อานิสงส์บูชาด้วยดอกสาละ


[ 16 ก.ย. 2554 ] - [ 18287 ] LINE it!

อานิสงส์บูชาด้วยดอกสาละ
 
 
 
     ตราบใดที่มนุษย์ทุกคนยังไม่หมดสิ้นอาสวกิเลส  เสบียงที่ต้องใช้สำหรับในการเดินทางไกลในสังสารวัฏคือบุญกุศลนี้ ยังเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตพวกเราทั้งหลาย  การสั่งสมบุญนั้น ทำได้ในทุกที่ทุกโอกาส ขอเพียงให้เห็นคุณค่าของบุญ แล้วทุ่มเททำอย่างเต็มที่เต็มกำลังความสามารถ  สักวันหนึ่งเมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยม  เราจะถึงเป้าหมายปลายทางได้อย่างถูกต้องและปลอดภัย  ได้เสวยเอกันตบรมสุขที่พระพุทธเจ้าและเหล่าพระอรหันต์ทั้งหลายที่ท่านได้เข้าถึงแล้ว  สำหรับการนั่งสมาธิเจริญภาวนาเป็นประจำ เป็นบุญละเอียดที่ช่วยกลั่นกาย วาจา ใจ ให้สะอาดบริสุทธิ์ เป็นเหตุให้หลุดพ้นจากกิเลสอาสวะทั้งปวง
 
มีวาระบาลีที่ปรากฏอยู่ใน มัญชิฏฐกวิมาน ความว่า
 
                         “ตาหํ กมฺมํ กริตฺวาน    กุสลํ พุทฺธวณฺณิตํ
                          อเปตโสกา สุขิตา     สมฺปโมทามนามยา
 
     เราได้ทำกุศลกรรมที่พระพุทธเจ้าสรรเสริญ จึงสร่างโศก หมดโรค หมดภัย สุขกาย สบายใจ รื่นเริงบันเทิงอยู่เป็นนิตย์”
 
     ผู้มีใจที่เปี่ยมล้นไปด้วยความศรัทธาเลื่อมใส น้อมจิตบูชาต่อพระบรมศาสดาด้วยความเคารพบูชา อันเกิดจากน้ำใสใจจริง พร้อมกับบูชาพระองค์ท่านเป็นประจำ ท่อธารแห่งบุญที่บริสุทธิ์ก็จะบังเกิดขึ้นกับผู้นั้นทันที  เพราะบูชาที่ถูกต้นแหล่งแห่งบุญ เหมือนนำภาชนะไปตักน้ำในสระ อยากตักมาดื่มกินมากเท่าไหร่ ก็ทำได้ตามความปรารถนา  ผลที่เกิดจากการเคารพบูชาพระพุทธเจ้าก็เช่นเดียวกัน คือจะส่งผลให้พบแต่สิ่งที่ดีงาม ชีวิตจะมีแต่ความสงบสุขร่มเย็นทั้งในภพนี้และภพหน้า จะได้เป็นผู้ที่ท่องเที่ยวอยู่ใน ๒ ภพภูมิ คือ มนุษยโลกแล้วก็เทวโลก
 
     การบูชาต่อพระพุทธองค์นี้มีอานุภาพมากอย่างนี้  แม้ว่าผู้นั้นจะละจากโลกไปแล้ว  บุญที่ได้กระทำเอาไว้ก็ยังจะส่งผลอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย มีผลอันน่าอัศจรรย์ ดังเช่นประวัติการสร้างความดีของนางเทพนารีองค์หนึ่ง เมื่อครั้งยังเป็นมนุษย์นั้น ก็เป็นเพียงบุคคลธรรมดาเท่านั้น แต่ด้วยดวงใจที่เลื่อมใสต่อพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้อุดมด้วยลักษณะมหาบุรุษ ๓๒ ประการ เพียงได้เห็นก็เป็นมงคลแก่ดวงตายิ่งนัก
 
     * เหตุการณ์ที่น่าจดจำนี้ เกิดขึ้นเมื่อครั้งที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงประทับอยู่ที่เมืองสาวัตถี ในยุคนั้น มหาชนทั้งหลายมักจะชักชวนกันสั่งสมบุญด้วยการทำทาน รักษาศีลและเจริญสมาธิภาวนากันอย่างเต็มกำลัง ไม่เคยให้โอกาสดีๆ ที่จะได้ทำบุญ กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าผ่านเลยไป และในยุคสมัยนั้น มีอุบาสกผู้ใจบุญอยู่ท่านหนึ่ง ถึงแม้จะยากจนด้วยทรัพย์สินเงินทอง แต่กำลังศรัทธาไม่เคยบกพร่อง เป็นผู้ที่รักบุญมากเป็นชีวิตจิตใจ เมื่อเห็นการสร้างบารมีของนักสร้างบารมีทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐีและมหาอุบาสิกาวิสาขา ก็คิดอยู่ในใจเสมอว่า สักวันหนึ่งเราจะต้องได้ทำบุญใหญ่อย่างนักสร้างบารมีทั้งหลายเหล่านั้นบ้าง จึงได้แต่รอคอยโอกาสเรื่อยมา  แต่ในระหว่างนั้นก็ยังคงสั่งสมบุญอยู่มิได้ขาด
 
     จนกระทั่งเวลาผ่านไป อุบาสกท่านนี้จึงเกิดความคิดขึ้นมาว่า “หากเรารอเวลาให้พร้อมบริบูรณ์เหมือนกับท่านอนาถปิณฑิกเศรษฐีและมหาอุบาสิกาวิสาขาแล้ว ในภพชาตินี้ไม่ทราบว่า เมื่อไหร่จึงจะมีความพร้อมกับเขา  เอาเถิด เราจะทำตัวของเราให้พร้อมดีกว่า”  เมื่อคิดได้อย่างนี้ก็ไม่รอช้า จึงคิดจะเอาบุญใหญ่ให้เต็มที่ ใจของอุบาสกท่านนี้จดจ่ออยู่กับการสร้างบุญตลอดเวลา จึงได้นิมนต์พระผู้มีพระภาคเจ้า แล้วก็สร้างมณฑปสำหรับเป็นที่ถวายทาน หลังจากที่สร้างเสร็จแล้ว แม้จะเป็นมณฑปที่ไม่หรูหราอลังการ แต่หัวใจของผู้ให้กลับปีติเบิกบานอย่างยิ่ง ได้ทำการบูชาสักการะและถวายทานในมณฑปที่ลงแรงสร้างขึ้นมาด้วยน้ำพักน้ำแรง
 
     ในสมัยนั้น มีหญิงรับใช้ในตระกูลหนึ่ง เห็นต้นสาละในสวนอันธวันออกดอกบานสะพรั่ง จึงเก็บดอกสาละในสวนนั้นมา เอาเถาไม้ร้อยเป็นพวงมาลัย
เลือกเก็บเอาเฉพาะดอกที่ขาวราวมุกดาและก็ดอกที่งดงามเป็นอันมาก ถือเข้ามาในพระนคร ในระหว่างทางที่นางเดินเข้าพระนครนั้น ได้ผ่านมาทางมณฑปที่อุบาสกท่านนั้นได้สร้าง แล้วกำลังทำบุญกับพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่พอดี  เนื่องจากเป็นหญิงรับใช้ ตลอดเส้นทางที่เดินผ่านมา ได้แต่ก้มหน้าก้มตาเดินอย่างเดียว
 
     จนมาถึงบริเวณนั้น พอได้เห็นฉัพพรรณรังสีของพระผู้มีพระภาคเจ้า ผู้ประทับนั่งเหนืออาสนะที่อุบาสกตกแต่งไว้อย่างดี มองเห็นฉัพพรรณรังสีที่สวยงามเปล่งออกจากพระวรกาย เห็นพระผู้มีพระภาคเจ้าเหมือนดวงอาทิตย์ทอแสงอ่อนๆ อันจับต้องเทือกเขายุคันธรอยู่ฉะนั้น ทำให้นางเกิดความปีติเลื่อมใสเป็นกำลัง ในใจของนางก็นึกอนุโมทนาบุญกับอุบาสกว่า ช่างเป็นบุญลาภของอุบาสกนี้หนอ ที่ได้มีโอกาสสร้างบุญกับพระผู้มีพระภาคเจ้า และได้ทำอย่างเต็มกำลังของตัวเอง
 
     เมื่อคิดถึงตรงนี้นางก็ฉุกคิดได้ว่า แม้การที่เราเดินมาพบกับเหตุการณ์อัศจรรย์อันสุดแสนจะปีติประทับใจอย่างนี้ ก็นับเป็นบุญลาภของเราเหมือนกัน แม้ในมือของเราก็มีดอกไม้อย่างดีและสวยงาม ถึงแม้เราจะไม่มีไทยธรรมดังเช่นอุบาสก แต่เราก็จะไม่ปล่อยให้โอกาสดีๆ อย่างนี้ผ่านเลยไป เมื่อคิดอย่างนี้ ก็ไม่รอช้า ได้เอาดอกไม้ทั้งหมดที่ตนเองอุตส่าห์หอบหิ้วมาตั้งไกล น้อมบูชาพระบรมศาสดา นางได้วางพวงมาลัยไว้รอบพุทธอาสน์ แล้วก็โปรยดอกไม้ที่เหลือบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความปิติยิ่ง จากนั้นก็ได้เวียนประทักษิณสามรอบแล้วเดินจากไป  
 
     อามิสบูชาที่นางได้ทำบุญกับพระผู้มีพระภาคเจ้าในครั้งนั้น ประทับอยู่ในใจของนางตลอดเวลา เนื่องจากเป็นสาวใช้ จึงไม่ได้โอกาสไปนมัสการหรือฟังธรรมจากพระพุทธองค์ ถึงแม้นางจะได้โอกาสเพียงครั้งเดียว ก็จำเรื่องราวที่ดีงามเหล่านั้นได้ไม่เคยลืมเลือน จนกระทั่งละจากโลกนี้ไป ด้วยผลแห่งบุญที่ทำในครั้งนั้น ส่งผลให้นางไปบังเกิดในภพดาวดึงส์ มีมหาสมบัติทิพย์ที่น่าอัศจรรย์ก็คือ มหาวิมานของนางนั้น เป็นวิมานแก้วผลึกแดง  ที่มีรัศมีรุ่งเรืองสว่างไสว  ข้างหน้าวิมานนั้นมีต้นสาละทิพย์ที่ใหญ่มาก พื้นที่ของสวนก็ลาดด้วยทรายทอง เวลาที่นางออกจากมหาวิมานแก้วผลึกแดง ต้นสาละนั้นจะพร้อมใจกันโน้มกิ่งลงมา แล้วก็จะโปรยดอกสาละทิพย์ต้อนรับ ยังความอัศจรรย์ใจให้บังเกิดขึ้นกับเหล่าเทวดาทั้งหลาย สมบัติทิพย์ของนางก็รุ่งเรืองตระการตา ดึงดูดสายตาของผู้ได้พบเห็น
 
     จนกระทั่งวันหนึ่ง พระมหาโมคคัลลานะ อริยสาวกเบื้องซ้าย จาริกผ่านไปพบกับมหาสมบัติและรัศมีอันรุ่งเรืองอย่างนั้น จึงเอ่ยถามว่า
 
     “ดูก่อนเทพธิดา ท่านรื่นรมย์อยู่ในวิมานแก้วผลึก มีพื้นดารดาษไปด้วยทรายทอง มีเสียงกึกก้องด้วยทิพยดุริยางค์อันไพเราะ เมื่อลงจากวิมานก็ยังมีต้นสาละทิพย์คอยต้อนรับและส่งกลิ่นทิพย์ที่หอมอบอวล ดูก่อนเทพนารีผู้มีบุญมาก เมื่อครั้งเป็นมนุษย์ได้สร้างบุญพิเศษอะไรเอาไว้”
 
     เทพนารีนั้น ครั้นถูกพระเถระถามจึงกราบเรียนว่า “พระคุณเจ้าที่เคารพ เมื่อครั้งที่เป็นมนุษย์ ดิฉันเป็นเพียงหญิงรับใช้อาศัยอยู่ในตระกูลเจ้านาย แทบไม่มีโอกาสได้สร้างบุญกุศลอย่างอื่นเลย เพียงแค่มีจิตเลื่อมใสในพระผู้มีพระภาคเจ้า ในมือมีเพียงดอกไม้สาละจึงได้บูชาพระพุทธองค์ ดิฉันได้สมบัติทิพย์ที่น่าอัศจรรย์ก็ด้วยบุญนั้น เจ้าค่ะ”  
 
     เราจะเห็นว่า การสร้างโอกาสให้กับตัวเองในการสร้างบารมีนั้นจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เหมือนเทพนารีท่านนี้ แม้ว่าตนเองจะไม่มีสิ่งของที่ลํ้าค่าอยู่ในมือ แต่พอได้โอกาสทองของชีวิตก็รีบไขว่คว้าไว้ด้วยการสักการบูชาพระพุทธองค์ด้วยดอกไม้ที่มีอยู่เท่านั้น พวกเราทุกคนมีโอกาสสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง ยิ่งกว่าเทพนารีท่านนี้มากมายหลายเท่า เมื่อคิดจะสั่งสมบุญแล้ว ก็ไม่ควรนำปัญหาและอุปสรรคมาเป็นเหตุให้เราคลาดจากบุญไป ต้องเป็นผู้พร้อมเสมอต่อการสร้างบุญบารมีในทุกรูปแบบ แล้วเราจะได้เป็นต้นแบบที่ดีงามของนักสร้างบารมีรุ่นหลังๆ ที่จะตามมาด้วยการรู้จักคิดพิจารณา ทำความพร้อมให้เกิดขึ้นในใจ แล้วเร่งขวนขวายตักตวงบุญกันอย่างเต็มที่ เต็มกำลังให้ยิ่งๆ ขึ้นไปเถิด

พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 
* มก. เล่ม ๔๘ หน้า ๓๓๑
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
อานิสงส์บูชาด้วยดอกอุบลอานิสงส์บูชาด้วยดอกอุบล

อานิสงส์บูชาด้วยดอกมะลิ ๗ ดอกอานิสงส์บูชาด้วยดอกมะลิ ๗ ดอก

อานิสงส์บูชาด้วยดอกมะลิอานิสงส์บูชาด้วยดอกมะลิ



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ธรรมะเพื่อประชาชน