ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 88


[ 17 พ.ค. 2551 ] - [ 18268 ] LINE it!

 
ทศชาติชาดก
 
เรื่อง  มโหสถบัณฑิต   ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี  ตอนที่ 88

    จากตอนที่แล้ว พระเจ้าวิเทหราชใคร่จะทรงทราบถึงน้ำใจของมโหสถว่าคิดอย่างไร จึงตรัสถามว่า “คนบางคนสมบูรณ์ด้วยยศ ทรัพย์และบริวาร จึงไม่ทำความชั่ว ด้วยคิดว่าเขาเพียงพอแล้ว ส่วนบางคนไม่คิดทำชั่ว เพราะกลัวจะถูกติเตียน ส่วนเธอเล่า เป็นผู้มีปรีชาสามารถ  ถ้าเธอหวังจะครอบครองวิเทหรัฐ ก็คงมิใช่เรื่องยากอะไร แต่เพราะเหตุไร เธอจึงไม่คิดช่วงชิงราชสมบัติของเรา ไม่กระทำความเดือดร้อนให้แก่เรา”

    มโหสถกราบทูลอย่างนอบน้อมว่า  “บัณฑิตย่อมไม่ประพฤติชั่ว  เพื่อความสุขแก่ตน บัณฑิตถึงจะประสบความวิบัติก็ย่อมไม่ทิ้งธรรม” พระเจ้าวิเทหราชตรัสถามต่อว่า “คนผู้ต่ำศักดิ์ เขาคิดว่า เราได้ราชบัลลังก์มาเป็นของตนแล้ว จึงค่อยประพฤติธรรมก็ได้ เธอล่ะมีความเห็นอย่างไร”

    มโหสถบัณฑิตเพื่อจะคลายข้อสงสัยนั้น จึงได้กล่าวอุปมาว่า     “บุคคลนั่งหรือนอนใต้ร่มเงาของต้นไม้ใด ก็ไม่ควรหักรานกิ่งของต้นไม้นั้น เพราะบุคคลผู้ประทุษร้ายมิตรเป็นคนเลวทราม  บัณฑิตได้เล่าเรียนธรรมจากผู้ใด ก็ไม่พึงตัดไมตรีที่มีต่อท่านผู้นั้น”  
 
    มโหสถครั้นได้พิสูจน์ให้ทรงทราบถึงเจตนาที่บริสุทธิ์ของตนแล้ว  จึงค่อยๆกราบทูลตักเตือนท้าวเธอว่า “บุคคลผู้ครองเรือน เป็นคนเกียจคร้าน ย่อมไม่เจริญ  นักบวชผู้ไม่สำรวม ย่อมไม่งาม  บัณฑิตผู้มักโกรธ ย่อมไม่งาม พระราชาผู้ทรงประกอบราชกิจโดยมิได้พิจารณา ย่อมไม่งาม”

    จากนั้น มโหสถบัณฑิตชำเลืองดูพระพักตร์ของท้าวเธอ ก็เห็นชัดว่าทรงตั้งพระทัยที่จะสดับคำทูลของมโหสถอยู่อย่างเต็มที่ ขณะนั้นแววพระเนตรทั้งคู่ดูช่างอ่อนโยนชุ่มเย็นยิ่งนัก บ่งบอกว่าทรงปรารถนาจะซึมซับภาษิตของมโหสถบัณฑิตไว้ทุกถ้อยคำโดยมิให้ตกหล่น 

    มโหสถบัณฑิตเห็นดังนั้นแล้ว จึงได้กราบทูลทิ้งท้ายว่า “ขอเดชะ พระราชาพระองค์ใดทรงพิจารณาก่อนแล้วจึงทรงบำเพ็ญราชกิจเป็นปกติ พระราชอิสริยยศและพระเกียรติคุณของพระราชาพระองค์นั้น ก็ย่อมรุ่งเรืองแผ่ไพศาลอย่างไม่มีที่สิ้นสุด พระพุทธเจ้าข้า”

    เมื่อมโหสถบัณฑิตกราบทูลจบลง ท้าวเธอก็ทรงเปล่งสาธุการ ชื่นชมภาษิตเหล่านั้นด้วยพระหทัยที่ชุ่มชื่นเบิกบาน 

    ขณะนั้นพระเจ้าวิเทหราชทรงระลึกถึงปัญหาของเทวดาผู้สิงสถิต ณ  เศวตฉัตรขึ้นมาได้    จึงทรงดำริในพระทัยว่า “เว้นมโหสถบัณฑิตแล้ว คงไม่มีผู้ใดสามารถพยากรณ์ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างแน่นอน”   

    ดำริฉะนี้แล้ว จึงมีพระดำรัสถามมโหสถบัณฑิตสืบไปว่า “พ่อมหาบัณฑิต  บัดนี้ ก็ถึงเวลาที่เธอจะต้องแก้ปัญหาของเทวดาแล้ว เพราะนอกจากเธอแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถแก้ปริศนาของเทวดาได้ ฉะนั้น เมื่อเธอกลับมาก็ดีแล้ว เราจะได้ฟังเธอแก้ข้อปริศนานั่นเสียที เราขอเชิญเธอเปลื้องปริศนาอันยากยิ่งในบัดนี้เถิด” 

    ตรัสแล้วท้าวเธอก็ทรงถือปฏิบัติตามธรรมเนียมแต่โบราณ คือทรงเชื้อเชิญมโหสถบัณฑิตให้นั่งเหนือพระราชบัลลังก์ภายใต้พระมหาเศวตฉัตร  ส่วนพระองค์ก็เสด็จประทับเหนือพระราชอาสน์ซึ่งต่ำกว่า

    ครั้นมโหสถบัณฑิตนั่งลงเรียบร้อยแล้ว จึงกราบทูลว่า  “ข้าแต่มหาราชเจ้า ขอเชิญใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทตรัสถามปริศนามาเถิด บัดนี้ข้าพระบาทพร้อมแล้วที่จะทูลแก้ถวาย พระพุทธเจ้าข้า”

    “ดีล่ะ ถ้าเช่นนั้น เธอจงฟัง”  
ปัญหาข้อที่ ๑. ถามว่า “บุคคลผู้ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ทั้งชกทั้งทุบ ทั้งเตะถีบถอง แต่ผู้ที่ทำร้ายกลับมิได้เป็นที่โกรธเคืองของผู้ถูกทำร้ายเลย แต่กลับเป็นที่รักของผู้ที่ตนทำร้าย ขอเธอจงไขปัญหานี้ให้กระจ่างด้วยเถิดว่า บุคคลในปัญหานี้คือใคร” 

    เมื่อพระราชาทรงตรัสจบลง เนื้อความของปัญหานั้นก็ปรากฏแจ่มกระจ่างแก่มโหสถบัณฑิต ดุจดวงจันทร์เต็มดวงปรากฏในท้องฟ้า ฉะนั้น

    ครั้นแล้วมโหสถบัณฑิตจึงกราบทูลพยากรณ์ปัญหานั้นว่า “ขอเดชะ ขอพระองค์โปรดทรงสดับเถิด พระพุทธเจ้าข้า”

    “ก็ในคราใดทารกน้อยนอนบนตักของตักมารดา มีอาการร่าเริงยินดี หัวเราะยิ้มแย้ม บางคราวก็เล่นหัว ทึ้งผม บางคราวก็ชกต่อย ถีบเตะ หรือตบปากมารดาด้วยความไร้เดียงสา 
 
    แต่ทารกนั้นกลับเป็นที่รักของผู้เป็นมารดาอย่างสุดหัวใจ ทุกๆคราวที่บุตรกระทำเช่นนั้น  มารดาก็ยิ่งเพิ่มพูนความรักในบุตรธิดาให้มากยิ่งขึ้น  ไม่อาจกลั้นความรักที่มีเต็มเปี่ยมในดวงใจไว้ได้ ย่อมอดไม่ได้ที่จะสวมกอดบุตรนั้นมาแนบไว้ที่หว่างอก  จูบจอมถนอมเกล้าด้วยความชื่นอกชื่นใจ ไม่หนีหายไปไหนเลย แม้บิดาก็เช่นกัน พระพุทธเจ้าข้า”
 
    เมื่อพระเจ้าวิเทหราชทรงสดับคำพยากรณ์นั้นแล้ว  ก็ทรงเข้าพระทัยเนื้อความของปัญหาอย่างแจ่มแจ้ง  ปริศนานั้นจึงกระจ่างแจ้งแก่พระหฤทัยของท้าวเธอ ดุจเผยสุริยมณฑลให้มาปรากฏท่ามกลางนภากาศ แม้เทวดาผู้เป็นเจ้าของปัญหานั้นเล่า ก็ปลื้มปีติเกินประมาณ รีบเผยกำพูฉัตรออกมาสำแดงกายกึ่งหนึ่งให้ปรากฏ พลางเปล่งสาธุการด้วยเสียงทิพย์อันกังวานว่า “โอ...ช่างน่าชื่นใจเหลือเกิน พ่อบัณฑิต เธอแก้ปัญหาได้ถูกต้องดีแล้ว”

    ครั้นแล้วจึงกำดอกไม้และของหอมอันเป็นทิพย์ ซึ่งบรรจุอยู่เต็มผอบแก้ว โปรยลง ณ ภายใต้พระมหาเศวตฉัตรเพื่อบูชาแด่มโหสถโพธิสัตว์ แล้วจึงอันตรธานหายวับไป

    ต่อจากนั้นพระเจ้าวิเทหราชจึงตรัสถามเทวปัญหาข้อที่ ๒ สืบไปว่า  “บุคคลผู้ทั้งด่าทั้งแช่งผู้อื่นตามที่ตนชอบใจ แต่ใจจริงแล้วเขาไม่ต้องการให้ผู้ที่ตนแช่งต้องประสบผลร้ายไปตามนั้นเลย ทั้งผู้ที่ถูกแช่งกลับยิ่งเป็นที่รักของผู้แช่งเสียอีก เธอเห็นว่า บุคคลที่ว่านั้นคือใคร”

    ปัญหาที่เทวดาถามดูเหมือนยากเย็นสำหรับผู้อื่น แต่เมื่อมาถึงมโหสถผู้สมบูรณ์ด้วยปัญญา กลับเป็นสิ่งที่ง่ายดาย แต่ว่าปัญหาข้อนี้ มโหสถจะเฉลยอย่างไร โปรดติดตามตอนต่อไป

พระธรรมเทศนาโดย : พระราชภาวนาวิสุทธิ์  (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 89ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 89

ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 90ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 90

ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 91ทศชาติชาดก เรื่องมโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 91



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก