ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 18 เมษายน พ.ศ.2555
อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
อานุภาพหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
ตอน แม้คนตาย..ยังทำหน้าที่ผู้นำบุญ ก่อนไปสู่เทวโลก
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
ลูก แพทย์หญิงอุดมลักษณ์ มงคล หรือ หมอเป้า แห่งโรงพยาบาลปทุมธานีค่ะ
หลวงพ่อคะลูกมีเรื่องประหลาดสุดๆ อยากกราบเรียนให้หลวงพ่อทราบค่ะ เรื่องนี้ เป็นเรื่องของน้องสาวคนที่ 2 ของลูกที่ชื่อ ทันตแพทย์หญิงเพ็ญนภา คงรัตนานนท์ หรือ หมอปุ้ย ค่ะ ซึ่งลูกว่า เรื่องนี้หมอปุ้ยน่าจะเป็นคนมาเล่าให้หลวงพ่อฟังเองจะดีกว่า แต่เนื่องจากหมอปุ้ยเพิ่งเสียชีวิตไปไม่นาน ลูกก็เลยขอปฏิบัติหน้าที่แทนหมอปุ้ย โดยเขียนจดหมายมาถึงหลวงพ่อแทนค่ะ
แพทย์หญิง อุดมลักษณ์ มงคล หรือ หมอเป้า
หลวงพ่อคะ เดิมทีหมอปุ้ยเป็นคนแอนตี้วัดมากค่ะ แต่หลังจากที่ลูกชวนหมอปุ้ยไปนั่งสมาธิที่พนาวัฒน์ ในปี พ.ศ.2546 หมอปุ้ยก็เปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลยค่ะ คือ รักบุญ กลัวบาป ชอบนั่งสมาธิมาก อีกทั้งยังชอบทำหน้าที่ผู้นำบุญชักชวนคนให้มาทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา และที่สำคัญ ยังทำบุญทุกบุญแบบชนิดทุ่มเทสุดๆ โดยเฉพาะบุญหล่อหลวงปู่วัดปากน้ำ ด้วยทองคำ องค์ที่ 5 ที่มีการหล่อขึ้นในปีพ.ศ. 2551 ซึ่งในช่วงนั้น หมอปุ้ยอะเลิร์ทอยากทำบุญหล่อทองมากแบบสุดๆ คือ อยากทำเป็นกิโลทองเลยค่ะ แต่เนื่องจากตังค์ไม่พอ หมอปุ้ยจึงทำการสำรวจทรัพย์สินจากที่ลับ ที่แจ้ง ที่แห้ง ที่เปียก ก็พบว่า มีคลินิกหมอฟันของหมอปุ้ยเองทั้งหมด 2 แห่ง ซึ่งช่วงนั้น ลำพังหมอปุ้ยคนเดียว ก็ดูแลกิจการไม่ค่อยทั่วถึงหรอกค่ะ ด้วยเหตุนี้ หมอปุ้ยจึงคิดว่า จะขายคลินิก 1 แห่ง เพื่อเอาเงินมาทำบุญหล่อทองดีกว่า แต่หลวงพ่อคะ การขายคลินิก ไม่ได้ขายง่ายเหมือนขายโอเลี้ยงนะคะ เพราะต้องขายให้กับผู้ที่เป็นหมอฟันเท่านั้น ซึ่งคนที่เป็นหมอฟันในโลกนี้ก็ไม่ได้มีมาก แถมหมอฟันที่รวยพอมีเงินซื้อคลินิกได้ ก็ยิ่งมีน้อยคนเข้าไปอีก แต่หมอปุ้ยก็เชื่อมั่นในอานุภาพหลวงปู่ค่ะ ดังนั้นเธอจึงอธิษฐานขอกับหลวงปู่อย่างใจจดใจจ่อว่า ให้เธอขายคลินิกได้ที่ 1.5 M เป็นอัศจรรย์ คืองานนี้หมอปุ้ยยอมขายคลินิกแบบขาดทุน เพราะอยากได้ปัจจัยมาหล่อหลวงปู่มาก และสุดท้ายจับพลัดจับผลูยังไงก็ไม่ทราบ จู่ๆ ก็มีหมอฟันมาขอซื้อคลินิกที่ 1.5 M จริงๆ ทำให้หมอปุ้ยได้เงินมาหล่อทองภายในระยะเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น
ทันตแพทย์หญิง เพ็ญนภา คงรัตนานนท์ หรือ หมอปุ้ย
ด้วยเหตุนี้ จึงทำให้หมอปุ้ยดีใจสุดเหวี่ยงเอาเงินมาหล่อทองหลวงปู่แบบเน็ทๆ ที่ 1.5 M ทันทีอย่างเหลือเชื่อ แต่หลังจากนั้นอีก 2 ปีค่ะ ด้วยวิบากกรรมเก่า ซึ่งก็ไม่มีใครคาดคิด คือ ในช่วงเดือนมีนาคม พ.ศ.2553 หมอปุ้ยตรวจพบว่าตัวเองเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองระยะที่ 2 ซึ่งหมอปุ้ยรู้ดีว่า ยังไงก็ไม่มีทางรักษาหาย อีกทั้งเวลาที่เหลืออยู่บนโลกมนุษย์นี้ก็น้อยเต็มที จึงทำให้หมอปุ้ย เร่งสปีดสร้างบุญทุกบุญ ทำหน้าที่กัลยาณมิตรชวนคนทำบุญต่อเนื่อง จนกระทั่งถึงช่วงที่วัดมีบุญหล่อหลวงปู่องค์ที่ 6 แต่อนิจจา ช่วงนี้หมอปุ้ยไม่มีแรงลุยทำหน้าที่กัลยาณมิตรแล้วค่ะ เพราะอาการหมอปุ้ยเข้าขั้นโคม่า คือ แรงหายใจยังไม่ค่อยจะมีเลย จึงต้องอยู่ห้อง ICU ตั้งแต่ต้นเดือนมีนาคม 2555 ที่ผ่านมา แต่แม้หมอปุ้ยนอนซมขยับตัวไม่ค่อยได้แล้ว หัวใจเธอกลับอะเลิร์ทอยากหล่อทอง อยากทำหน้าที่ผู้นำบุญ และอยากอยู่ให้ถึง 22 เมษายน นี้มาก ด้วยเหตุนี้เองค่ะ ลูกจึงรวบรวมปัจจัยของหมอปุ้ยทั้งหมด รวมถึงปัจจัยที่เพื่อนกัลยาณมิตรฝากทำบุญ และปัจจัยของลูกเองทำบุญหล่อให้หมอปุ้ยจนครบ 5 S แต่อนิจจาวินาทีสุดท้ายบนโลกมนุษย์ของหมอปุ้ยก็มาถึงค่ะ คือ วันที่ 31 มีนาคม 2555 หมอปุ้ยก็จากลูกไปด้วยอาการสงบในห้อง ICU ซึ่งทันทีที่หมอปุ้ยเสียชีวิต ลูกก็รีบยกโทรศัพท์โทรไปหาน้องสาวคนที่ 4 ที่ประเทศนอร์เวย์ คือ น้องแก้วตา ศรีลาไลย์
น้องแก้วตา ศรีลาไลย์ ...น้องสาวคนที่ 4 ที่อยู่นอร์เวย์
โดยบอกว่า ตอนนี้ปุ้ยเสียแล้วนะ ยังไงต้องมางานศพให้ได้ เพราะปุ้ยตายก็มีครั้งเดียว ซึ่งน้องแก้วตาก็รับปาก แต่ในวันเดียวกันนั้นเองค่ะ ขณะที่น้องแก้วตานอนหลับไปที่เก้าอี้โซฟาที่บ้านนอร์เวย์ แก้วตาก็ฝันไปว่า หมอปุ้ยมาหาเธอ และก็บอกว่า พี่ไม่ได้อยากให้แก้วมางานศพพี่นะ เพราะเสียค่าเครื่องบินไปเปล่าๆ แต่พี่อยากให้แก้วทำบุญหล่อทองให้พี่ และพอน้องแก้วตาตื่นขึ้น ก็เกิดอาการเหวอเลยค่ะ คือ เสียใจที่พี่ตายก็เสียใจ งงก็งงค่ะ เพราะไม่รู้ว่าทำไมอยู่ๆ หมอปุ้ยพี่สาวที่ตายไปแล้วมาบอกกับตัวเองแบบนี้ จึงรีบโทรกลับมาหาลูกที่เมืองไทยด้วยความสงสัย และเล่าเรื่องนี้ให้ลูกฟัง ซึ่งเมื่อเป็นดังนั้น ลูกจึงอธิบายให้น้องแก้วตาเข้าใจเพิ่มเติมว่า ตอนนี้เมืองไทยเขามีการทำบุญหล่อทองหลวงปู่องค์ที่ 6 เพราะแก้วตาก็ไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนหน้านี้เลยค่ะ เนื่องจากแก้วตาแต่งงานกับฝรั่งต่างศาสนากัน ก็ไม่ค่อยได้มาทำบุญในพระพุทธศาสนาเท่าไหร่ อีกทั้งยังอยู่นอร์เวย์ไม่ได้เข้าวัด จึงไม่ค่อยรู้เรื่องบุญ อีกทั้งลูกก็ไม่ค่อยได้บอกข่าวบุญอะไรกับแก้วตามากนัก แต่เนื่องจากงานนี้ หมอปุ้ยซึ่งตายไปแล้ว คงยอมไม่ได้ ที่เห็นน้องสาวแท้ๆ ต้องตกบุญ จึงไปบอกบุญเองถึงนอร์เวย์ และเมื่อเป็นดังนี้ น้องแก้วตาจึงทุ่มสุดตัว เอาค่าเครื่องบินทั้งหมดโอนมาเมืองไทยทำบุญหล่อทองไปที่ 1 บาททอง ตามที่หมอปุ้ยไปเข้าฝันบอกบุญค่ะ
หลวงพ่อคะ ลูกว่ากระแสความแรงของการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่ด้วยทองคำ นี่แรงได้ใจดีนะคะ แรงถึงขนาดที่ แม้อดีตมนุษย์ หรือคนที่ตายไปแล้ว ก็อดรนทนไม่ไหว ออกไปทำหน้าที่บอกบุญ และที่สำคัญถ้าเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับตัวลูกเอง ลูกคงไม่อยากจะเชื่อเลยค่ะ
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ความตายไม่มีนิมิตหมายค่ะ ดังนั้นเราจะประมาทไม่ได้ หากเรายังมีสิทธิ์ใช้ลมหายใจ มีสิทธิ์ใช้กายมนุษย์อยู่ หรือยังพอมีเรี่ยวมีแรง ก็ทำบุญ และไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรเถิดค่ะ เพราะเราทำเราก็ได้ เพื่อชีวิตชาติหน้าเราจะได้สมบูรณ์พร้อมขึ้นกว่านี้
สุดท้ายนี้ลูกทำบุญด้วยตัวเอง และทำหน้าที่ชวนคนทำบุญแทนหมอปุ้ย โดยรวบรวมได้เกือบ 4 M แล้วค่ะ เพราะเมื่อหลวงพ่อบอกว่า จะมอบรัตนชาติต้นสมบัติให้เป็นของขวัญ ภายในวันเดียว ลูกชวนเพื่อนๆ ในกลุ่มมหัศจรรย์แห่งบุญ ทำบุญได้เป็น Mๆ เลยค่ะ ซึ่งลูกก็ขอกราบขอบารมีหลวงพ่อให้ลูกทำสำเร็จที่ 5 M และชวนคนใหม่ๆ มาร่วมงานหล่อหลวงปู่ เพื่อมาจับสายศีลเชื่อมสายบุญกับหลวงปู่ให้ได้เยอะๆ นะคะ