ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 1 เมษายน พ.ศ.2556
กรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 1
กรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 1เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
ที่ออกอากาศทางช่อง DMCคำถามข้อที่ 1. โยมปู่ของผมเสียชีวิตแล้วไปอยู่ที่ไหน ชีวิตความเป็นอยู่ในปรโลกของท่านเป็นอย่างไร ท่านมีข้อความอะไรฝากถึงผมและครอบครัวบ้างไหม และบุญที่ผมบวชช่วยงานพระพุทธศาสนาไปถึงท่านหรือไม่ อย่างไรครับคำตอบ... โยมปู่ของลูกเสียชีวิตตอนอายุ 96 ปีเพราะท่านหมดอายุขัยพอดี และภายหลังจากที่ท่านเสียชีวิตไปแล้ว ท่านก็ได้ไปบังเกิดเป็น “เทพบุตรสุดหล่อ” อยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3 ด้วยอาการที่เหมือนกับหลับแล้วตื่นขึ้นท่ามกลางวิมานในทันทีท่านไปบังเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3และทันทีที่ท่านเทพบุตรใหม่หรือโยมปู่ของลูก ได้ลืมตาขึ้นมา ตัวท่านก็เกิดความรู้สึกที่ตื่นเต้นดีใจ และอัศจรรย์ใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวท่านเป็นอย่างมาก ที่ตัวท่านมีความรู้สึกเช่นนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ทิพยสมบัติต่างๆ ที่อยู่รายรอบตัวท่านนั้น ล้วนแล้วแต่สวยสดงดงามเกินกว่าจินตนาการ และเป็นสิ่งที่ตัวท่านไม่เคยได้พบได้เห็นมาก่อนเลยในชีวิต โดยเฉพาะทิพยวิมานของท่านเทพบุตรใหม่นั้น จะมีลักษณะเป็นวิมานเงินประดับด้วยทองและรัตนชาติ ที่มีขนาดใหญ่โตอลังการและวิจิตรตระการตาอย่างที่สุดตัวท่านรู้สึกที่ตื่นเต้นดีใจและอัศจรรย์ใจกับทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบๆ ตัวท่านมากสำหรับสาเหตุที่ทำให้โยมปู่ของลูก ได้มาบังเกิดเป็นเทพบุตรสุดหล่ออยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3 นั้น ทั้งนี้ก็เกิดจากผลแห่งบุญที่ตัวท่าน ได้เคยสั่งสมเอาไว้ในพระพุทธศาสนาในสมัยที่ตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเป็นบุญที่ตัวท่านได้เข้าวัดทำบุญตามประเพณี หรือบุญที่ตัวท่านได้สวดมนต์ทำวัตรเช้า-ทำวัตรเย็น รวมทั้งบุญที่พระลูกชายของท่านหรือพระพ่อของลูก ได้ให้ท่านทำบุญต่างๆ กับหมู่คณะ เป็นต้น กับผลแห่งบุญที่พระลูกชายและพระหลานชายของท่านซึ่งก็คือตัวลูก ได้ตั้งใจบวชสร้างบารมี และทุ่มเทช่วยงานพระพุทธศาสนาอย่างเต็มที่เต็มกำลังสาเหตุที่ทำให้โยมปู่ของลูก ได้มาบังเกิดเป็นเทพบุตรอยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3เมื่อมารวมกับผลแห่งบุญในอดีตชาติ ที่โยมปู่ของลูกได้เคยสั่งสมเอาไว้ในพระพุทธศาสนา เช่น ทำทานและรักษาศีล เป็นต้น ซึ่งยังคงมีกำลังส่งผลอยู่ จึงส่งผลทำให้ตัวท่านได้มาบังเกิดเป็นเทพบุตรสุดหล่ออยู่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เฟส 3 เหมือนอย่างที่เป็นอยู่นี้นั่นเองซึ่งในตอนนี้ ท่านเทพบุตรใหม่หรือโยมปู่ของลูก ก็กำลังเพลิดเพลินกับการตรวจตราดูทิพยสมบัติต่างๆ ของตัวท่านอย่างไม่รู้อิ่มไม่รู้เบื่อ และในทุกๆ ครั้งที่พระลูกชายกับพระหลานชายของท่าน หรือพระพ่อของลูกกับตัวลูก ได้ทำบุญแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่าน ภาพของการสั่งสมบุญของทั้งสองก็จะไปปรากฏฉายให้ตัวท่านได้เห็นอย่างชัดเจนแบบฉากต่อฉาก ฉอตต่อฉอตกันเลยทีเดียวภาพของการสั่งสมบุญของทั้งสองไปปรากฏฉายให้ตัวท่านได้เห็นและเมื่อท่านเทพบุตรใหม่หรือโยมปู่ของลูก ได้เห็นภาพการสั่งสมบุญของพระลูกชายและพระหลานชายของท่าน หรือพระพ่อของลูกและตัวลูกแล้ว ตัวท่านก็จะคอยอนุโมทนาบุญ ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติเบิกบานใจในทุกๆ ครั้ง และด้วยผลแห่งบุญที่พระลูกชายและพระหลานชายของท่าน ได้ตั้งใจทำแล้วก็อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งไปให้กับท่านนี้เอง ก็ได้ส่งผลทำให้กายอันเป็นทิพย์ของท่าน มีความผ่องใสและสว่างไสวมากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม อีกทั้งยังทำให้ทิพยสมบัติของท่าน มีความละเอียดประณีตมากขึ้น และอายุขัยอันเป็นทิพย์ของท่านก็เพิ่มมากขึ้นไปจากเดิมเป็นอย่างมากอีกด้วยตัวท่านจะคอยอนุโมทนาบุญกับพระพ่อและตัวลูก ด้วยความรู้สึกปลื้มปีติใจในทุกๆ ครั้งและในขณะที่ท่านเทพบุตรใหม่หรือโยมปู่ของลูก กำลังเพลิดเพลินกับการตรวจตราดูทิพยสมบัติของท่านอยู่นั้น พระธรรมกายก็ได้เมตตาไปเยี่ยมตัวท่านถึงที่วิมาน เพื่อให้ตัวท่านได้ฝากข้อความมาถึงบุคคลอันเป็นที่รักในเมืองมนุษย์ ทันทีที่ท่านเทพบุตรใหม่ได้เห็นพระธรรมกายเมตตามาเยี่ยมตัวท่านเช่นนั้น ตัวท่านก็ไม่รอช้าได้รีบก้มลงกราบพระธรรมกายด้วยความเคารพนอบน้อมในทันทีพระธรรมกายได้เมตตาไปเยี่ยมตัวท่านถึงที่วิมานจากนั้น ท่านเทพบุตรใหม่หรือโยมปู่ของลูก ก็ได้ฝากสารแห่งความรักและความคิดถึง มาถึงพระลูกชายกับพระหลานชายของท่าน รวมถึงทุกๆ คนในครอบครัวของท่านในทำนองที่ว่า “ในตอนนี้ ตัวท่านมีความสุขสบายมากๆ มากๆ ขอให้ทุกๆ คนไม่ต้องเป็นห่วงท่าน และขอขอบใจทุกๆ คนเป็นอย่างมาก ที่คอยช่วยดูแลตัวท่านเป็นอย่างดี ในตอนที่ตัวท่านยังมีชีวิตอยู่ ในตอนนี้ตัวท่านได้มาเห็นผลแห่งบุญอย่างประจักษ์แจ้งด้วยตาของตัวท่านเองแล้วว่า บุญมีจริง สวรรค์มีจริง และที่สวรรค์แห่งนี้ ก็มีแต่ทิพยสมบัติที่สวยสดงดงาม ใหญ่โตอลังการ และวิจิตรตระการอยู่เต็มไปหมดท่านเทพบุตรใหม่ได้ฝากสารมาถึงทุกๆ คนในครอบครัวของท่านตัวท่านอยากให้พระลูกชายและพระหลานชายของท่าน หรือพระพ่อของลูกและตัวลูก ได้ตั้งใจบวชสร้างบารมีและช่วยงานพระพุทธศาสนาไปจนตลอดชีวิต เพราะตัวท่านได้เห็นแล้วว่า บุญบวชนั้นเป็นบุญใหญ่จริงๆ และด้วยบุญบวชของพระลูกชาย และพระหลานชายของท่านนี้เอง จึงทำให้ตัวท่านได้มีทิพยสมบัติที่สวยสดงดงามมากมายถึงเพียงนี้ท่านอยากให้พระลูกชายและพระหลานชายของท่านบวชไปตลอดชีวิตและเมื่อพระลูกชายกับพระหลานชายได้ทำบุญทุกๆ บุญแล้ว ก็ขอให้อุทิศส่วนบุญส่วนกุศลส่งมาให้กับท่านอีกบ่อยๆ ซึ่งตัวท่านก็จะคอยเฝ้าดู และคอยอนุโมทนาบุญกับพระลูกชายและพระหลานชายของท่าน อยู่ที่สวรรค์แห่งนี้”คำถามข้อที่ 2. ก่อนที่พระพ่อของผมจะมาบวช ท่านทำงานเกี่ยวข้องกับต่างชาติมาโดยตลอด และพอท่านมาบวชที่วัดพระธรรมกาย ท่านก็ได้ไปช่วยงานทางด้านต่างประเทศ ซึ่งผมก็เป็นเช่นนั้นเหมือนกันครับ ทำไมผมกับพระพ่อจึงต้องมาช่วยงานทางด้านนี้ครับคำตอบ... สำหรับสาเหตุที่ทำให้ตัวลูกกับพระพ่อของลูก ได้มารับบุญช่วยงานทางด้านต่างประเทศนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ บุพกรรมที่ตัวลูกกับพระพ่อของลูก ได้เคยสั่งสมมาในอดีตชาติแบบต่างกรรมต่างวาระ โดยอย่างเช่นของตัวลูกนั้น ตัวลูกได้เคยตั้งความปรารถนาเอาไว้ในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ นู้น เรื่องก็มีอยู่ว่าสาเหตุที่ทำให้ตัวลูกกับพระพ่อได้มารับบุญช่วยงานทางด้านต่างประเทศในหลายๆ พุทธันดรก่อนๆ นู้น ซึ่งเป็นช่วงหลังยุคพุทธกาล และพระพุทธศาสนาในยุคนั้น ก็เริ่มที่จะเรียวลงจากเดิมไปมากพอสมควรแล้ว ในภพชาตินั้น ตัวลูกก็ได้มาเกิดเป็น “กุลบุตรสุดหล่อผู้มีความใฝ่ฝันในชีวิต” อยู่ในครอบครัวที่นับถือพระพุทธศาสนาครอบครัวหนึ่ง แต่ก่อนที่ลูกๆ นักเรียนอนุบาลฯ ทุกคนจะได้รับฟังกันต่อไปว่า กุลบุตรสุดหล่อ เขามีความใฝ่ฝันเป็นอะไรบ้างนั้น เรามาศึกษาเรียนรู้ถึงสภาพของสังคมโดยรวมในยุคสมัยนั้นกันสักนิดนึงในหลายๆ พุทธันดรก่อนนู้น ตัวลูกได้มาเกิดเป็นกุลบุตรสุดหล่อผู้มีความใฝ่ฝันในชีวิตสำหรับสภาพสังคมโดยรวมในยุคสมัยนั้น จะเป็นสังคมที่มีระบบการปกครองที่คล้ายๆ กับสภาของนักปราชญ์ หรือคณะบุคคลที่มีความรู้ความสามารถในด้านต่างๆ มารวมกัน โดยภายในสภานักปราชญ์ หรือคณะบุคคลผู้ที่มีความรู้ความสามารถนั้น ก็จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ ด้วยกัน คือกลุ่มที่นับถือพระพุทธศาสนา กับกลุ่มที่นับถือลัทธิความเชื่อแบบเทวนิยม ซึ่งคณะบุคคล 2 กลุ่มนี้ ก็จะมีการผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันขึ้นมาปกครองดูแลบ้านเมืองตามวาระๆ ไปคณะบุคคลที่มีความรู้ความสามารถนั้น แบ่งออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆส่วนว่า คณะบุคคลกลุ่มไหน จะได้ขึ้นมาปกครองดูแลประชาชนภายในแคว้นนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับการโหวตหรือการลงคะแนนเสียง ที่มาจากคนภายในสภานักปราชญ์กันเอง มารวมกับคะแนนเสียงที่มาจากการโหวตของฝ่ายประชาชน ซึ่งถ้าหากคณะบุคคลกลุ่มไหนได้คะแนนเสียงมากกว่า คณะบุคคลกลุ่มนั้น ก็จะได้ขึ้นมาปกครองดูแลประชาชนภายในแคว้นอยู่ช่วงวาระหนึ่ง และเมื่อครบกำหนดวาระแล้ว ก็จะมีการโหวตหรือการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งกันใหม่อีกทีหนึ่งส่วนว่า ระบบการโหวตหรือการลงคะแนนเสียงในยุคสมัยนั้น จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไรนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป
กรณีศึกษา คุณปู่กระจ่าง ใจวงศ์ ตอนที่ 1
[ 3 เม.ย. 2556 ] - [ 18267 ]
Desktop Version
