พระสงฆ์วัดต้นสนเมืองอ่างทอง ออกกำลังกายป้องกันอาพาธด้ายท่าบริหาร 90 ท่า ไม่ขัดต่อสมณสารูปและพระวินัย รองเจ้าคณะจังหวัดเผยสามารถป้องกันโรคประจำตัวเรื้องรังได้ถึงร้อยละ 36.8
ถือว่ามีให้เห็นไม่บ่อยครั้งนัก สำหรับพระภิกษุที่ตระหนักถึงความสำคัญของการออกกำลังกาย เนื่องจากส่วนหนึ่งเกรงว่า จะเป็นความไม่เหมาะสมกับสมณเพศ ทว่ามีพระนับร้อยรูปในจังหวัดอ่างทอง กลับหยิบเอาเรื่องการออกกำลังกายมาเป็นเกราะในการรักษาและป้องกันโรคภัยที่มาคุกคาม
เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ทีมข่าว "คม ชัด ลึก" ได้สังเกตุเห็นว่าที่วัดต้นสน ต.ตลาดหลวง อ.เมือง จ.อ่างทอง มีพระภิกษุสามเณร ได้ประกอบกิจกรรมออกกำลังกายตามแนวพระพุทธศาสนา โดยไม่ขัดต่อพระวินัยและความเหมาะสม โดยใช้เวลาประมาณ 60 นาที ท่ามกลางสายตาประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ให้ความสนใจมุงดู เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าว ไม่ค่อยมีให้เห็นที่ไหนมาก่อน ที่สำคัญต่างเห็นว่า เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้ปฏิบัติโดยตรง
จากการสังเกตุการณ์พบว่า รูปแบบการออกกำลังกายเป็นไปด้วยความสำรวม ปฏิบัติต่อเนื่องในท่านั่งขัดสมาธิ ซึ่งจะมีผลทำให้ข้อต่อและกล้ามเนื้อของอวัยวะส่วนต่างๆ มีการพับและหดตัวอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน โดยขั้นแรกได้วอร์มร่างกายให้ผ่อนคลายก่อน เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของโลหิตและอวัยวะทั้งภายนอกและภายใน จากนั้นค่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบทจากท่าเตรียมไปตามท่าทางต่างๆรวม 90 ท่า ซึ่งดัดแปลงและผสมผสานให้เกิดประโยชน์สูงสุด
พระวิสิฐคณาภรณ์ รองเจ้าคณะจังหวัดอ่างทอง ในฐานะเจ้าอาวาสวัดต้นสน กล่าวว่า สภาวะอนามัยของพระภิกษุสามเณรโดยรวมแล้ว มักจะอาพาธด้วยโรคประจำตัวเรื้อรัง ถึงร้อยละ 36.8 โรคความดันโลหิตสูงร้อยละ 11.3 และโรคเบาหวาน สาเหตุของการอาพาธ จากข้อมูลพบว่า มีความสลับซับซ้อนและมีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ มากมาย เช่น ปัจจัยด้านปัจเจกบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมพันธ์ พฤติกรรม ความเชื่อ จิตวิญญาณ รวมทั้งปัจจัยด้านระบบบริการสุขภาพและสภาพแวดล้อม ดังนั้น การจัดกิจกรรมออกกำลังกายทุกวัน ก็เพื่อต้องการให้พระภิกษุ สามเณร มีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง มีสภาวะจิตที่ดี
"ทุกคนล้วนต้องการอาหารดี อากาศดี อารมณ์จิตใจผ่องใส และออกกำลังกาย เมื่อร่างกายเคลื่อนไหวย่อมมีพละกำลังมาก ผิดกับจิตที่สงบนิ่งย่อมมีพลัง ยิ่งเมื่อพระไม่อาพาธ รัฐบาลก็ไม่สิ้นเปลืองงบประมาณ จึงให้พระ สามเณรในวัดกว่า 100 รูป ออกกำลังกายนำร่อง เพื่อขยายไปสู่วัดอื่นให้ครอบคลุมต่อไป" เจ้าอาวาสระบุ
ดร.นพ.ถวัลย์ พบลาภ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดอ่างทอง กล่าวว่า ผลการประเมินสุขภาพพระภิกษุในจังหวัดอ่างทอง พบว่ามีโรคประจำตัวสูง จึงสนับสนุนกิจกรรมพระออกกำลังกาย โดยสำนักงานสาธารณสุขและสถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตอ่างทอง ออกแบบท่ากิจกรรมตามความเหมาะสม ซึ่งผลการดำเนินการที่ผ่านมา สังเกตุได้ว่าพระภิกษุที่ร่วมกิจกรรมมีสุขภาพดีขึ้น อัตราการเจ็บป่วยน้อยลง ดังนั้น ในโอกาสต่อไปจะขยายให้ครอบคลุม และเป็นที่น่ายินดีว่า ขณะนี้วัดในจังหวัดใกล้เคียงได้นำไปปฏิบัติเช่นกัน
นายศักดิ์สิทธิ์
ทับประเสริฐ ชาวบ้านในพื้นที่รายหนึ่ง มองว่า
กิจกรรมดังกล่าวเป็นสิ่งที่น่ายินดี และน่าให้การสนับสนุน
เพราะวัตรปฏิบัติของพระภิกษุอยู่ในกรอบจำกัด
หากทำผิดพระธรรมวินัยจะกลายเป็นข่าวฉาวโฉ่สร้างความเสื่อมทันที กิจกรรมดีๆ
เช่นนี้จึงสมควรยกย่อง เพราะผู้ปฏิบัติได้ประโยชน์อย่างมาก
ที่มาจากหนังสือพิมพ์ 
Desktop Version
