กำจัดเชื้อราหลังน้ำลด


[ 26 พ.ย. 2554 ] - [ 18272 ] LINE it!

 
 
จะทำยังไงเมื่อ น้ำลด ราผุด
 
 
 
พนังบ้านที่มีเชื้อราเป็นเหตุการณ์ที่ผู้ประสบอุทกภัยเจอแทบทุกราย เนื่องจากความชื้นทำให้ผนังบ้าน ฝ้าเพดาน และเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ เกิดคราบเชื้อราเป็นบริเวณกว้าง แพทย์แนะนำให้ประชาชนรีบทำความสะอาดภายใน 2 วันหลังน้ำลด โดยจะต้องป้องกันร่างกายอย่างชิดชิด
 
 
"น้ำลด ราผุด" เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบนผนังทุกบ้านที่ประสบน้ำท่วม  ประชาชนจึงต้องรีบทำความสะอาดภายใน 2 วัน เพื่อไม่ให้เชื้อราขยายวงกว้างจนกลายเป็นแหล่งแพร่เชื้อโรค
 
แพทย์แนะนำว่า ขั้นตอนแรกจะต้องเปิดประตู หน้าต่าง ให้อากาศไหลเวียนก่อนทำความสะอาด 30 นาที จากนั้นสวมใส่อุปกรณ์ป้องกัน เพื่อไม่ให้เชื้อราและน้ำที่ท่วมขังสัมผัสร่างกาย และไม่ควรทำความสะอาดบ้านติดต่อกันเกิน 8 ชั่วโมง
 
หากประชาชนไม่สามารถหาอุปกรณ์ตามมาตรฐานได้ แพทย์แนะนำว่า เพียงแค่นำผ้ามาปิดปากและจมูก ใส่แว่นตาครอบ สวมหมวกผ้าหรือหมวกอาบน้ำ สวมถุงมือยาง และใส่รองเท้าบูท ก็เพียงพอแล้ว
 
การทำความสะอาดบริเวณที่เกิดเชื้อรา สามารถเลือกใช้สารเคมีได้หลายชนิด ระดับอ่อน เช่น น้ำส้มสายชู , Tea Tree Oil หรือ น้ำมันสกัดจากต้นชาออสซี่ และสารสกัดจากเมล็ดองุ่น ส่วนระดับเข้มข้น  เช่น แอลกอฮอล์, โซเดี่ยมไฮเปอร์คลอไรด์ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ที่มีฤทธิ์ฆ่าเชื้อราตามร้านค้าทั่วไป 
 
หลังทำความสะอาดเสร็จแล้ว ควรนำสิ่งของที่มีเชื้อราไปตากแดด หรือใช้ความร้อนจากไฟสปอร์ตไลท์ส่องให้แห้ง แต่หากของเหล่านั้นประกอบด้วยวัสดุที่มีรูพรุน เช่น ฟองน้ำ, กระดาษ หรือไม้เนื้ออ่อน ควรนำไปทิ้งหรือเผาทำลาย เพราะสปอร์ของเชื้อราจะยังฝังอยู่ในรูพรุน ไม่สามารถทำความสะอาดให้หมดได้
 
เมื่อทำความสะอาดบ้านเสร็จแล้ว จะต้องทำความสะอาดร่างกายทุกส่วน ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของยาฆ่าเชื้อโรค แต่หากเกิดอาการแพ้จะต้องรีบพบแพทย์ทันที
 
 
 
จัดการกับเชื้อราที่นำมาซึ่งอันตรายและเชื้อโรคอย่างหมดจดและถูกวิธีค่ะ
 
 
1. เมื่อเกิดเชื้อราขึ้นกับวัสดุที่เป็นพื้นแข็ง ให้ใช้น้ำสบู่ แอลกอฮอล์ หรือน้ำยาขัดห้องน้ำล้าง และขัดให้ด้วยแปรงชนิดแข็งจนเชื้อราออกจนหมดจด จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหลาย ๆ รอบจนกว่าจะแน่ใจว่าสะอาด
 
2. วัสดุที่เป็นเนื้ออ่อน เช่น หนังสือ กระดาษมัน พลาสติก กล่อง ให้ใช้สำลีชุบฟอร์มาลีนเช็ด แล้วตามด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด จากนั้นนำไปวางไว้ในที่ที่อากาศถ่ายเท และมีแสงแดดส่องถึงเล็กน้อย แล้วปล่อยให้แห้ง

3. พรม ฝ้า หรือที่นอน หากมีเชื้อราขึ้น ให้โยนทิ้งจะปลอดภัยที่สุด เพราะวัสดุที่มีรูอย่างพรม ฝ้า และที่นอนนี้ เป็นวัสดุที่ล้างเชื้อราออกได้ยากมาก และแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่จะสามารถล้างออกได้หมดจด 100% ซึ่งถ้าหากยังดันทุรังใช้ต่อไป ความชื้นในห้องก็อาจจะทำให้เชื้อราลุกลาม ฟักตัวได้กว้างขึ้น ทำให้เกิดโรคและเป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจของผู้อยู่อาศัยไม่รู้ตัว ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่คุ้มกันเลยล่ะ
 
4. อย่าทาสีหรือแลคเกอร์ทับในบริเวณที่เกิดเชื้อรา ให้ล้างออกให้สะอาดหมดจดก่อน จากนั้นค่อยเริ่มทาสีหรือแลคเกอร์
 
5. กรณีที่เชื้อราผุดให้เห็นในข้าวของเครื่องใช้ประเภทเครื่องหนัง ให้ใช้น้ำส้มสายชูเช็ดหลายๆ ครั้ง จนแน่ใจว่าสะอาด จากนั้นเช็ดครั้งสุดท้ายด้วยน้ำสะอาด น้ำส้มสายชูจะช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี
 
6. เฟอร์นิเจอร์ หรือของใช้ที่เป็นไม้เนื้ออ่อน โดยปกติวัสดุเหล่านี้จะเสี่ยงต่อการขึ้นราเมื่อมีความชื้นอยู่แล้ว ซึ่งมันจะไม่เป็นอะไรมากนักหากนำมาล้างทำความสะอาดภายใน 24-48 ชั่วโมงที่พบเชื้อ หรือเริ่มสังเกตเป็นดอกเป็นดวงขึ้น แต่ในกรณีที่น้ำท่วมแล้วปล่อยบ้านไว้นานเป็นเดือน ๆ ขอแนะนำให้ทิ้งข้าวของเครื่องใช้ที่ทำด้วยไม้เนื้ออ่อนเหล่านั้นไปอย่างไม่ต้องเสียดาย เพราะอาจจะฟักตัวเป็นเชื้อราที่อันตรายมากขึ้นได้
 
7. ย้ายเฟอร์นิเจอร์ หรือเครื่องใช้ที่มีราขึ้น (และตอนนี้ได้ทำความสะอาดแล้ว) ไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก หรือที่แสงแดดส่องถึงสักระยะหนึ่ง คือประมาณ 1-2 สัปดาห์ แล้วหมั่นคอยตรวจสอบว่า หลังจากทำความสะอาดแล้วยังมีเชื้อราขึ้นอยู่อีกหรือไม่ หากไม่มีก็แสดงว่าสามารถแน่ใจแล้วว่าเราได้ทำความสะอาดเชื้อราออกไปได้อย่างหมดจดแล้วจริงๆ แต่หากยังพบร่องรอยของเชื้อรา ขอให้นำมาทำความสะอาดใหม่ เพราะมันจะลามได้ง่ายมากถ้าหากวันหนึ่งอากาศชื้นอีกครั้ง

8. วอลเปเปอร์ ใช้กรดซาลิไซลิด ผสมกับแอลกอฮอล์ในอัตราส่วน 1:5 จากนั้นนำผ้ามาชุบไปเช็ดวอลเปเปอร์ซ้ำๆ ประมาณ 2 รอบ แต่ถ้าหากว่ามีเชื้อราอยู่มาก แนะนำให้รื้อทิ้งแล้วเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่จะดีกว่า
 
9. เสื้อผ้า ผ้าม่าน และผ้าห่ม หากพบเชื้อรา สามารถฆ่าเชื้อเบื้องต้นได้โดยใช้น้ำร้อน จากนั้นขยี้แล้วซักให้สะอาดหลายๆ ครั้ง และตากในที่ที่มีแสงแดดเท่านั้น เพื่อเป็นการฆ่าเชื้ออีกที
 
10. งดกิจกรรมที่จะก่อให้เกิดความชื้นภายในบ้าน หากตัวบ้านเพิ่งมีราขึ้นและได้รับการทำความสะอาดไปใหม่ๆ ไม่ควรต้มน้ำ ซักผ้า ตากผ้า เปิดเครื่องปรับอากาศเย็นจัด แต่ควรเปิดให้อากาศภายนอกได้ระบายเข้ามาบ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวันแดดจัด แม้ว่าจะทำให้คุณร้อนอบอ้าวไปบ้าง แต่แสงแดดจะช่วยฆ่าเชื้อราได้ดีเลยทีเดียว
 

 

 
 
น้ำลด ราผุด


 

 
 
สนับสนุนเนื้อหา


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
มูลนิธิธรรมกาย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.สกลนครมูลนิธิธรรมกาย ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.สกลนคร

วัดพระธรรมกาย มอบถุงยังชีพ 300 ชุด ช่วยภัยน้ำท่วม อ.โพนนาแก้ววัดพระธรรมกาย มอบถุงยังชีพ 300 ชุด ช่วยภัยน้ำท่วม อ.โพนนาแก้ว

มูลนิธิธรรมกายจัดเตรียมถุงยังชีพ 2,000 ชุด ช่วยน้ำท่วม จ.นครพนมมูลนิธิธรรมกายจัดเตรียมถุงยังชีพ 2,000 ชุด ช่วยน้ำท่วม จ.นครพนม



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ข่าวน้ำท่วม