อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นพี่ พร้อมลุยเต็มที่ให้ได้หนึ่งต่อสิบ

 

        จากความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูจันทนิภากร ที่ส่งทีมงานลงมาช่วยกันลุยตามคนบวช ทำให้ศูนย์อบรมแห่งนี้ มีผู้มีบุญมาบวชถึง 120คน ทั้งสาวน้อย สาวใหญ่ไปจนถึงแม่อุ๊ย บางครอบครัวก็มากันเป็นทีม ทั้งคุณแม่อายุ 43ปี คุณลูกอายุ 12ปี และคุณยายอายุ 83ปี และต่างร่วมกันทำกิจกรรมทุกอย่างเหมือนอยู่ในวัยเดียวกัน ซึ่งต่างก็บอกว่า “ดีใจนักๆเจ้า รู้สึกว่าชีวิตนี้คุ้มค่าจริงๆ ที่ได้มาร่วมโครงการดีๆอย่างนี้ โครงการนี้มีแต่ได้กับได้ ทำให้เรามีสติมากขึ้น รู้จักคิดอย่างมีเหตุผล และที่สำคัญที่สุด คือ ได้รู้เรื่องกฎแห่งกรรม ถ้าใครพลาดโครงการรุ่น หนึ่งแสนคน ก็ยังมีโอกาสในรุ่นห้าแสนคนนะเจ้า เป็นแม่หญิงต้องมีธรรมะในการดำเนินชีวิต ชีวิตถึงจะราบรื่นและประสบความสำเร็จเจ้า”

 

        ในวันปิดการอบรม เหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนต่างเสียดาย และไม่อยากให้จบโครงการ รีบถามกันทันทีว่า เดือนหน้าจะจัดอีกไหม พอรู้ว่าจะมีโครงการรุ่น ห้าแสนคนต่อ ก็ขอใบโบว์ชัวร์และสื่อธรรมมาวุธ เพื่อไปทำหน้าที่ตามเพื่อนๆและหมู่ญาติให้มาบวชกันทันที โดยปวารณาว่าจะชวนคนมาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ห้าแสนคน ให้ได้อย่างน้อย หนึ่งต่อสิบ และจะชวนชายแมนแมนให้มาบวชรุ่นเข้าพรรษาให้ทะลุเป้าไปเลย ส่วนทางพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระครูจันทนิภากร ก็ยินดีสนับสนุนโครงการครั้งต่อไปอย่างเต็มที่ และสั่งให้ทำคัตเอาท์สำหรับโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว ห้าแสนคน ไปติดที่ทางเข้าวัดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

 

 

        บรรยากาศอีกแห่งหนึ่งที่คึกคักไม่แพ้กัน คือ ที่ศูนย์ปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติ วังสวนกล้วย บ้านนาล้อม จังหวัดสกลนคร ด้วยความเมตตาของพระครูสุวรรณศีลวงศ์(หลวงพ่อหงส์ อริยวํโส)ประธานศูนย์อบรมวังสวนกล้วย ที่ให้การสนับสนุนทุกโครงการของวัดพระธรรมกายในทุกๆด้าน

 

        เมื่อครั้งการอบรมโครงการบวชพระ หนึ่งแสนรูป ท่านก็ให้ทีมงานใช้สถานที่มาแล้ว ครั้งนั้นท่านปลื้มมาก ท่านบอกว่า “เราทำงานอบรมมาตั้งนาน คราวนี้บุญเราถึงแล้ว ที่จะได้ใช้สถานที่ทำการอบรม เพื่อทำการเผยแผ่พระพุทธศาสนาไปทั่วโลก”

 

        และหลังจากจบโครงการบวชพระ หนึ่งแสนรูป ความปลื้มยังไม่ทันจะจางหาย ทีมงานก็เข้าไปกราบเรียนขอใช้สถานที่ต่อในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งแสนคน แม้ในช่วงนั้นท่านจะยุ่งกับการจัดอบรมเยาวชนเป็นร้อยๆคน ท่านก็ไม่ปฏิเสธ แถมยังลงมือซ่อมแซมศาลาอีกหลังด้วยตัวเอง เพื่อให้ทีมงานใช้ในการอบรมโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนในทันที ไม่เพียงเท่านั้นยังให้ทีมงานลูกพระ-ลูกเณรที่มีอยู่ด้วยกันสามรูป นำทีมงานของวัดพระธรรมกายลงพื้นที่ไปประชาสัมพันธ์ตามหมู่บ้านต่างๆอีกด้วย หลวงพ่อหงษ์กล่าวว่า “ทุกโครงการของคุณครูไม่ใหญ่ หลวงพ่อพร้อมทุ่มเทอย่างเต็มที่ โครงการดีๆอย่างนี้มาถึงมือเราแล้วก็ต้องลุยให้สำเร็จ”

 

 

 

        ทีมงานจึงตะลุยกันไปทุกที่ทุกหมู่บ้าน และเพียงสามวันก็มียอดผู้เข้าอบรมมากมาย จาก 18หมู่บ้าน มากันหมดทั้งชาวไทย ชาวไทยอีสาน ชาวไทยโส้ และชนเผ่าย้อ รวมแล้วกว่า 150คน มากันหลายวัยตั้งแต่อายุ 14ไปจนถึง80_แต่ทุกคนก็ทำทุกกิจกรรมด้วยเบิกบาน ไม่ว่าจะเป็นการสวดมนต์ ฟังธรรมะ นั่งสมาธิ และพัฒนาวัด ส่วนเอกลักษณ์ที่น่าชื่นชมของที่นี่ คือ ไม่ว่าจะเดินไปทำกิจกรรมอะไรทุกคนจะต้องพนมมือไปด้วย เป็นกุศโลบายของหลวงพ่อหงษ์ ที่จะทำให้ทุกคนไม่เผลอสติเวลาเดิน จะทำให้มีสติมากขึ้น และทำให้จิตใจอ่อนโยนขึ้นอีกด้วย

 

 

 

        ทุกกิจกรรมที่จัดขึ้นในระหว่างการอบรม เป็นกิจกรรมขั้นเทพที่หล่อหลอมจิตใจของทุกคนให้ผ่องใส มีใจรักในพระพุทธศาสนา อุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนที่ผ่านการอบรมทุกคน ต่างก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า  “ปลื้มค่ะ”

 

 

 

        อย่างกัลยาณมิตรตุ้มทอง พุทธก้อม อายุ 28ปี ก็เปิดใจว่า “ก่อนเข้าอบรม ตุ้มเป็นคนใจร้อน พูดจาโผงผางไม่ค่อยคิด ที่บ้านตุ้มติดจานดาวธรรมด้วยนะคะ แต่ตอนแรกไม่รู้เลยว่าเป็นของวัดพระธรรมกาย เห็นหลวงพ่อสอนทางช่องนี้ทุกวันก็ไม่รู้ว่าหลวงพ่อเป็นใคร รู้แต่ว่าชอบฟังหลวงพ่อสอนมากๆ หลวงพ่อสอนดีทุกอย่าง พูดไปก็ยิ้มไป เห็นแล้วสบายใจจริงๆค่ะ ตุ้มมาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน เพราะมีเรื่องทุกข์ใจ คิดว่าจะมาหาความสงบ แต่พอมาบวชแล้วกลับได้เรียนรู้อะไรดีๆมากมายเกินกว่าที่คิดไว้

 

        โครงการนี้ทำให้ตุ้มได้ชีวิตใหม่ และมีธรรมะเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต พอกลับไปบ้านก็จัดการปฏิวัติตัวเองทุกอย่าง ตุ้มพูดเพราะขึ้น ทำอะไรก็นุ่มนวลและมีระเบียบมากขึ้น และยังทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ ทั้งขัดห้องน้ำ จัดข้าวของให้เข้าที่เข้าทาง จนคุณพ่ออ้าปากค้างเลยค่ะ แม้ตุ้มจะเป็นผู้นำบุญมือใหม่แต่ก็ออกปฏิบัติการทำหน้าที่ชวนสาวๆในหมู่บ้าน ให้มาบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นห้าแสนคน ในทันทีเลยนะคะ ตอนนี้ชวนได้ห้าคนแล้วคะ และจะชวนต่อให้ทะลุเป้าสิบคนไปเลย ตุ้มอยากให้ทุกคนได้พบกับสิ่งดีๆจึงชวนเพื่อนบ้านให้มาดูดีเอ็มซีที่บ้านทุกวันอีกด้วยค่ะ”

 

        ทางด้านอาจารย์ดาราภรณ์ พิทักษ์ คุณครูผู้ให้แสงสว่างที่นำนักเรียนมาเข้าร่วมโครงการกว่า 40คน ก็บอกว่า “ลูกขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเป็นอย่างสูง โครงการนี้ดีมากๆ เด็กๆที่มาเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีกันทุกคน มีสัมมาคารวะ มีความเข้าใจในเรื่องกฎแห่งกรรม และไม่ใช่แต่เด็กๆที่เปลี่ยนไป ตัวลูกก็เช่นเดียวกัน ขอสารภาพตามตรงค่ะว่า ตอนแรกแอนตี้วัดพระธรรมกายสุดๆ เพราะเชื่อตามข่าวลือ และคิดแต่ว่าวัดอะไรสร้างแต่ใหญ่ๆโตๆ ขนาดญาติๆเพื่อนๆชวนให้มาวัดก็ไม่เคยมา แถมยังห้ามพวกเขาไม่ให้มาอีกด้วย

 

 

        แต่พอมาเข้าโครงการนี้แล้ว และจะต้องตามมาดูแลเด็กๆตอนรับผ้าสไบแก้ว ถึงได้รู้ว่าวัดนี้สร้างใหญ่ทำไม และหลวงพ่อกับหมู่คณะกำลังทำอะไร โอ...หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกกราบขออภัยด้วยเจ้าค่ะที่คิดไปอย่างนั้น ต่อไปนี้ถ้าหลวงพ่อมีโครงการอะไร ลูกจะช่วยขยายโครงการของหลวงพ่ออย่างเต็มที่เลย และในรุ่นห้าแสนคนก็จะพานักเรียนที่กำลังจะจบชั้นมัธยมมาอบรมกันเยอะๆ เด็กๆจะได้มีธรรมะนำทางชีวิตค่ะ"

 

 

 

        นอกจากนี้ ทางวัดวังสวนกล้วยยังได้รับคัดเลือกให้เป็นสำนักปฏิบัติธรรมดีเด่นของจังหวัดสกลนคร ไปร่วมแสดงนิทรรศการพระพุทธศาสนาโลก ในวันวิสาขบูชา ที่เมืองทองธานี กรุงเทพฯ หลวงพ่อหงษ์ก็จะได้นำทุกๆโครงการที่ทำเพื่อพระพุทธศาสนา และโครงการบวชพระ หนึ่งแสนรูป  และโครงการบวชอุบาสิกาแก้ว หนึ่งแสนคน ไปจัดแสดงให้คนภายนอกได้รับรู้ให้สะเทือนวงการพระพุทธศาสนาไปเลย