">
อาจารย์บุญมา ป้านประดิษฐ์ นักวิทยาศาสตร์
ดีเด่นที่เชื่อในเรื่องของบุญ
">
ตอนที่ 1
เมื่อวันที่
5 มีนาคม พ.ศ.2552
ที่ผ่านมา คือ วันประกาศความสำเร็จของวงการนักวิทยาศาสตร์ไทยที่ก้าวต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง
และถือเป็นความภาคภูมิใจของเหล่าลูกพระธัมฯ ทั่วโลก ที่ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญมา
ป้านประดิษฐ์ อาจารย์ประจำภาควิชาวิศวกรรมชลประทาน
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จ.นครปฐม ลูกพระธัมฯพันธุ์แท้ ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นด้านพลังงานทางเลือก
ด้านการนำขยะมาแปรรูปเป็นเชื้อเพลิงพลังงาน (Waste to Energy)จากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
">
">
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญมา ป้านประดิษฐ์
ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นด้านพลังงานทางเลือก
จากวิกฤตการณ์พลังงานน้ำมันที่เกิดขึ้น
ได้ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจทั่วโลกต่อเนื่อง ทำให้เศรษฐกิจของประเทศต่างๆทั่วโลกปั่นป่วน
จนทำให้เกิดการผลักดันให้พัฒนาพลังงานทางเลือกกันอย่างจริงจังมากยิ่งขึ้น
">
พลังงานทางเลือก หมายถึง พลังงานที่สะอาดสามารถนำมาหมุนเวียนใช้ได้ต่อเนื่องไม่มีวันหมด
เป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อม ไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่างๆต่อโลกด้วย เช่น พลังงานจากแสงอาทิตย์
จากลม และที่กำลังเป็นที่สนใจกันอยู่ในขณะนี้ คือ การนำขยะมาแปรรูปเป็นพลังงาน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ บุญมา ป้านประดิษฐ์ หัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการวิศวกรรมพลังงานและสิ่งแวดล้อม
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน หรือ ที่เด็กเกษตรเรียกด้วยความคุ้นเคยว่า อ.บุญมา เล่าว่า
“เรื่องการแปรรูปขยะเป็นพลังงานนี้ คิดมา 13 ปี วันนี้เสร็จสมบูรณ์แล้ว
สิ่งที่เราทำนี้ส่งผลต่อชุมชนโดยตรง ทุกวันนี้เรามีของที่ทิ้งแล้วเยอะแยะเต็มไปหมด
พอทิ้งแล้วก็ทำให้เกิดมลภาวะ วันนี้เราจึงได้เอาขยะมาแปรรูปเป็นพลังงานครบวงจร
โดยการแยกขยะจากต้นทางเราสามารถแปรรูปเป็นปุ๋ยไปปลูกผัก
และสามารถนำมาทำถ่านอัดแท่งหรือทำแก๊สร้อน ซึ่งสามารถใช้แทน LPG ได้ ของที่เป็นของเน่าๆเราก็มาผลิตแก๊สได้หมด
แล้วเมื่อเกิดแก๊สขึ้นก็มีเทคนิคในการดูดแก๊สขึ้นมาเอามาปั่นเป็นกระแสไฟฟ้า
พอทำเสร็จก็เอาตัวนี้มาร่อนเป็นไบโอดีเซล
เอามันสำปะหลังหมักแล้วได้เอสเทอนอลผสมด้วยเบนซินก็ได้ แก๊สโซฮอล์
สามารถผลิตน้ำมันได้เลย”
">
"> “งานที่ทำและคิดค้นมานี่ เราทำเพื่อชุมชน
เราจะคิดแบบครบวงจร ชาวบ้านสามารถนำไปใช้ได้เลย บางคนอาจจะสงสัยว่าผมคิดออกมาได้อย่างไร ผมบอกได้คำเดียวครับว่า เป็นเพราะบุญ บุญเท่านั้นเลยครับที่ทำให้ผมคิดได้
ผมเริ่มจากการทำบุญโดยเฉพาะบุญจากการสร้างองค์พระ จากนั้นก็หลับตาคิดด้วยการนั่งสมาธิ
เอาใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ทำใจสบายๆ แล้ววิธีการต่างๆ มันก็ผุดขึ้นมาเองเลยครับ ส่วนรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นที่ได้มานี้
เปรียบเสมือนผลพลอยได้ เพราะสิ่งที่ผมทำนี้ มุ่งประโยชน์ต่อส่วนรวมเพียงอย่างเดียว
ไม่ได้นึกถึงรางวัลอะไรเลยครับ ผมคิดแต่ว่า ถ้าเราทำความดี แล้วความดีนั้นก็จะตอบแทนเราเองครับ”
และสูตรของความสำเร็จของงานวิจัยนี้ ก็คือ
การเชื่อมโยงระหว่างพุทธศาสตร์ สังคม วิทยาศาสตร์ เข้ามาหมดเลยแล้วก็จัดการบริหาร
ที่ อ.บุญมา เรียกว่า พุทโธโลยี โดยนำเอาหลักธรรมในพระพุทธศาสนา
ตามคำสอนของพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใช้เป็นหลักในการคิดค้นเรื่องของพลังงานทางเลือก
พัฒนากลายเป็นพลังงานทางรอด ที่ช่วยทั้งทางด้านเศรษฐกิจควบคู่ไปกับจิตใจและยังเป็นทางรอดในการดำเนินชีวิตให้ปลอดจากอบายอีกด้วย
และถ้าใครจะนำพลังงานทางเลือกนี้ไปใช้
โดยที่ไม่นำพุทโธโลยีนี้ไปใช้ด้วย ก็จะไม่ประสบผลสำเร็จ
">
"> แต่กว่าจะมี อ.บุญมา ป้านประดิษฐ์ ผู้ได้รับรางวัลนักวิทยาศาสตร์ดีเด่นในวันนี้
อดีตอาจารย์ก็เป็นเพียงอาจารย์จนๆ คนหนึ่ง
ที่ไม่มีชื่อเสียงอะไรเลย แต่พอได้เข้าวัด ได้ทำบุญองค์พระ
ก็ได้เกิดเรื่องอัศจรรย์ขึ้นมากมายกับชีวิต จนทำให้อาจารย์ที่เชื่อเรื่องเหตุและผล
ถึงกลับต้องเชื่อในเรื่องของบุญ โดยเฉพาะบุญจากการสร้างองค์พระ ส่วนว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไร
โปรดติดตามตอนต่อไป