ลูกคลื่นกระแทกบ้าน วิบากกรรมคนกรุง

 

 

ลูกคลื่นกระแทกบ้าน วิบากกรรมคนกรุง

ข่าวน้ำท่วม

 

 

น้ำท่วมนอกจากจะสร้างความเสียหายให้กับตึกรามบ้านช่องของประชาชนในเขตประสบภัยพิบัติแล้ว รถบางคันที่ขาดจิิตสำนึกในการอยู่ร่วมกันของสังคมเมือง ยังวิ่งฝ่าน้ำท่วมสูงด้วยความเร็วที่มากกว่าปกติจากการขาดความรู้ความเข้าใจ ในการขับรถฝ่าน้ำท่วม แล้วก่อให้เกิดคลื่นน้ำขนาดใหญ่เข้ากระแทกกระจก ประตู รั้วบ้านจนเสียหายอย่างหนัก...

ระดับน้ำที่เริ่มลดลงในบางพื้นที่ของกรุงเทพมหานคร กลับสร้างปัญหาเดิมๆ ให้กับคนกรุง หลังจากน้ำเหนือที่เคยไหลบ่าท่วมสูง พอเริ่มลดลงและทำให้รถปิกอัพยกสูงและรถบรรทุกขนาดใหญ่เริ่มกลับมาวิ่งได้ในบางพื้นที่ รถเหล่านี้บางคันก่อปัญหาที่เคยเกิดขึ้นเมื่อเกือบสามอาทิตย์ที่ผ่านมาให้กลับมาเหมือนเดิม เจ้าของรถปิกอัพยกสูงบางคนที่กล้าขับฝ่าระดับน้ำท่วมขัง ที่มีความลึกกว่า 30-50 เซนติเมตร ด้วยความกลัวว่ารถจะดับ ทั้งๆ ที่ติดตั้งท่อกรองอากาศและท่อระบายไอเสียให้สูงมากขึ้นสำหรับลุยน้ำลึก คนขับรถเหล่านั้นทำการเร่งเครื่องยนต์และวิ่งฝ่าน้ำท่วมสูงที่ระดับความเร็วมากกว่าปกติ ด้วยความกลัวว่ารถจะดับและอยากไปให้พ้นจากพื้นที่นั้นโดยเร็ว จนเกิดลูกคลื่นขนาดใหญ่จาก

 

การดันน้ำบริเวณด้านหน้าของตัวรถ แล้วพุ่งเข้าไปกระแทกประตูเหล็ก บานพับ ประตูม้วน รวมถึงกระจกของร้านค้าที่ตั้งอยู่สองข้างริมถนน จนเกิดความเสียหายอย่างร้ายแรง ต่อทั้งประตูเหล็กม้วน รั้วสังกะสี กำแพงบ้าน กระจกหน้าร้าน รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ภายในร้าน ที่แตกหักเสียหาย ล้มระเนระนาดจากลูกคลื่นขนาดใหญ่ ที่กวาดพัดทุกสิ่งอย่างรุนแรง สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะที่น้ำกำลังลดลงนี้ กำลังสร้างความเดือดร้อนอย่างแสนสาหัส ซ้ำเติมบ้านเรือนของประชาชนที่เสียหายจากน้ำท่วมอยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีกระดับ จนก่อให้เกิดปัญหาใหม่ที่ยากจะแก้ไข จากการขาดจิตสำนึกในการใช้ถนนหนทางในช่วงน้ำท่วม รวมถึงการขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการขับขี่รถยนต์ ท่ามกลางสภาพที่มีน้ำท่วมขังกลับกลายเป็นคมหอกที่เข้ามาทิ่มแทงผู้อยู่อาศัยสองข้างทางจนแทบจะรับไม่ได้

 

รถปิกอัพยกสูงนั้น หากทำการดัดแปลงระบบท่อทางเดินของกรองอากาศที่ด้านหน้าและท่อระบายไอเสียทางด้านหลัง โดยยกให้สูงพ้นน้ำ สามารถวิ่งฝ่าน้ำท่วมได้โดยเครื่องยนต์ไม่ดับ และยังสามารถใช้ความเร็วต่ำ โดยไม่ก่อให้เกิดคลื่นน้ำไปกระแทกประตูบ้านตราบใดที่น้ำไม่ท่วมมิดฝากระโปรง และเข้ามาภายในห้องโดยสาร จนทำให้กล่องควบคุมเครื่องยนต์เปียกชื้นจนหยุดการทำงาน การขับขี่ที่ถูกต้องสำหรับรถปิกอัพเกียร์ธรรมดา คือ ผู้ขับขี่ควรใช้เกียร์หนึ่ง หรือเกียร์สอง แล้วแตะเบรกไปเรื่อยๆ เพื่อรักษาระดับความเร็ว ที่ไม่่ก่อให้เกิดคลื่นมวลน้ำขนาดใหญ่พุ่งเป็นรูปตัววี เข้าไปกระแทกบ้านเรือนร้านค้าสองข้างทาง การขับในลักษณะดังกล่าว นอกจากจะทำให้สามารถฝ่าน้ำท่วมไปได้แล้ว ยังช่วยรักษามารยาทที่ดีในการใช้รถ ท่ามกลางสภาพน้ำท่วมขังที่มีความสูง ซึ่งจะช่วยลดเสียงก่นด่าจากชาวบ้านสองข้างทางได้เป็นอย่างดี ความเร็วที่ต่ำยังช่วยลดน้ำปริมาณมากๆ ที่จะแทรกตัวผ่านเข้ามาภายในห้องเครื่องยนต์ได้อีกด้วย

 

ปิดระบบปรับอากาศ เปิดกระจก ใช้ความเร็วให้ต่ำมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยให้ตัวรถเคลื่อนที่ไปอย่างสม่ำเสมอและรักษาระดับความเร็วให้คงที่และอยู่ในระดับต่ำมากที่สุด โดยไม่ก่อให้เกิดคลื่นขนาดใหญ่โดยใช้เกียร์ต่ำและแตะเบรกชะลอความเร็ว หากเกิดคลื่นที่ด้านหน้าของฝากระโปรงหน้า ควรมีน้ำใจช่วยลดความเร็วของตัวรถลงทันที หากพบเจอคนเดินเท้า เรือลำเล็กๆ ที่แล่นผ่านมา หรือเจอรถคันเล็กกว่าวิ่งสวนทางมา นอกจากผู้ขับจะได้รับเสียงชมเชยว่าขับรถเป็นแล้ว ยังได้ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนร่วมชาติที่กำลังได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ไม่เป็นการซ้ำเติมสถานการณ์ที่ยากลำบากอยู่แล้วให้หนักขึ้นไปอีก สิ่งที่จะตามมาหลังจากนั้นคือ คุณจะสามารถไปถึงยังจุดหมายได้ โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทั้งตัวรถและข้าวของสองข้างทาง และอาจได้รับคำชมเชยจากความมีน้ำใจในระหว่างการขับขี่ผ่านพื้นที่ที่มีน้ำท่วม สิ่งง่ายๆ เหล่านี้จะช่วยทำให้การเดินทางไปที่ต่างๆที่ยังคงมีน้ำท่วมสูง เต็มไปด้วยความน่าอภิรมย์อย่างแน่นอน.