พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 1


[ 14 ธ.ค. 2552 ] - [ 18260 ] LINE it!

พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 1
โครงการบวชพระหนึ่งแสนรูป
กระหึ่มกึกก้องพิสูจน์หัวใจชายแมนแมนทั้งแผ่นดิน
 
    เหลืออีกเพียงไม่กี่วันเท่านั้น ก็จะถึงช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อของการพลิกสถานการณ์ทางพระพุทธศาสนา กับคีย์แมนคนสำคัญ กองพันพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป บุคคลที่ประวัติศาสตร์ต้องจารึก ในการตัดสินใจครั้งยิ่งใหญ่ เพื่อสิ่งที่ดีที่สุดต่อตนเอง ครอบครัว ผืนแผ่นดินเกิด และพระพุทธศาสนา
 
    ขณะนี้ เราได้วีรบุรุษผู้กล้าแถวหน้า จำนวน 150ชีวิต1 ผู้พร้อมกอบกู้พระพุทธศาสนาอย่างเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ซึ่งส่วนใหญ่ คือ อดีตกองพลกองพันสถาปนา ที่หวนคืนสู่สมรภูมิ และบางส่วนของว่าที่พี่เลี้ยงแสนรูป คือ ทหารใหม่ หัวใจน่าบูชาที่ขออาสาเข้าร่วมภารกิจครั้งนี้ด้วย
 
 
1ยอด ณ วันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2552
 
    หนึ่งในทหารใหม่ ใจสั่งลุยครั้งนี้  ก็คือ กัลยาณมิตรธีระเดช อัครกุลจิรา อายุ 49ปี ประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัว ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ดับเพลิง เพิ่งเข้าวัดพระธรรมกายเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 โดยการชักชวนของเพื่อนซี้ซึ่งเป็นอดีตกองพลสถาปนา กัลยาณมิตรอิทธิพัทธ์ ลิ้มมงคลธรรม หรือ เฮียใหญ่ เพียงระยะเวลาสามสัปดาห์ของการเข้ามาศึกษาวัดพระธรรมกายอย่างจริงจัง และพิจารณาไตร่ตรองด้วยเหตุและผล ทำให้กัลยาณมิตรธีระเดชได้เข้าใจความจริงของชีวิต และค้นพบด้วยตนเองว่า ชีวิตของการเกิดมาเป็นชาย หากเราพลาดการมาเป็นพระพี่เลี้ยงแสนรูปครั้งนี้ ก็เท่ากับพลาดโอกาสทองครั้งสำคัญของชีวิต
 
    กัลยาณมิตรธีระเดชเล่าว่า “ผมรู้จักชื่อวัดพระธรรมกายมาเป็นสิบปีแล้ว แต่ข้อมูลจากสื่อต่างๆ ทำให้ผมเฉยเมยกับวัดพระธรรมกายมาตลอด จะว่าแอนตี้ก็ไม่ใช่ แต่ไม่อยากยุ่งมากกว่า โชคดีมีเพื่อนที่ขยันชวนมาวัดตลอด ผมก็ขยันผัดผ่อนมาหลายปี เขาก็ยังไม่เลิกรา จนวันหนึ่ง เพื่อนผม..คุณใหญ่...อิทธิพัทธ์ เขามาบวชที่วัด พอเขาสึก
 
ผมก็เลยถามว่า...เป็นไง มาบวชที่วัดธรรมกาย
เขาบอกว่า...ดีนะ บวชครั้งแรกในชีวิต ได้รู้ว่าพระแท้เป็นอย่างไร แล้วพระดีๆก็หายาก
 
    ตอนนั้น ผมก็เริ่มสะกิดใจแล้ว ก็เลยตัดสินใจลองมาวัดสักครั้งเมื่อวันอาทิตย์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ.2552 พอได้มาสัมผัสจริงก็ขนลุก โอ้โฮ...นี่หรือวัดที่เขาพากันต่อว่า มันไม่เห็นเป็นเหมือนที่เขาว่าเลย คนใส่ชุดชาวๆพากันมาเยอะแยะมากมาย ที่เขาบอกมาวัดนี้ต้องทำบุญเยอะๆ ผมก็เห็นเขาทำบุญกัน ไม่เห็นมีใครบังคับ จะทำเท่าไหร่ก็ได้ แถมคนแย่งกันทำบุญอีกต่างหาก แล้วผมก็ใช้สมองคิดตามหลักวิทยาศาสตร์ของผมว่า สิ่งอะไรก็ตามที่มันไม่ดี มันต้องค่อยๆหดตัวลง จากหมื่นมันต้องค่อยๆลดเหลือพันเหลือร้อย จนกระทั่งล่มสลายไปในที่สุด แต่การเติบโตของวัดพระธรรมกายกลับตรงกันข้าม จากร้อยขึ้นเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนแล้วก็จะเป็นล้าน ถ้าของเขาไม่ดีจริง มันจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้
 
    วันแรกที่ผมมาวัด ผมขนสื่อพวกแผ่นวีซีดีกลับออกไปเกือบ 20แผ่น ค่อยๆไปนั่งดูทีละแผ่น แล้วก็วิเคราะห์ด้วยตัวเอง ผมได้เห็นประวัติวัดพระธรรมกายจากจุดเริ่มต้นตั้งแต่ทุ่งนาฟ้าโล่ง ได้ศึกษาประวัติของพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ พระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณยายอาจารย์ มันเข้าใจแล้วก็ซาบซึ้งนะ รู้สึกอยากจะโดดมาเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของหมู่คณะทันที อาทิตย์ที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปปฏิบัติธรรมที่ World Peace ยิ่งทำให้เข้าใจอะไรๆมากขึ้น โดยเฉพาะโครงการบวชแสนรูปที่ต้องมีการบวชพระพี่เลี้ยงก่อน
 
    พอพระเดชพระคุณหลวงพ่อบอกว่า โครงการบวชพระพี่เลี้ยงมันเร่งด่วน ผมฮึดขึ้นมาเลย คิดว่า เราอยู่เฉยไม่ได้แล้วคราวนี้ เราต้องเอาตัวเรามาเป็นส่วนหนึ่ง ต้องมาช่วยพระเดชพระคุณหลวงพ่อให้ได้ ผมก็เลยตัดสินใจทันทีว่า ผมต้องเป็นพระพี่เลี้ยง เป็นบุคคลประวัติศาสตร์ของโลกให้ได้
 
    พอผมตัดสินใจบวช ผมก็ปลื้มมากๆ มันตื้นตันว่าเราได้ทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่และมีคุณค่าที่สุด ก็เลยอยากจะชักชวนให้มีคนมาบวชรุ่นแสนรูปกันเยอะๆ พอดีผมเป็นประธานหมู่บ้านวรารมย์ที่ผมอยู่ ผมก็เลยเอาโบรชัวร์ชวนบวชไปแจกราวๆ 600หลังคาเรือน แล้วก็ทำหน้าที่ชวนคนมาบวชแสนรูปด้วย ตอนนี้ชวนได้หนึ่งคนแล้ว ปลื้มใจมาก เพราะเป็นลูกชายของผมเอง ชื่อ นายชยพล อัครกุลจิรา เขาเพิ่งเรียนจบมหาวิทยาลัยรังสิต อยากจะไปต่อเมืองนอก ผมก็บอกว่า เรียนจบแล้วบวชให้พ่อให้แม่ก่อนแล้วกัน เรื่องเรียนต่อเดี๋ยวค่อยว่ากัน เดี๋ยวพ่อมาบวชก่อนแล้วจะช่วยดูแลเป็นพระพี่เลี้ยงให้ เขาก็โอเคทันที ไม่มีข้อแม้”
 
    กัลยาณมิตรธีระเดช ยังได้ฝากข้อความถึงคุณครูไม่ใหญ่ด้วยว่า “พระเดชพระคุณหลวงพ่อครับ ลูกอยากกราบขอประทานอภัยกับพระเดชพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูง ที่เคยมองพระเดชพระคุณหลวงพ่อในมุมที่ไม่ดี เพราะลูกไม่รู้ในเหตุและผล บัดนี้ลูกได้รู้ได้เข้าใจแล้ว จะขอใช้เวลาที่เหลืออยู่ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ ทำหน้าที่ช่วยพระเดชพระคุณหลวงพ่ออย่างสุดความสามารถครับ”
 
    ส่วนอีกราย คือ ทหารเก่าปัดฝุ่นใหม่ กัลยาณมิตรชัยนคร ดวงแก้ว อายุ 30ปี เจ้าของกิจการบ้านเช่าและอาสาสมัครแผนกธรรมวารี อดีตกองพลสถาปนา ทันทีที่ถูกเรียกตัวกลับสู่กองทัพ กัลยาณมิตรชัยนครก็น้อมรับภารกิจด้วยใจ และยังเกี่ยวก้อยชวนเพื่อนอดีตกองพันและกองพลสถาปนาอีกสองท่าน คือ กัลยาณมิตรสกนธ์ ฮะค่อม และ กัลยาณมิตรกฤษฎา ทองขาว มาร่วมก่อการดี เป็นว่าที่พระพี่เลี้ยงแสนรูปครั้งนี้ด้วย
 
    กัลยาณมิตรชัยนครเล่าว่า ตั้งแต่ช่วงที่มาบวชรุ่นกองพลสถาปนา พอได้ทราบข่าวโครงการบวชพระแสนรูปที่จะมีผ้าเหลืองเต็มผืนแผ่นดินไทย ก็มีความตั้งใจทันทีว่า บุญนี้ต้องเป็นของเรา จึงได้ลาสิกขา เพื่อกลับไปวางแผนเคลียร์กิจการหาคนดูแลแทน และเตรียมตัวมาเป็นพระพี่เลี้ยงแสนรูป จากประสบการณ์บวชคราวที่แล้ว ได้ค้นพบอย่างหนึ่งว่า ยิ่งเรามีความบริสุทธิ์มากเท่าไหร่ ผลการปฏิบัติธรรมก็จะยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น ช่วงที่อยู่ในเพศสมณะ ถือศีล 227ข้อ สามารถปฏิบัติธรรมได้ผลดีกว่าอยู่ข้างนอกมาก ใจนิ่ง ตรึกองค์พระได้ตลอด รู้สึกเลยว่าช่วงบวช กายและใจเราแช่อิ่มอยู่ในบุญ
 
    ยิ่งครั้งนี้ ได้มาเป็นพระพี่เลี้ยงด้วย นอกจากตัวเราจะได้บุญบวชแล้ว ยังได้บุญจากการทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรอีกด้วย สำหรับการบวชครั้งนี้ กัลยาณมิตรชัยนครบอกว่า อยากบวชอยู่ต่อจนถึงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ.2553 เพื่อเอาบุญบวชนี้ถวายเป็นของขวัญวันเกิดแด่พระเดชพระคุณหลวงพ่อ และอยากได้บุญในการหล่อองค์พระในช่วงที่ตัวเองอยู่ในเพศสมณะอันบริสุทธิ์
 
    กัลยาณมิตรชัยนครได้ฝากข้อความถึงชายแท้แมนๆทุกคนว่า เกิดเป็นลูกผู้ชายทั้งที ถ้ายังไม่เคยบวช ก็มาลองบวชดูสักครั้ง ถ้าจะบวชทั้งที อย่าบวชเลยแค่เจ็ดวันสิบวัน มาบวชกันเป็นล่ำเป็นสันดีกว่า จะได้มีเวลามาศึกษาแก่นแท้คำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ให้สมกับที่เราเกิดมาเป็นชาวพุทธ



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 2พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 2

พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 3พระพี่เลี้ยงสถาปนาแสนรูป ตอนที่ 3

บวชพระฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายบวชพระฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน