบัวบุญก็เริ่มรู้ตัว และยอมรับว่า “ตัวเธอเองได้เสียชีวิตแล้ว” ซึ่งในระหว่างนี้เอง กายละเอียดของเธอก็ได้แวบไปและแวบมา อยู่ระหว่างที่วัดและที่บ้าน ด้วยความที่น้องบัวบุญมีใจรักวัด รักหลวงพ่อ และชอบมารับบุญเป็นอาสาสมัครที่วัดอยู่เป็นประจำ ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้กายละเอียดของเธอได้แวบมาที่วัด จากนั้น เธอก็ได้ไปยังสถานที่ต่างๆภายในวัด เช่น สภาธรรมกายสากล มหาธรรมกายเจดีย์ และโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา เป็นต้น ซึ่งเป็นสถานที่ที่ตัวเธอเองได้เคยมารับบุญในสมัยที่เธอยังมีชีวิตอยู่ และเมื่อเธอได้ไปยังสถานที่ดังกล่าวแล้ว ก็ทำให้ภาพบุญต่างๆที่เธอได้เคยกระทำเอาไว้ มาฉายปรากฏให้เธอได้เห็น ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวเธอเองเกิดความปลื้มปีติเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
 
 ภาพบุญต่างๆที่น้องบัวบุญได้เคยกระทำเอาไว้ ได้มาฉายปรากฏ ให้เธอเห็น ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวเธอเองเกิดความปลื้มปีติ เบิกบานใจเป็นอย่างมาก
 
ภาพบุญต่างๆที่น้องบัวบุญได้เคยกระทำเอาไว้ ได้มาฉายปรากฏให้เธอเห็น
ซึ่งก็เป็นผลทำให้ตัวเธอเองเกิดความปลื้มปีติเบิกบานใจเป็นอย่างมาก
 
        จากนั้น น้องบัวบุญก็ได้ก้มลงกราบพระประธาน กราบมหาธรรมกายเจดีย์ และเมื่อเธอได้กราบแล้ว เธอก็จะนั่งสมาธิตามหลักวิชชาที่เธอได้เคยศึกษามา กล่าวคือ นึกถึงดวงแก้วใสๆ และภาวนา “สัมมาอะระหัง” เป็นระยะเวลาสั้นๆประมาณ 5-10 นาที ในทุกๆที่ที่เธอได้ไป ซึ่งก็ทำให้กายละเอียดของเธอมีความผ่องใสและสว่างไสวแบบนวลๆมากยิ่งขึ้น
 
เมื่อวานนี้ คือ วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ.2554
 
        กายละเอียดของน้องบัวบุญก็ได้มาอยู่ที่วัด และได้ร่วมงานบุญอยู่ที่วัดตลอดทั้งวัน หลังจากที่เสร็จพิธีงานบุญทุกอย่างแล้ว กายละเอียดของน้องบัวบุญก็ได้มานั่งสมาธิทบทวนบุญอยู่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ ด้วยความที่เธอทั้งรู้และตระหนักดีว่า “ตัวเธอเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ในตอนนั้น เธอได้มีใจที่หยุดนิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนทำให้เธอได้เห็นดวงธรรมใสๆผุดขึ้นมาที่ศูนย์กลางกายของเธอ
 
หลังจากที่เสร็จพิธีงานบุญทุกอย่างแล้ว น้องบัวบุญได้มานั่งสมาธิ ทบทวนบุญอยู่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์
 
หลังจากที่เสร็จพิธีงานบุญทุกอย่างแล้ว กายละเอียดของน้องบัวบุญ
ได้มานั่งสมาธิทบทวนบุญอยู่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์
 
สำหรับในวันนี้ คือ วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ.2554
 
        กายละเอียดของน้องบัวบุญก็มีความรู้สึกว่า “ตัวเธอเองจะมีเวลาอยู่ในโลกนี้อีกไม่นานแล้ว ก่อนที่เธอจะต้องเดินทางไปสู่อีกโลกหนึ่ง” ด้วยเหตุนี้เอง เธอจึงได้แวบกลับไปที่บ้านของเธอ จากนั้น กายละเอียดของน้องบัวบุญก็ได้กราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ที่ได้ให้กายมนุษย์หยาบแก่เธอมาสั่งสมบุญสร้างบารมี (ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน้องบัวบุญเป็นเด็กที่มีความคิดแบบผู้ใหญ่ ที่แตกต่างจากความคิดของเด็กทั่วๆไป หลังจากนั้น กายละเอียดของน้องบัวบุญก็ได้แวบไปหาคุณอา ซึ่งเธอมีความรักและผูกพันเป็นอย่างมาก แล้วเธอก็ได้กราบขอบพระคุณคุณอาที่ได้พาเธอมาสร้างบารมีที่วัด เมื่อกายละเอียดของเธอได้ไปกราบขอบพระคุณผู้ที่มีพระคุณกับเธอแล้ว เธอก็ได้แวบกลับมานั่งสมาธิทบทวนบุญต่อที่หน้ามหาธรรมกายเจดีย์ ซึ่งในตอนนี้ ใจของเธอก็ติดอยู่กับธรรมะภายในอย่างเดียว โดยที่ตัวเธอได้เห็นดวงธรรมใสๆติดอยู่ที่ศูนย์กลางกายของเธออยู่ตลอดเวลา
 
กายละเอียดของน้องบัวบุญได้ไปกราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ และคุณอา ผู้มีพระคุณกับเธอ
 
กายละเอียดของน้องบัวบุญได้ไปกราบขอบพระคุณคุณพ่อคุณแม่ และคุณอา ผู้มีพระคุณกับเธอ
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
DMC ที่โซโลมอนDMC ที่โซโลมอน

Solomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคนSolomon Islands หมู่เกาะมนุษย์กินคน

เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้เกาะที่ใกล้ขั้วโลกเหนือมากที่สุด ที่มนุษย์อยู่ได้



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน