ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 21 มกราคม พ.ศ.2556Case Studyโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 10เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาคำถามข้อที่ 4 ในพุทธันดรที่ผ่านมา ลูกสร้างบารมีร่วมกับหมู่คณะมาอย่างไรคะคำตอบ...สำหรับเรื่องราวการสร้างบารมีของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมานั้น ตัวลูกก็ได้ลงมาเกิดสร้างบารมีร่วมกับมหาปูชนียาจารย์และหมู่คณะด้วยเหมือนกัน เรื่องก็มีอยู่ว่า ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็น “กุลธิดาสุดสวยผู้มีจิตใจงดงาม” อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวย ที่อาศัยอยู่ในหัวเมืองแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่จะออกบวช ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกในพุทธันดรที่ผ่านมา ก็เป็นคนๆ เดียวกันกับคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้ด้วย
ในพุทธันดรที่ผ่านมา ตัวลูกได้เกิดเป็นกุลธิดาสุดสวยผู้มีจิตใจงดงาม อยู่ในครอบครัวที่มีฐานะร่ำรวยโดยในภพชาตินั้น ท่านทั้งสองจะเป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูง ที่รับราชการอยู่ในยุคสมัยของพระราชบิดาของพระราชาองค์ที่จะออกบวช นอกจากนี้ท่านทั้งสองยังได้รับมอบหมายจากส่วนกลางให้ดูแลรับผิดชอบ เรื่องการบริหารสถานศึกษา หรือโรงเรียนที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้กับเยาวชน ที่อาศัยอยู่ในแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวชอีกด้วยท่านทั้งสองเป็นข้าราชการพลเรือนระดับสูง ดูแลเรื่องการบริหารสถานศึกษาหรือถ้าหากจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ ก็อาจจะคล้ายๆ กับ “โรงเรียนอนุบาล ประถม และมัธยมที่มีชื่อเสียงโด่งดังของรัฐบาลในยุคสมัยนี้” เพียงแต่ในยุคสมัยนั้น โรงเรียนของรัฐบาลจะไม่ได้มีจำนวนมากมายหลายระดับเหมือนอย่างในยุคสมัยนี้ โดยตั้งแต่วันแรกที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น ได้รับหน้าที่มาบริหารดูแลโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้น ท่านทั้งสองก็ได้ตั้งใจทุ่มเททำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายเป็นอย่างดี ควบคู่ไปกับการทำหน้าที่สอนหนังสือ หรือให้ความรู้แก่เด็กๆ อย่างเต็มที่สำหรับวิชาความรู้ที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น ได้ถ่ายทอดให้กับเด็กๆ ที่มาเรียนในโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้น ก็จะเป็นพวกวิชาความรู้พื้นฐานต่างๆ ยกตัวอย่างเช่น วิชาการอ่านการเขียน การสื่อสารทางด้านภาษา หรือการใช้ชีวิตร่วมกันในสังคม เป็นต้นพวกชาวบ้านได้ส่งลูกหลานตัวเอง ให้เข้ามาเรียนในโรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกดูแลอยู่กันอย่างมากมายและด้วยความที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น มีความตั้งใจและใส่ใจในการบริหารดูแลโรงเรียนเป็นอย่างดีนี่เอง จึงทำให้พวกข้าราชการชั้นผู้ใหญ่, นายทหาร รวมไปถึงพวกชาวบ้านที่อาศัยอยู่ภายในหัวเมืองแห่งนั้น หรือหัวเมืองที่อยู่ติดกับเมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่จะออกบวช และหัวเมืองใกล้เคียง ต่างก็ได้ส่งลูกหลานของตัวเองให้เข้ามาเรียนในโรงเรียนที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกดูแลอยู่กันอย่างมากมายและด้วยความที่ในยุคสมัยนั้น พระราชาผู้ปกครองแคว้นซึ่งก็คือพระราชบิดาของพระราชาองค์ที่จะออกบวช ทรงมีวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล และทรงเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาของเยาวชนภายในแคว้น ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้พระองค์ทรงวางนโยบายต่างๆ เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้เยาวชนภายในแคว้น ได้รับการพัฒนาทางด้านความรู้ควบคู่ไปกับศีลธรรมนั่นเองพระราชาผู้ปกครองแคว้นทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และเห็นความสำคัญของการศึกษาและเมื่อนโยบายหลักของพระราชาเป็นเช่นนี้ จึงทำให้คุณพ่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น ได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจในการปลูกฝังให้เด็กๆ ที่อยู่ในโรงเรียนของท่าน เป็นเด็กที่เก่งและดีที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมหลายๆ อย่าง ไม่ว่าจะเป็น ความกตัญญูกตเวที ความมีระเบียบวินัย และรักความสะอาด เป็นต้นเมื่อตัวลูกในภพชาตินั้นซึ่งเจริญเติบโตมาคู่กับโรงเรียนประจำแคว้น ได้เห็นถึงความรักและความทุ่มเทเอาใจใส่ ในการบริหารดูแลโรงเรียนของคุณพ่อคุณแม่ของลูกแล้ว ตัวลูกก็เกิดแรงบันดาลใจและมีความใฝ่ฝันอยากที่จะทำหน้าที่เป็น “ครู” เหมือนอย่างคุณพ่อคุณแม่ของลูกบ้าง อีกทั้งตัวลูกยังมีความตั้งใจอยากที่จะขยายโรงเรียนให้ใหญ่ขึ้น เพื่อรองรับเด็กๆ ให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิมอีกด้วยตัวลูกเกิดแรงบันดาลใจและมีความใฝ่ฝันอยากจะทำหน้าที่เป็นครูและเมื่อตัวลูกในภพชาตินั้น มีความใฝ่ฝันและมีความตั้งใจเช่นนี้แล้ว ตัวลูกจึงได้ตั้งใจศึกษาเล่าเรียน เพื่อต้องการที่จะบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือน และเป็นคุณครูที่สมบูรณ์แบบ เหมือนอย่างที่คุณพ่อคุณแม่ของลูกเป็นให้ได้และเมื่อวันเวลาผ่านไป พระราชาองค์ที่จะออกบวช ก็ได้เสด็จขึ้นครองราชย์และปกครองแว่นแคว้นต่อจากพระราชบิดาของพระองค์ เมื่อพระองค์ได้เสด็จขึ้นครองราชย์แล้ว พระองค์ก็ทรงให้การส่งเสริม และสนับสนุนทางด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงบประมาณ หรือนโยบายทางด้านการศึกษา เป็นต้น ซึ่ง ณ ช่วงเวลานั้น ก็เป็นช่วงเวลาที่ตัวลูกในภพชาตินั้น กำลังเรียนจบและได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสมดังที่ตัวลูกได้ตั้งใจเอาไว้พอดีพระราชาองค์ที่จะออกบวช ทรงสนับสนุนทางด้านการศึกษาอย่างเต็มที่ภายหลังจากที่ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้รับการบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนแล้ว ตัวลูกก็ได้รับมอบหมายจากคุณพ่อคุณแม่ของลูกในภพชาตินั้น ให้มาทำหน้าที่เป็นครูใหญ่ที่คอยดูแลโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้นต่อจากตัวท่านทั้งสอง และเมื่อตัวลูกได้มาทำหน้าที่บริหารดูแลโรงเรียนแห่งนั้นแล้ว ตัวลูกก็ได้ตั้งใจพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนให้ดียิ่งๆ ขึ้นไป อีกทั้งตัวลูกยังได้พยายามคิดค้นหากิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสำหรับเด็กๆ และทำให้เด็กๆ มีความสุขและสนุกกับการเรียนอีกด้วยตัวลูกได้มาทำหน้าที่เป็นครูใหญ่ คอยดูแลโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้นและด้วยความที่ตัวลูกในภพชาตินั้น มีความเอาใจใส่ในการบริหารดูแลโรงเรียนแห่งนั้นเป็นอย่างดีนี่เอง จึงทำให้ประชาชนชาวเมืองที่อาศัยอยู่ภายในแคว้น ต่างก็ให้ความเชื่อมั่นและให้ไว้วางใจในการส่งลูกๆ หลานๆ ของตัวเอง ให้มาเข้าเรียนในโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้นกันอย่างมากมาย และเมื่อมีเด็กๆ มาเข้าเรียนในโรงเรียนประจำแคว้นที่ตัวลูกดูแลอยู่มากเข้าๆ จึงทำให้ตัวลูกในภพชาตินั้น ได้ตัดสินใจขยายโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้นให้ใหญ่ขึ้น พร้อมกับพัฒนาระบบการเรียนการสอนให้รองรับกับปริมาณเด็กที่เพิ่มมากขึ้นอีกด้วยชาวเมืองต่างให้ความไว้วางใจในการส่งลูกหลานของตัวเองให้มาเข้าเรียนในโรงเรียนประจำแคว้นแห่งนั้นกันอย่างมากมายในเวลาต่อมา ก็ได้เกิดมหาสงครามขึ้นระหว่างแคว้นของพระราชาองค์ที่จะออกบวช กับแคว้นกันชนฝั่งทิศใต้ ซึ่งในช่วงระหว่างที่เกิดมหาสงครามนั้น ทางส่วนราชการก็ได้ส่งทหารมาคอยคุ้มกัน พร้อมกับพาคุณครูและพวกเด็กนักเรียนที่อยู่ในโรงเรียนของลูก ให้อพยพไปอยู่รวมกันที่เมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่จะออกบวชคุณครูและเด็กนักเรียนได้อพยพไปอยู่ที่เมืองหลวงของแคว้นพระราชาองค์ที่จะออกบวชและในช่วงระหว่างที่มีการอพยพเข้าไปอยู่รวมกัน ที่เมืองหลวงของแคว้นพระราชา องค์ที่จะออกบวชนั้น ตัวลูกในภพชาตินั้น ก็ได้พบประสบพักตร์กับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่ง ที่มาคอยทำหน้าที่คุ้มครองดูแลตัวลูกและพวกเด็กนักเรียนเป็นอย่างดีตัวลูกได้พบกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนหนึ่งและเมื่อตัวลูกในภพชาตินั้น ได้พบประสบพักตร์กับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้นแล้ว ตัวลูกก็เกิดความรู้สึกถูกชะตา ดั่งฟ้าลิขิตให้เราทั้งสองได้มาพบกัน และยิ่งตัวลูกได้รู้จักอัธยาศัยใจคอของนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้นแล้ว ตัวลูกก็ยิ่งเกิดความรู้สึกประทับใจในคุณงามความดีที่ตัวเขาได้มีให้แก่ตัวลูกเป็นอย่างมาก เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้สายใยแห่งความสัมพันธ์ของตัวลูกและนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้น ได้ค่อยๆ ถักทอจนกลายเป็นสายใยแห่งความรักในที่สุดและเมื่อมหาสงครามระหว่างแคว้นได้สงบลงแล้ว ตัวลูกกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้น ก็ได้ตัดสินใจขออนุญาตคุณพ่อคุณแม่ของทั้งสองฝ่ายแต่งงานกัน ซึ่งคุณพ่อคุณแม่ของตัวลูกและนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้น ก็ได้อนุมัติและอนุญาตให้ตัวลูกและตัวเขาได้ดองเป็นทองแผ่นเดียวกันในที่สุด ซึ่งนายทหารหนุ่มรูปหล่อท่านนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นไกล เพราะเขาก็คือสามีของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเองต่อมาตัวลูกกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้น ก็ได้แต่งงานกันและให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่งและเมื่อตัวลูกกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้นได้ใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ตัวลูกกับนายทหารหนุ่มรูปหล่อคนนั้นก็ได้ให้กำเนิดลูกชายคนหนึ่ง ซึ่งเขาก็คือลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตัวลูกในภพชาติปัจจุบันนี้นั่นเองและเมื่อวันเวลาผ่านไป พระราชาก็ทรงตัดสินพระทัยสละราชสมบัติออกผนวช ซึ่งหลังจากที่พระองค์ทรงออกผนวชไปได้สักระยะหนึ่งแล้ว ทางส่วนราชการก็ได้จัดให้มีนโยบายปลูกฝังศีลธรรมให้เกิดขึ้นกับเยาวชนทุกคนในทุกโรงเรียนทางราชการได้จัดให้มีนโยบายปลูกฝังศีลธรรมให้กับเยาวชนทุกคนในทุกโรงเรียนส่วนว่า นโยบายปลูกฝังศีลธรรมให้เกิดขึ้นกับเยาวชนทุกคนในทุกโรงเรียน จะมีรายละเอียดเป็นอย่างไร และจะเกิดประโยชน์มากน้อยขนาดไหนนั้น เราก็คงจะต้องมาติดตามรับฟังกันต่อในตอนต่อไป
กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 10
[ 24 ม.ค. 2556 ] - [ 18269 ]
Desktop Version
