">
The Middle Ways in Seattle
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อด้วยความเคารพอย่างสูงยิ่งครับ
">
">
กระผมชื่อ สตีฟ พินนี (Steve Pinney) อายุ 28 ปีครับ ผมเกิดที่เยอรมนี แต่ย้ายมาอยู่สหรัฐอเมริกาตั้งแต่อายุได้ 1 ขวบ ตอนเด็กๆ
ผมอยู่กับคุณปู่คุณย่าและได้ตามทั้งสองท่านไปร่วมกิจกรรมที่โบสถ์คาทอลิก แต่เมื่ออายุได้ 15 -16 ปี ผมก็ไม่ได้ไปโบสถ์อีก เพราะผมศึกษาพบว่าจุดกำเนิดหรือประวัติศาสตร์การเกิดศาสนานั้น
เริ่มจากการทำสงครามและมีคนตายมากมายเพื่อการเผยแผ่ ซึ่งผมไม่เห็นด้วย
">
เมื่ออายุได้ 17 ปี ผมพยายามมองหาศาสนา หรือวิธีการที่
">">
">">
">">
">">
จะเป็นที่พึ่งทางใจ
และพบว่าศาสนาพุทธมีเหตุผลมากกว่าศาสนาอื่นๆ ไม่มีการทำสงครามเพื่อเผยแผ่ศาสนา ผมจึงชอบศาสนาพุทธมากกว่าศาสนาอื่น และได้ศึกษาเป็นจริงเป็นจังมากขึ้นตอนที่ได้รู้จักภรรยาชาวไทย ซึ่งเธอชวนผมเข้าวัด นั่งสมาธิครับ
">
">
สตีฟ พินนี และ ภรรยายอดกัลยาณมิตร ปาริฉัตร พินนี
จากนั้นผมก็ได้พบกับพระอาจารย์ที่วัดพระธรรมกายซีแอตเติ้ล ผมได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการนั่งสมาธิและมาปฏิบัติธรรมโครงการ
The Middle Way เดือนพฤษภาคม พ.ศ.
2551 ณ สวนป่าหิมวันต์ จ.เลย ผมประทับใจโครงการเป็นอย่างมาก
เพราะการทำสมาธิ ทำให้ ผมรู้สึกเหมือนอยู่ในฟองดวงแก้ว รู้สึกอิ่มบุญมากครับ การปฏิบัติธรรมในครั้งนั้น ผมรู้สึกสงบขึ้นและเป็นคนที่มีคุณค่ามากขึ้น
สตีฟ พินนี ในท่า Peace Position
แต่เมื่อผมกลับอเมริกา ผมไม่ได้นั่งสมาธิอย่างต่อเนื่อง ชีวิตมีแต่งานๆๆ ทำให้เครียดมาก เมื่อทราบว่ามีโครงการ
The Middle Way มาจัดปฏิบัติธรรมสุดสัปดาห์ที่ซีแอตเติ้ลในปีนี้
แม้ผมจะมีภารกิจมากแต่ก็ตัดสินใจเข้าร่วมปฏิบัติธรรม โดยตอนแรกคิดว่ามาเพื่อผ่อนคลายความเครียดเท่านั้น
">
">
แต่เมื่อเข้าร่วมจริงๆ
สมาธิของผมพัฒนาขึ้นมาก รู้สึกผ่อนคลาย
มีพลัง และได้ย้ำเตือนความตั้งใจที่ผมเคยคิดไว้อยู่นานถึง 2-3 ปีว่า ยากลองบวชเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา เพื่อศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าครับ
อันที่จริงตั้งแต่เด็กๆ เคยคิดไว้ว่า ทำอย่างไรจึงจะช่วยโลกให้ดีขึ้นได้ ผมนึกฝันไว้ว่า เมื่อธุรกิจของผมลงตัว ผมอยากจะทำงานด้านอาสาสมัครช่วยเหลือคนในสังคม ในครั้งนี้พระอาจารย์ท่านเทศน์สอนว่าชีวิตของเราเหลือน้อยลงทุกวันๆ
ควรทำประโยชน์ตนให้เกิดขึ้น ผมไม่อาจรอช้าได้อีกแล้ว จึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการบวชธรรมทายาทนานาชาติในปีนี้เลย
ผมคิดว่าการบวชครั้งนี้จะเป็นโอกาสได้พัฒนาสมาธิและประสบการณ์ภายใน
ซึ่งก็เป็นจริงดังนั้น เพราะในรอบหนึ่ง ขณะที่ ผมทำใจหยุดนิ่ง สบายๆ ผมก็ได้เห็นองค์พระครับ
ท่านมาให้เห็นอยู่ไกลๆ แต่พอเอ๊ะอ๊ะสงสัย องค์พระก็แวบหายไป
ตอนนี้ผมมีความสุขจากสมาธิ และตั้งใจว่า ถ้ากลับอเมริกาคราวนี้จะเปิดร้านแกลลอรี่ของผมให้คนมานั่งสมาธิสัปดาห์ละครั้งครับ
และใช้ความเป็นศิลปินในตัวช่วยหลวงพ่อแต่งเพลงด้วยครับ
">
พระสตีฟ ฐานคฺโค ในโครงการอบรมธรรมทายาทนานาชาติรุ่นปัจจุบัน (พ.ศ.2552)
">
ผมต้องกราบขอบพระคุณสำหรับทุกสิ่งทุกอย่างที่ครูไม่ใหญ่ทำเพื่อสันติสุขของโลก ผมปลาบปลื้มกับการมองการณ์ไกลของครูไม่ใหญ่เพราะสิ่งที่ครูไม่ใหญ่ทำอยู่นี้ นับเป็นหนึ่งในสิ่งที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ผมเคยเห็นมาครับ