ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 76


[ 19 เม.ย. 2551 ] - [ 18262 ] LINE it!

 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มโหสถบัณฑิต   ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี  ตอนที่ 76
 


    จากตอนที่แล้ว  ได้มีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นที่หน้าบ้านของมโหสถอย่างต่อเนื่อง คือวันแรก นางทาสจากบ้านของอาจารย์เสนกะ ได้ซุกซ่อนพระจุฬามณีไว้ในหม้อเปรียงนำมาขายให้

    วันที่ ๒ นางทาสจากบ้านอาจารย์ปุกกุสะ วันที่ ๓ นางทาสจากบ้านอาจารย์กามินทะ วันที่ ๔ นางทาสจากบ้านอาจารย์เทวินทะ แต่ละนางต่างซุกซ่อนเครื่องประดับสำคัญของพระราชานำมาขายให้ส่วนนางอมราเทวีก็ได้ซักถามนางทุกคนว่าเป็นใคร มาจากไหน แล้วก็บันทึกเหตุการณ์เหล่านั้นไว้
 
ต่อมา นางอมราเทวีได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับมโหสถผู้เป็นสามี  มโหสถครั้นทราบว่าอาจารย์ทั้งสี่กำลังคิดมุ่งร้ายต่อตน จึงได้ปลอบภรรยาว่า อย่าได้วิตกไปเลย ให้รอดูผลที่จะปรากฏต่อไปก่อน

    ฝ่ายอาจารย์ทั้งสี่ ครั้นได้ดำเนินการตามแผนการในขั้นแรกเสร็จแล้ว วันหนึ่งจึงแสร้งทูลถามพระราชาถึงพระจุฬามณีว่าไม่เห็นพระองค์ประดับมานานแล้ว ท้าวเธอจึงรับสั่งให้ช่วยไปนำมาให้หน่อย อาจารย์ทั้งสี่ก็แสร้งพากันไปค้นหายังที่เก็บ

แต่ครั้นไม่พบพระจุฬามณีรวมทั้งเครื่องราชาภรณ์อีกสามอย่าง จึงได้รีบกลับมาทูลพระราชา ท้าวเธอทรงทราบเรื่องแล้ว ก็ทรงพิโรธ ได้ตรัสถามอาจารย์ทั้ง ๔ ว่า พวกท่านสงสัยใครบ้างล่ะ อาจารย์เสนกะจึงทูลว่า สงสัยมโหสถ เพราะมีผู้พบเห็นมโหสถนำราชาภรณ์ของพระองค์ไปใช้

    พระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำยุยงของอาจารย์ทั้งสี่แล้ว ก็ยิ่งทรงกริ้วหนักขึ้น พระราชหฤทัยของท้าวเธอพลุ่งพล่านด้วยแรงโทสะ พระเนตรทั้งสองดุดันปานจะกลืนกินศัตรูคู่อาฆาตให้ย่อยยับ

ขณะนั้น บริวารของมโหสถซึ่งคอยสอดแนมข่าวอยู่ในราชสำนัก ทราบความนั้นแล้ว จึงได้รีบกลับมาแจ้งมโหสถทราบ

    ครั้นมโหสถรู้ว่าพระราชากริ้วตนเพราะถูกอาจารย์ทั้ง ๔ ทูลยุยง จึงคิดว่า “ตนจะต้องรีบกราบทูลชี้แจงพระเจ้าวิเทหราชให้ทรงทราบความจริง”  มโหสถจึงมิได้รอช้า รีบตัดสินใจมุ่งตรงไปเฝ้าพระราชาในทันที

    แต่ครั้นพระเจ้าวิเทหราชทรงทราบว่า มโหสถกำลังเดินทางมาเข้าเฝ้าพระองค์ ท้าวเธอก็ไม่ทรงปรารถนาจะพบตัวมโหสถ เพราะเหตุที่ยังทรงกริ้วอยู่ ทั้งยังทรงระแวงพระทัยด้วยว่า มโหสถอาจมาเข้าเฝ้าพระองค์ด้วยเจตนาร้ายก็เป็นได้

    ดังนั้น ท้าวเธอจึงทรงกำชับกับราชบุรุษผู้เฝ้าพระทวารอย่างเฉียบขาดว่า  “พวกเจ้าอย่าได้ปล่อยให้มโหสถเข้ามาหาเราเป็นอันขาด”  รับสั่งดังนี้แล้ว ก็ทรงครุ่นคิดหาวิธีจัดการกับมโหสถ

เมื่อมโหสถมาถึงประตูท้องพระโรง ราชบุรุษผู้เฝ้าพระทวารจึงกระทำตามรับสั่งของพระราชา โดยแจ้งมโหสถว่า “บัดนี้พระราชาทรงกริ้ว จึงไม่ทรงอนุญาตให้เข้าเฝ้า”

    มโหสถทราบว่าพระราชาไม่ทรงยอมให้เข้าเฝ้า ก็มิได้เสียใจ เพียงดำริในใจว่า “เวลานี้คงยังมิใช่โอกาสที่จะกราบทูลสิ่งใด”  ในที่สุดจึงตัดสินใจเดินทางกลับไปยังเรือนของตนก่อนเพื่อรอเฝ้าดูเหตุการณ์ต่อไป

    ภายหลังจากมโหสถกลับไปแล้วไม่นาน พระเจ้าวิเทหราชก็มีพระดำรัสสั่งกับอาจารย์ทั้ง ๔ ว่า“พวกท่านจงไปจับมันมาลงโทษ เสียโดยเร็วเถิด”
 
อาจารย์เหล่านั้นทูลรับสนองท้าวเธอแล้ว ก็ถือเอาพระดำรัสท้าวเธอเป็นดุจถ้อยประกาศิต สั่งให้ราชบุรุษออกตามจับมโหสถบัณฑิตในทันที
 
    แต่ว่ามโหสถก็ได้ไหวตัวทัน  จึงเรียกนางอมราเทวีเข้ามาใกล้ๆ พลางสั่งว่า “อมราน้องรัก พี่เห็นจะต้องหลบไปเสียจากที่นี่ก่อนชั่วคราว น้องจงคอยดูเหตุการณ์ทางนี้ไปก่อน และจงดูแลเรือนของเราไว้ให้ดีนะ”
 
    นางอมราเทวีรีบท้วงขึ้นว่า  “พี่จะหลบหนีไปทำไม ก็ในเมื่อเราไม่มีความผิด ทั้งพยานหลักฐานก็มีพร้อมอยู่ในมือ มิใช่หรือคะ”

มโหสถจึงกล่าวเพียงสั้นๆกับนางว่า  “เจ้าอย่าได้หน่วงเหนี่ยวพี่ไว้เลย ขึ้นชื่อว่าไฟน่ะ ย่อมไม่อาจรู้ได้เลยว่า สิ่งใดที่มันควรเผา สิ่งใดไม่ควรเผา ตัวเธอก็ทราบดีว่า
 
บัดนี้พระราชาก็ทรงเชื่ออาจารย์ทั้ง ๔ จนหมดสิ้น ทั้งยังรับสั่งให้ลงโทษพี่ขั้นเฉียบขาดออกอย่างนั้น หากพี่ยังดึงดันจะกราบทูลความจริงให้ทรงทราบ พระองค์ก็จะไม่ทรงเชื่อ  ทั้งจะทรงสั่งลงโทษขั้นรุนแรง ถึงตอนนั้น กำลังคนของพี่ที่มีอยู่ไม่น้อย เมื่อทนไม่ได้ต่อความอยุติธรรม ก็จะก่อความวุ่นวายขึ้นในพระราชสำนัก สงครามกลางเมืองอาจจะเกิดขึ้นได้
 
ขอให้น้องอมราอย่าได้เป็นห่วงพี่เลย ให้พี่ได้หลบไปอยู่เงียบๆ เพียงลำพังสักระยะหนึ่ง เพื่อให้พระราชาจะได้ทรงคลายความระแวงในตัวพี่เสียก่อน แล้วจึงค่อยคิดอ่านหาทางแก้ไขในภายหลัง”

    นางอมราเทวีได้ฟังเพียงเท่านั้น ก็เข้าใจในสิ่งที่มโหสถกล่าวมาทั้งหมด นางจึงรับว่า “ถ้าอย่างนั้น ก็ขอให้พี่เดินทางโดยปลอดภัยเถิดนะ ส่วนทางนี้ ขอพี่จงวางใจให้เป็นภาระของอมราเถิด”

    มโหสถได้ฟังดังนั้นก็เบาใจ รีบปลอมตัวเป็นชาวบ้านธรรมดา แล้วเดินทางออกจากกรุงมิถิลามุ่งไปทางใต้สู่บ้านทักขิณยวมัชฌคามในทันที   เพียงไม่กี่ชั่วยามเท่านั้น ข่าวที่มโหสถบัณฑิตหนีออกจากกรุงมิถิลา ก็แพร่สะพัดไปอย่างรวดเร็ว

พร้อมกันนั้นก็มีเสียงโจษจันกันไปทั่วทั้งมิถิลานครว่า “บัดนี้ ท่านมโหสถบัณฑิตผู้เป็นมิ่งขวัญของชาวมิถิลานคร ได้จากพวกเราไปเสียแล้ว”

    ทันทีที่ชาววิเทหรัฐทั้งหลายได้ทราบข่าว ก็ต่างมาชุมนุมกัน จึงพลันบังเกิดความโกลาหลอลหม่านกันยกใหญ่ มหาชนที่มีความรักและเคารพในมโหสถบัณฑิต ต่างก็พากันร้องไห้คร่ำครวญด้วยความอาลัย ราวกับว่านับแต่นี้ไป มิถิลานครจักไม่มีราชบัณฑิตผู้มีนามว่ามโหสถอีกแล้ว

    การที่พระเจ้าวิเทหราชสั่งลงโทษมโหสถบัณฑิต โดยยังมิทันได้ทรงพิจารณาก่อนเช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ดีเลย พระองค์ทรงสั่งการผิดพลาดเช่นนี้ เมื่อความจริงปรากฏขึ้น พระเกียรติยศที่มีก็จะเสื่อมถอยลงไปอย่างแน่นอน

    ดังธรรมภาษิตในภูริปัญหาชาดกที่ว่า คฤหัสถ์ผู้บริโภคกามคุณเป็นคนเกียจคร้านไม่ดี บรรพชิตผู้ไม่สำรวมระวังไม่ดี พระราชาไม่ทรงพิจารณาเสียก่อนแล้ว ประกอบราชกิจไม่ดี บัณฑิตมักโกรธก็ไม่ดี  

    ดังนั้น ผู้ที่มีอำนาจอยู่ในมือควรพิจารณาก่อนแล้ว จึงค่อยสั่งการใดๆลงไป ไม่พิจารณาก่อน ไม่ควรรีบด่วนตัดสินใคร เพราะยศศักดิ์และเกียรติคุณ ย่อมเจริญแก่บุคคลผู้พิจารณาเสียก่อน แล้วจึงค่อยประกอบกิจนั้นๆ ส่วนว่า มโหสถบัณฑิต เมื่อจากพระราชวังไปแล้ว ชีวิตเบื้องหน้าจะพบกับความทุกข์ยากอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย) 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 77ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 77

ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 78ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 78

ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 79ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 79



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก