จะทำอย่างไรเมื่อโดนเพื่อนบ้านเอาเปรียบ


[ 30 มี.ค. 2555 ] - [ 18268 ] LINE it!

หลวงพ่อตอบปัญหา
 
 
โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
เรียบเรียงจากรายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC
 
 

คำถาม: เพื่อนบ้านบางคนชอบเอาเปรียบ เช่น กวาดขยะมาทิ้งหน้าบ้านเราทุกวัน จะทำอย่างไรดีคะ?

 
คำตอบ: ที่เขากวาดขยะมาใส่บ้านเราทุกวัน เพราะเราเคยไปทำแบบนั้นกับเขาก่อนหรือเปล่า ถ้าเราไม่ได้ทำอย่างนั้น แต่เขายังมาทำกับเรา เราก็หาถังอะไรมาวางตรงที่ทิ้งขยะของเขาและของเรา อย่าเพิ่งไปทำอะไร หรืออย่าเพิ่งพูดอะไรมาก เริ่มทำตัวให้เขาทั้งรักทั้งเกรงเสียก่อน แล้วจึงค่อยไปพูดขอร้องกัน
 
        ถ้าเราไปทำ จะให้เขาเกรงโดยไม่ต้องรัก เราก็เป็นอันธพาลประจำซอย เดี๋ยวก็ได้เรื่อง เขาอาจไม่กล้าเอาขยะมาทิ้งอีก แต่อย่าเลย ลูก..อย่าเป็นพาลเสียเอง เพราะมันแค่ทำให้เขาเกรงกลัว จะเป็นการเพาะศัตรูเพาะเวรภัยในภายหลัง
 
ปัญหาเพื่อนบ้าน
ปัญหาเพื่อนบ้าน
 
        ทำให้เขารัก ดีกว่าทำให้เขาเกลียดกลัว การทำตัวให้น่ารักอาจจะเสียเวลาบ้าง แต่อดทนเถอะ ทนไปสักพัก พอชนะได้ครั้งหนึ่งแล้ว จะชนะได้ตลอด แล้วจากที่ชาวบ้านเรียกเราว่า “นายนั่น นายนี่” นักเลงโตประจำซอย ก็อาจเปลี่ยนเป็น “คุณพ่อ คุณแม่” ประจำซอยไปก็ได้ ซึ่งก็เป็นด้วยความที่เรามีคุณธรรม โดยเฉพาะมีขันติ อดทนต่อความไม่เข้าท่าเข้าทางของเพื่อนบ้านได้
 
        เพื่อนบ้านนั้นหากผูกมิตรไว้ดีแล้ว เขาจะเป็นเสมือนญาติสนิทที่คอยเอื้ออาทร คอยปกป้องภัยอันตรายให้เรา รั้วน้ำใจนั้นดีกว่ารั้วเหล็กหลายเท่า เราควรทำให้บุคคลที่อยู่รอบบ้านเป็นเพื่อนของเรา อย่าให้เขาเป็น “คนอื่น” สำหรับเรา เพราะมิฉะนั้นเราก็จะเป็น “คนอื่น” สำหรับเขาเหมือนกัน
 

คำถาม: พ่อแม่ควรปลีกเวลาอยู่กับลูกตอนไหนอย่างไรครับ?

 
คำตอบ: พ่อแม่ ควรจะทราบก่อนว่าธรรมชาติของเด็กที่เด่นๆ มี 2 ประการ คือ
 
        ประการแรก เด็กเป็นเสมือนผ้าขาวสะอาด เด็กต้องการตัวอย่างหรือต้นแบบในการคิด การพูดและการกระทำ สิ่งใดมาถึงก่อนเด็กจะรับสิ่งนั้นไว้เป็นแบบอย่าง ดังนั้นถ้าเด็กได้รับแต่สิ่งที่ดีก่อน ก็ก็จะมีโอกาสทำความดีให้ยิ่งๆ ขึ้นไป และมีฐานกำลังความดีไว้ต่อต้านความชั่วที่เข้ามาภายหลัง ทำให้เอาตัวรอดได้ง่าย
 
        ประการที่สอง เมื่อเด็กทำอะไรผิด ในระยะ 2-3 ครั้งแรก เด็กจะมีพิรุธให้เห็นได้ชัด ทำให้เราหาทางแก้ไขได้ทันท่วงที ถ้าผู้ใหญ่ไม่รู้ หรือปล่อยปละละเลย เด็กก็จะเกิดความเคยชิน ทำผิดเป็นนิสัย โดยไม่มีพิรุธให้ผู้ใหญ่จับได้ ทำให้เสียนิสัยที่ดีงามไปในที่สุด
 
        ในการอบรมเด็ก ผู้ใหญ่จึงควรจะต้องทำในสิ่งต่อไปนี้ คือ
 
        1. พยายามหาโอกาสอยู่ใกล้ชิดเด็กให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ เช่น ทุกๆ วัน ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะมีงานยุ่งอย่างไรก็ตาม ต้องหาเวลามารับประทานอาหารร่วมกับลูกทุกคนอย่างน้อย 1 มื้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมื้อเย็น เพื่อว่าถ้าลูกทำอะไรถูกต้องดีงาม ก็จะได้ชมเชย ให้เกิดกำลังใจ ถ้าลูกทำผิดพลาด จะได้ว่ากล่าวตักเตือนแนะนำสั่งสอนหรือถ้าผิดร้ายแรง ก็ลงโทษกันได้อย่างทันทีทันควัน และที่สำคัญก็คือ จะได้มีโอกาสอบรมคุณธรรมให้ลูก
 
        2. ก่อนนอนทุกคืน ควรจะได้มีเวลานำลูกๆ สวดมนต์ไหว้พระ ทั้งพ่อทั้งแม่หรืออย่างน้อยคนใดคนหนึ่ง เพื่อที่จะปลูกฝังให้ลูกคุ้นเคยกับพระศาสนา และเมื่อลูกสวดมนต์เสร็จแล้ว ควรสอนให้ลูกได้ทำใจสงบสักครู่เพื่อแผ่เมตตา ขณะเดียวกันควรสอนให้ลูกรู้จักสำรวจตัวเองทุกวันก่อนนอน จะได้เป็นคนดีมีเหตุผล มีที่พึ่งทางใจ
 
        3. ทุกสัปดาห์โดยเฉพาะวันหยุด ควรหาเวลาให้ลูกๆ ทุกคนได้ร่วมกิจกรรมในบ้าน เช่น ตัดหญ้ากวาดบ้าน หรือเข้าครัวเพื่อให้ลูกรู้จักการรับผิดชอบต่อครอบครัว รู้จักรักใคร่กลมเกลียวสามัคคีกันยิ่งกว่านั้นจะต้องให้ลูกรู้จักการเข้าวัด ทำบุญตักบาตร นอกเหนือจากการตักบาตรหน้าบ้านทุกวันด้วย จะได้คุ้นเคยกับการสะสมบุญกุศลเป็นที่พึ่งแก่ชีวิต
 
พ่อแม่ต้องรู้จักปลีกเวลาให้ลูกอยู่เสมอ
พ่อแม่ต้องรู้จักปลีกเวลาให้ลูกอยู่เสมอ
 
        สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรระมัดระวังอย่างมาก คือ เมื่อรู้สึกว่าอารมณ์ไม่ดี จิตใจวุ่นวาย จนเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ควรรีบหลีกห่างออกจากลูก ไปทำความสงบใจในห้องพระ หรือไปหามุมสงบตามวัดวาอาราม เพื่อสงบสติอารมณ์ อย่าได้แสดงอาการเจ้าอารมณ์ให้ลูกเห็นเด็ดขาด
 
        เมื่อพ่อแม่รู้จักปลีกเวลาให้ลูกอย่างนี้ ก็เป็นหลักประกันได้ว่า ลูกจะมีพื้นฐานความประพฤติที่ดีงามตั้งแต่เล็ก พร้อมที่จะรองรับคุณธรรมความดีได้ทุกประเภท เพราะความใกล้ชิดที่พ่อแม่ทุ่มเทให้ลูกแม้เพียงวันละเล็กละน้อย จะกลายเป็นความเชื่อมั่น ความมั่นใจของลูกในการที่จะยืนหยัดต่อสู้โลกต่อไป
 
        ส่วนคุณพ่อคุณแม่เอง เมื่อทำอย่างนี้แล้วก็มั่นใจได้ว่า เมื่อลูกๆ เติบโตแล้ว เขาจะเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีอนาคตสดใสเป็นกำลังที่เข้มแข็งของชาติในอนาคตข้างหน้า
 
คำถาม: ไม่ชอบขี้หน้าสามีที่บ้าน ฉะนั้นเวลาทำบุญจึงอธิษฐานว่าเกิดอีกกี่ชาติๆ ขอให้ห่างกันร้อยโยชน์พันโยชน์ คำอธิษฐานนี้จะเป็นผลหรือไม่ ถ้าไม่เป็นผลต้องทำอย่างไรคะ?
 
คำตอบ: คุณเอ๋ย..อธิษฐานให้ตายก็หนีไม่พ้น จนกว่าคุณจะปฏิบัติธรรมจนเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ แล้วอธิษฐานด้วยธรรมกายภายในของคุณ คือตอนนี้บุญก็ทำเรื่อยไป รักษาศีล 5 ให้ดี ขออนุญาตสามีรักษาศีล 8 บ้างในวันพระ วันอาทิตย์ แล้วอธิษฐานว่าชาติหน้าขอเกิดในพระพุทธศาสนา ขอบวชเสียเลยจะได้ไม่ต้องไปแต่งงานกับใครอีก
 
ทำบุญแล้วก็นั่งสมาธิให้มากๆ
ทำบุญแล้วก็นั่งสมาธิให้มากๆ
 
        ความจริง กรรมดี กรรมชั่ว จะกำหนดชีวิตในภพชาติเบื้องหน้าให้คุณเอง ถ้าคุณไม่ชอบหน้าสามีในชาตินี้ แล้วไปก่อกรรมทำเข็ญผูกกันไว้อีก อธิษฐานอย่างไรก็หนีไม่พ้นหรอก ก้มหน้าก้มตาทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ ทำบุญแล้วก็นั่งสมาธิให้มากๆ ไม่ทันตายจาก คุณเองนั่นแหละจะใจเย็นขึ้น แล้วเลิกรำคาญสามี เลิกนิสัยไม่ชอบขี้หน้าคนโน้นคนนี้ง่ายๆ เสียได้
 
        เรื่องนี้ให้ตายก็หนีไม่พ้น จนกว่าคุณจะตั้งใจนั่งสมาธิจนเข้าถึงธรรมกายในตัวได้ เพราะฉะนั้นอย่าขี้เกียจนั่งสมาธิ ถ้าขี้เกียจเมื่อไรละก็ ความขี้โกรธมันจะเข้ามาแทน ทำให้คุณผูกเวรกับสามีไม่รู้จักจบสิ้น กลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในชาติต่อไปอีก


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
พ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไรพ่อแม่ควรฝึกให้ลูกมีความรับผิดชอบได้อย่างไร

ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่ธรรมะข้อโสรัจจะนี้สามารถช่วยปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้หรือไม่

คุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไรคุณพ่อกินเหล้าเมาอาละวาดทุกวันจะมีวิธีให้ท่านเลิกเหล้าได้อย่างไร



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

หลวงพ่อตอบปัญหา