อิสรชน แห่ง คาบสมุทรอินโดจีน


[ 15 ต.ค. 2550 ] - [ 18279 ] LINE it!

สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม

(Socialist Republic of Vietnam)

เวียดนาม เป็นชนชาติที่มีเอกลักษณ์อันโดดเด่นไม่เหมือนใคร เมื่อประกอบกับวิญญาณแห่งนักสู้ผู้รักเสรี เรื่องราวของพวกเขาจึงน่าติดตามอย่างยิ่ง

เวียดนาม ตั้งอยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ติดกับ จีน ลาว และกัมพูชา มีอาณาเขตยาวโค้งคล้ายตัวเอส (S) ทอดไปตามแนวยาวของคาบสมุทรอินโดจีน มีเขาสูงกั้นระหว่างที่ราบลุ่มแม่น้ำทั้งตอนเหนือและใต้ ภูมิอากาศเป็นแบบมรสุมเขตร้อน

ในอดีต เวียดนามเคยอยู่ภายใต้อิทธิพลของมหาอำนาจทั้งซีกโลกตะวันออกและตะวันตก เคยถูกแยกเป็น 2ประเทศ คือ เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ แต่ด้วยวิญญาณนักสู้จากครั้งบรรพชน ชาวเวียดนามจึงกัดฟันสู้ เอาชนะข้าศึก รวมชาติจนเป็นหนึ่งได้อย่างน่ายกย่อง

ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม มีประชากร 85ล้านคน มากเป็นอันดับ 13 ของโลก โดยเป็นชนชาติเวียดนาม 90% ภาษาราชการ คือ ภาษาเวียดนาม ส่วนภาษาต่างชาติที่ใช้อย่างกว้างขวางได้แก่ ภาษาจีนกลาง, จีนกวางตุ้ง, อังกฤษ, ฝรั่งเศส และรัสเซีย

    ศาสนาและปรัชญาสำคัญ ได้แก่ศาสนาพุทธ, ขงจื้อ, เต๋า และคริสต์ โดยนับถือศาสนาพุทธ 92 % มีสถูปเจดีย์กว่า 20,000แห่ง

 
    เวียดนามมีเมืองและสถานที่สำคัญมากมาย เช่น  ฮานอย เป็นเมืองหลวง โรแมนติกด้วยสถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ทะเลสาบคืนดาบ ที่งดงาม และ สุสานโฮจิมินห์ แต่หากไม่อยากเดินชมเมือง สามารถกินลมชมวิว ไปกับ “ซิโคล่” สามล้อถีบสไตล์ฝรั่งเศส ซึ่งผู้ถีบอยู่ด้านหลัง
 
 
 
 
    โฮจิมินห์ ซิตี้ เดิมชื่อ ไซ่ง่อน เป็นเมืองใหญ่ที่สุด มีอดีตทำเนียบผู้ว่าการฝรั่งเศสและศาลาว่าการเมืองสไตล์เฟรนช์ โคโลเนียล ดังสมญานามเก่า “ปารีสแห่งเอเชีย”
 
 
    เมืองเว้ มีพระราชวังในอดีต เรียงรายริมฝั่งน้ำ ดุจเมืองแห่งจักรพรรดิ  ภายในตกแต่งด้วยคลั่งสีแดงและลวดลายสีทอง มี เรือมังกร เป็นพาหนะเที่ยวชม ปัจจุบันเป็นมรดกโลก
 
 
 
    ฮาลอง เบย์ คือ หมู่เกาะแปลกตานับพัน ภายในอวดโฉมด้วยถ้ำหินงอกหินย้อย อีกนับร้อย ภาพสำเภาที่แล่นใบช้าๆ เหนือท้องน้ำ ยิ่งเพิ่มทิวทัศน์ให้โดดเด่นชวนค้นหา จนกลายเป็นอีกหนึ่งมรดกโลก
 
 
 
    ในระหว่างการเดินทาง  เรายังคงเห็นทุ่งนาเขียวขจีนั่นเพราะชาวเวียดนามส่วนใหญ่เป็นชาวนา ปลูกข้าวปีละ 4ครั้ง และส่งออกติด Top 5ของโลก เกิม (ข้าวสวย) จึงเป็นอาหารหลัก เคียงคู่ผักสดเสมอมา อาหารยอดนิยมอื่นๆ เช่น เฝอ หรือก๋วยเตี๋ยวญวน และ เปาะเปี๊ยะ เป็นต้น
 
 
 
 
    ชุดแต่งกายประจำชาติ เรียกว่า อ๊าว หย่าย เป็นเสื้อรัดรูปยาว ผ่าข้างสูงถึงสะโพก ภายในสวมใส่กางเกงแพรขายาวไว้ จึงดูเรียบร้อย คลาสสิคแต่คล่องแคล่ว สตรีมักสวมใส่กันทั่วไป
 
 
    ส่วน หมวกงอบทรงกรวย ที่เคียงคู่ศีรษะชาวเวียดนามมาโดยตลอด เรียกว่า น้อนล้า ไม่เพียงแค่กันแดดฝนเท่านั้น แต่ยังใช้พรางใบหน้าของตนเวลา ซดเฝอ (รับประทานก๋วยเตี๋ยวญวน) หรือยามถูกหนุ่มๆชายตามองได้
 
 
ชาวเวียดนาม มักไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ พวกเขาจะหาอะไรทำตลอดเวลา ชีวิตที่ลำบาก ยากจนขนาดกินมันต่างข้าวในสมัยสงคราม หล่อหลอมให้ต้องอดทนและทำงานหนัก

แต่ถึงกระนั้น พวกเขาก็ไม่เคยมองข้ามการศึกษา นักเรียนทุกคนเรียนฟรี โดยภาครัฐ จะบังคับให้นักเรียนในชนบทต้องเรียนจนจบ ม.ต้น ส่วนนักเรียนในเมืองต้องจบ ม.ปลาย  มีมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยทั่วประเทศถึง 200แห่ง และยังมีหลักสูตรการเรียนรู้ชีวิต เพื่อให้นักเรียน-นักศึกษามีจิตใจเสียสละแก่สังคม โดยให้ออกไปช่วยชาวนาในชนบท ระหว่างปิดภาคเรียนด้วย ปัจจุบัน เวียดนามมีผู้อ่านออกเขียนได้สูงถึง 99% นับว่ามีผู้รู้หนังสือมากที่สุดประเทศหนึ่งของโลก

กฎหมายในเวียดนาม ค่อนข้างเข้มงวด เช่น ในเขตชุมชนห้ามขับรถเกิน 30กม./ชม. นอกจากจะเสียค่าปรับแพง ถ้าทำผิด 3ครั้งจนใบขับขี่ถูกเจาะครบ 3รู จะถูกยึดรถ 15วัน ทำมาหากินไม่ได้

    ด้านสุขภาพ เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2550 ทางการประกาศห้ามสูบและจำหน่ายบุหรี่ในสถานที่ทำงาน โรงเรียน โรงพยาบาล และระบบขนส่งมวลชนทั้งหมด รวมถึงห้ามโฆษณา ห้ามจำหน่ายทางโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตด้วย

    ที่เป็นเช่นนี้เพราะชาวเวียดนามต่างมุ่งมั่นพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของตนอย่างจริงจัง มุ่งมองไปข้างหน้า ด้วยคำขวัญประจำใจว่า “อนาคตจะต้องดีขึ้น”

 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ประวัติพุทธศาสนาเถรวาทในเวียดนามประวัติพุทธศาสนาเถรวาทในเวียดนาม

วันพระที่ศรีลังกาวันพระที่ศรีลังกา

โมดูล...คุณทำหรือยัง?โมดูล...คุณทำหรือยัง?



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน