ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการไปดูบั้งไฟพญานาคที่ จ.หนองคาย ว่า ตลอดช่วงเช้าวันที่ 7 ต.ค.มีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางมาตั้งแต่เช้าทำให้ถนนมิตรภาพขาเข้าจาก จ.อุดรธานีมุ่งหน้า จ.หนองคาย เต็มไปด้วยรถยนต์ ส่วนใหญ่มุ่งหน้าเข้าสู่ อ.โพนพิสัย, กิ่ง อ.รัตนวาปี จ.หนองคาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เกิดปรากฏการณ์ บั้งไฟพญานาคเป็นประจำทุกปีและลูกไฟเกิดขึ้นมากกว่าที่อื่น ขณะเดียวกันได้เกิดฝนตกหนักในตัวเมืองหนองคาย อ.โพนพิสัย และ กิ่ง อ.รัตนวาปี ทำให้การจราจรตลอดเส้นทางเข้าสู่อำเภอโพนพิสัยนั้นเป็นไปอย่างยากลำบาก ส่วนนักท่องเที่ยวที่มานั่งจับจองริมฝั่งแม่น้ำโขงเพื่อรอดูลูกไฟต่างวิ่งหลบฝนกันอย่างชุลมุน กระทั่งช่วงเย็นฝนได้หยุดตก บรรดานักท่องเที่ยวต่างพากันกลับไปจับจอง ที่นั่งรอดูลูกไฟเหมือนเดิม
ส่วนที่วัดไทย ต.จุมพล อ.โพนพิสัย ซึ่งเป็นสถานที่จัดพิธีบวงสรวงบูชาพญานาคในช่วงเย็น ทางเทศบาลตำบลจุมพลได้จัดเตรียมสถานที่เวทีไว้อย่างสวยงามแต่กลับถูกฝนเทกระหน่ำ
เล่นงานจนพังเสียหาย บริเวณภายในวัดและข้างวัดมีนักท่องเที่ยวนับหมื่นคนมาจับจองสถานที่รอชมบั้งไฟพญานาค สำหรับการรักษาความปลอดภัยนั้น พ.ต.อ.ปราโมทย์ เอี่ยมทัศน์ รักษาการ ผบก.ภ.จ.หนองคาย ได้จัดกำลังตำรวจประจำจุดอย่างทั่วถึง โดยร่วมกับ พ.ต.อ. นิรันดร เหลื่อมศรี ผกก.4 บก.ทล. นำตำรวจทางหลวง ช่วยอำนวยความสะดวกทั้งเรื่องจราจรและความปลอดภัย
ขณะเดียวกันได้มีนักท่องเที่ยวหลายคนร้องเรียนผ่านทางสถานีวิทยุ สวท.หนองคาย ว่า โรงแรมที่พักใน จ.หนองคาย ฉวยโอกาสขึ้นราคาที่พักจากเดิมห้องละ 400 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 1,000 บาท แพงเกินจริง อยากให้ทางจังหวัดดำเนินการ เพราะเป็นการเอารัดเอาเปรียบ นักท่องเที่ยว จากปัญหาดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวหลายคณะหันไปตั้งเต็นท์นอนตามวัดต่างๆแทน เพื่อเฝ้ารอดูบั้งไฟพญานาคให้เป็นบุญตา
ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจราคาที่พักโรงแรม เกสต์เฮาส์ และรีสอร์ตในตัวเมืองหนองคาย พบมีการปรับราคาขึ้นเป็นเท่าตัว อาทิ เดิมราคาห้องละ 500 บาท ปรับขึ้นเป็น 1,000 บาท แต่บางแห่งยังคงราคาเดิมเช่น โรงแรมหนองคายแกรนด์ มียอดจองห้องเต็มตั้งแต่วันที่ 6-8 ต.ค. ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก กิจกรรมต่างๆไม่คึกคักเท่าที่ควร
ด้าน นพ.มนัส กนกศิลป์ รอง ผอ.รพ.หนองคาย ผู้ศึกษาวิจัยค้นคว้าปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคมากว่า 10 ปี เปิดเผยว่า บั้งไฟพญานาคปีนี้น่าจะมีให้เห็นเช่นทุกปี แต่คงไม่เกิน 400 ลูก เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ระดับ 4.50 เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สามารถเกิดบั้งไฟพญานาคได้ อีกทั้งกระแสน้ำโขงเปลี่ยนทิศทางและพัดเอาอินทรีย์สารรวมทั้งแร่ธาตุที่เป็น
ขณะเดียวกันได้มีนักท่องเที่ยวหลายคนร้องเรียนผ่านทางสถานีวิทยุ สวท.หนองคาย ว่า โรงแรมที่พักใน จ.หนองคาย ฉวยโอกาสขึ้นราคาที่พักจากเดิมห้องละ 400 บาท ปรับราคาขึ้นเป็น 1,000 บาท แพงเกินจริง อยากให้ทางจังหวัดดำเนินการ เพราะเป็นการเอารัดเอาเปรียบ นักท่องเที่ยว จากปัญหาดังกล่าวทำให้นักท่องเที่ยวหลายคณะหันไปตั้งเต็นท์นอนตามวัดต่างๆแทน เพื่อเฝ้ารอดูบั้งไฟพญานาคให้เป็นบุญตา
ผู้สื่อข่าวได้ออกสำรวจราคาที่พักโรงแรม เกสต์เฮาส์ และรีสอร์ตในตัวเมืองหนองคาย พบมีการปรับราคาขึ้นเป็นเท่าตัว อาทิ เดิมราคาห้องละ 500 บาท ปรับขึ้นเป็น 1,000 บาท แต่บางแห่งยังคงราคาเดิมเช่น โรงแรมหนองคายแกรนด์ มียอดจองห้องเต็มตั้งแต่วันที่ 6-8 ต.ค. ลูกค้าส่วนใหญ่มาจากภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้ แต่เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา ถือว่าจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงมาก กิจกรรมต่างๆไม่คึกคักเท่าที่ควร
ด้าน นพ.มนัส กนกศิลป์ รอง ผอ.รพ.หนองคาย ผู้ศึกษาวิจัยค้นคว้าปรากฏการณ์บั้งไฟพญานาคมากว่า 10 ปี เปิดเผยว่า บั้งไฟพญานาคปีนี้น่าจะมีให้เห็นเช่นทุกปี แต่คงไม่เกิน 400 ลูก เนื่องจากระดับน้ำในแม่น้ำโขงอยู่ที่ระดับ 4.50 เมตร ซึ่งเป็นระดับน้ำที่สามารถเกิดบั้งไฟพญานาคได้ อีกทั้งกระแสน้ำโขงเปลี่ยนทิศทางและพัดเอาอินทรีย์สารรวมทั้งแร่ธาตุที่เป็น
ปัจจัยในการเกิดบั้งไฟพญานาคไปบริเวณอื่น คาดว่าจุดที่มีบั้งไฟพญานาค เกิดขึ้นมากที่สุดคือที่บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี เพราะบริเวณดังกล่าวระดับน้ำโขงมีสภาพเหมาะสม
ต่อมาเวลา 18.18 น. วินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อลูกไฟสีแดงอมเหลืองได้พุ่งจากแม่น้ำโขงลูกแรกที่บ้านตาลชุม ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี ท่ามกลางเสียงฮือฮาของนักท่องเที่ยว จากนั้นก็ทยอยขึ้นให้เห็นอย่างต่อเนื่องและหลายจุด อาทิ บ้านหนองกุ้ง-หนองแก้ว ต.กุดบง อ.โพนพิสัย บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี บ้านภูเสด็จ ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย บ้านโพนแพง ต.โพนแพง กิ่ง อ.รัตนวาปี บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี กิ่ง อ.รัตนวาปี และที่แก่งอาฮง ต.หอคำ อ.บึงกาฬ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของนักท่องเที่ยวที่รอชมอย่างคับคั่งตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่างพากันร้องตะโกนชี้ชวนให้ดูและตบมือดีใจที่ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติสมความตั้งใจ
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
ต่อมาเวลา 18.18 น. วินาทีที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง เมื่อลูกไฟสีแดงอมเหลืองได้พุ่งจากแม่น้ำโขงลูกแรกที่บ้านตาลชุม ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี ท่ามกลางเสียงฮือฮาของนักท่องเที่ยว จากนั้นก็ทยอยขึ้นให้เห็นอย่างต่อเนื่องและหลายจุด อาทิ บ้านหนองกุ้ง-หนองแก้ว ต.กุดบง อ.โพนพิสัย บ้านท่าม่วง ต.ท่าม่วง กิ่ง อ.รัตนวาปี บ้านภูเสด็จ ต.เหล่าต่างคำ อ.โพนพิสัย บ้านโพนแพง ต.โพนแพง กิ่ง อ.รัตนวาปี บ้านน้ำเป ต.รัตนวาปี กิ่ง อ.รัตนวาปี และที่แก่งอาฮง ต.หอคำ อ.บึงกาฬ ท่ามกลางเสียงโห่ร้องดีใจของนักท่องเที่ยวที่รอชมอย่างคับคั่งตลอดริมฝั่งแม่น้ำโขง ต่างพากันร้องตะโกนชี้ชวนให้ดูและตบมือดีใจที่ได้เห็นปรากฏการณ์ธรรมชาติสมความตั้งใจ
ที่มาจากหนังสือพิมพ์
Desktop Version
