ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 22 มีนาคม พ.ศ.2554
ว่าที่พระแท้ สว่างแล้วในกลางกาย
ผลการปฏิบัติธรรมของธรรมทายาท หนึ่งแสนรูป รุ่นที่ 3
ว่าที่พระแท้ สว่างแล้วในกลางกาย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
สามวันแรกที่ได้นั่งสมาธิ กระผมเจ็บขามากๆ มันชาจนไม่มีความรู้สึก กระผมก็นึกในใจว่า “หรือจะเป็นเพราะเราอายุมากแล้ว หรือว่าเรามาเจอทางนี้สายเกินไป ทำไมเราไม่มาปฏิบัติตั้งแต่ยังมีแรงอยู่”-แต่กระผมก็อดทน นั่งภาวนาสัมมาอะระหังไปเรื่อยๆ ไม่คิดอะไร พอวันที่สี่ของการอบรม กระผมก็ยังนั่งไปอย่างนั้นเอง คือไม่รู้ ไม่คิด ไม่เห็นอะไร ก็พอดีพระอาจารย์พูดขึ้นมาว่า “ถ้าใครยังมืดตื้ออยู่ มองอะไรไม่เห็น ก็ให้นึกภาพดวงแก้ว องค์พระ เป็นภาพสมมุติขึ้นมาก่อนก็ได้”-แล้วท่านก็สอนเกี่ยวกับฐานทั้งเจ็ดในร่างกาย กระผมก็ค่อยๆทำตาม โดยสมมุติว่า มีองค์พระอยู่ในลูกแก้วน้อยๆ เอาเข้ามาในจมูกด้านขวา ให้ค่อยๆลอยเข้ามาเบาๆช้าๆ ทำแบบคนมีสมาธิ โดยระวังไม่ให้ดวงแก้ว องค์พระ ร่วงหล่น แล้วก็ค่อยๆนึกให้ลอยไปอยู่ที่ขนตาข้างขวา แล้วก็อาราธนาให้ค่อยๆลอยไปที่หว่างคิ้ว
ตอนนั้น กระผมรู้สึกว่าใจมันเงียบมาก มีสมาธิมาก แล้วก็เริ่มรู้สึกสบายๆไปทั้งตัว กระผมนึกให้ท่านลอยวนอยู่ในกระหม่อมของกระผมประมาณสอง-สามรอบ แล้วก็ค่อยๆขยับเบาๆมาที่เพดานปาก พอมาถึงช่วงคอ กระผมก็พิจารณาว่าในช่วงคอของเรามีหลอดอาหาร หลอดลม ในตัวเรามีปอด มีตับ แต่เอ...แล้วทำไม..เราถึงรู้สึกว่าในตัวมันโล่งไปหมด พอกระผมอาราธนาให้ลงไปตรงสะดือ ก็นึกว่าเดี๋ยวเราจะต้องทำเป็นจุดตัดก่อน คือ เอาด้ายมาไขว้กันจากซ้ายไปขวา จากหน้าไปหลัง พอนึกได้ก็อาราธนาท่านให้มาอยู่ตรงจุดตัดพอดี แล้วกระผมก็รู้สึกสบายมาก
กระผมกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับ ไม่รู้ว่ากระผมได้เคยเจอหลวงพ่อมาจากชาติไหนๆหรือเปล่า รู้แต่ว่าชาตินี้ช่างเป็นบุญวาสนาของกระผมที่ได้มาเจอหลวงพ่อ เวลาได้ดูหลวงพ่อสอน เห็นหลวงพ่อยิ้มไปพูดไป กระผมก็รู้สึกมีความสุขกับหลวงพ่อไปด้วย พอได้ฟังเรื่องที่หลวงพ่อเอามาสอน ก็ทำให้กระผมได้ข้อคิดหลายอย่าง โดยเฉพาะเรื่องกฎแห่งกรรม กระผมคิดว่า...ใครที่ใจกระด้าง ถ้าได้มาฟังหลวงพ่อสอน จิตใจคงนุ่มนวลลงอย่างแน่นอนเลยครับ แล้วอีกไม่กี่วันกระผมก็จะเข้าสู่พิธีบรรพชาอุปสมบทแล้ว กระผมจะตั้งใจบวชให้ดีที่สุด จะพยายามรักษาศีล 227-ข้อ ไม่ให้ด่างพร้อย และจะตอบแทนหลวงพ่อด้วยการบวชเป็นพระแท้ให้ได้ตลอดโครงการ แล้วถ้าบุญพาวาสนาส่ง กระผมก็จะบวชไปนานๆครับ
กระผม นาคธรรมทายาท ธนเดช บวรเลิศศักดา อายุ 56-ปี ตัวแทนนาคธรรมทายาทจากศูนย์อบรมธุดงคสถานล้านนา จังหวัดเชียงใหม่ครับ มีอยู่วันหนึ่งกระผมไปเดินเล่นที่ตลาดนัด-ถนนคนเดิน ขณะที่กำลังเดินดูของเพลินๆก็ไปเจอกลุ่มนักศึกษาเอาใบปลิวมาแจกให้ กระผมก็พับใบปลิวใส่กระเป๋าเสื้อไว้ ไม่ได้อ่านไม่ได้สนใจอะไร พอตอนเช้าของอีกวัน เอาใบปลิวมาอ่านดูถึงได้รู้ว่าเป็นโครงการบวชพระแสนรูปครับ กระผมคิดว่า กระผมเป็นชาวพุทธมา 56-ปี แต่ยังไม่ได้ศึกษาพระธรรมคำสอนอย่างจริงๆจังๆเลย กระผมคิดเรื่องบวชอยู่หนึ่งวันกับหนึ่งคืน กระผมว่าถ้าเราอายุยืนร้อยหรือสองร้อยปี เราก็คงจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไปเรื่อยๆ ถ้าเราไม่มีดีอะไรเสียเลย ไม่มีบุญติดตัวเสียบ้าง แล้วชีวิตหลังความตายของเราจะเป็นอย่างไร กระผมจึงตั้งใจมาบวชอย่างเต็มที่ และไปบอกลาลูกชายว่า “พ่อจะไปบวชนะ จะไปปฏิบัติธรรมกับหลวงพ่อวัดพระธรรมกาย สักระยะนะลูก”
นาคธรรมทายาท ธนเดช บวรเลิศศักดา
พอเข้าโครงการมาแล้ว กระผมสลัดความกังวลทางโลกทั้งหมด ไม่โทรศัพท์กลับบ้าน และตั้งใจทำตามที่พระอาจารย์สอนทุกอย่าง โครงการนี้ดีจริงๆนะครับ ทำให้กระผมได้รู้ถึงแก่นแท้ของความเป็นจริงของชีวิต แล้วกระผมก็ภูมิใจมาก รู้สึกว่าตัวเองโชคดีมากๆที่ได้มาอยู่ในโครงการดีๆอย่างนี้ กระผมอยากให้ชายแมนแมนที่ยังไม่เคยบวชในโครงการแบบนี้ จงตัดสินใจมาบวชเถอะครับ อย่าพลาดโอกาสดีๆอย่างนี้เลย ถ้าได้มาสัมผัสด้วยตนเองแล้วจะรู้ว่า ชีวิตที่มีคุณค่าที่สุดของลูกผู้ชายนั้นเป็นอย่างไร มาสมัครตอนนี้ก็ยังทันนะครับ
ภาพวาดประสบการณ์ภายในของนาคธรรมทายาท ธนเดช บวรเลิศศักดา
สักพัก ก็นึกให้ท่านขึ้นมาอยู่ตรงฐานที่เจ็ด กลางท้องเหนือสะดือ กระผมก็เห็นท่านอยู่อย่างนั้น ไม่ถึงกับเห็นชัดมากแต่ก็ไม่รางเลือนจนเกินไป กระผมเห็นท่านเป็นพระแก้ว มีสีขาวๆใสๆ องค์ใหญ่ประมาณสองนิ้ว แต่ไม่เปล่งแสง มีลักษณะคล้ายๆพระธรรมกายบนหิ้งพระ แต่บนเศียรของท่านมีม้วนผมเป็นขดๆ มีลูกแก้วเป็นรูปสามเหลี่ยมอยู่บนเศียรท่านด้วย ท่านนั่งในท่าขัดสมาธิอยู่บนฐานที่ดูคล้ายๆกับกงจักร ตอนแรกกระผมคิดว่าภาพที่กระผมสมมุติขึ้นนี้ จะต้องหายไปถ้ากระผมเลิกนั่ง แต่ที่ไหนได้ครับ พอลืมตาแล้ว...ภาพของท่านก็ยังอยู่ ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ท่านก็ยังอยู่ในกลางท้องของกระผมเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
นาคธรรมทายาท ธนเดช บวรเลิศศักดา
กระผมก็แปลกใจ ไม่รู้ว่ากระผมเป็นอะไรหรือเปล่าครับ เพราะไม่ว่าจะไปเข้าห้องน้ำก็เห็นพระ จะรับบุญก็เห็นพระ จะนอนก็เห็นพระ กระผมเห็นท่านอยู่อย่างนั้นตลอดเวลา ทำให้กระผมก็อยากนั่งแบบท่าน อยากอยู่กับท่าน เพราะมันทำให้กระผมมีแต่ความสบายใจ ไม่มีความกังวลใจ ไม่กลุ้มใจอะไรเลย เกิดมาก็เพิ่งจะเคยรู้สึกอย่างนี้ครับ แล้วไม่ว่าจะทำอะไร กระผมก็หมั่นภาวนาสัมมาอะระหัง แล้วเอาใจไปไว้กับพระครับ
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
นาคธรรมทายาท ธนเดช บวรเลิศศักดา
********************************