ลูกๆสระบุรี ลุยทำหน้าที่สะบั้นหั่นแหลกเลย

        การชักชวนชายจริงหญิงแท้ ให้มาบวชในโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ห้าแสนคน และโครงการบวชพระรุ่นเข้าพรรษา เป็นภารกิจด่วนจี๋ที่กำลังฮอทฮิตติดกระแสในทุกพื้นที่ อย่างที่จังหวัดสระบุรี ก็เริ่มสตาร์ทออกทำหน้าที่แบบทูอินวันกันแล้ว ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14_มีนาคม พ.ศ.2553_โดยทีมงานได้จัดให้มีการสัมมนาในวาระพิเศษ ซึ่งมีอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน 700กว่าคน จากทั้ง 12ศูนย์อบรม พร้อมใจกันมาร่วมฟังการสัมมนา และยังได้รับเกียรติจากวิทยากรคนดัง คือ เรือเอกชินวัตร น้อยวรรณ อดีตนักรบแห่งกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่มาบวชในรุ่นเจ็ดพันตำบล มากล่าวถึงสถานการณ์ภัยร้ายที่กำลังคุกคามพระพุทธศาสนา เมื่อฉายภาพอดีตเมืองพุทธ ก็ทำให้เหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนถึงกับหลั่งน้ำตา วิทยากรยังพูดปิดท้ายอีกว่า “การบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนนั้นสำคัญมาก สุภาพสตรีทั้งหลายที่นั่งอยู่ตรงนี้เป็นบุคคลสำคัญที่จะกอบกู้พระพุทธศาสนาให้เจริญรุ่งเรืองมั่นคง ทุกท่านเป็นมหาอุบาสิกาที่จะทำหน้าที่เป็นกัลยาณมิตรนำแสงสว่างไปสู่หัวใจของชาวโลกได้อย่างแท้จริง อย่างตัวผมเองถ้าไม่ได้มาพบกับอุบาสิกาข้างกายก็คงจะไม่มีโอกาสได้พบกับแสงสว่างในชีวิตอย่างนี้แน่นอน”         ในช่วงท้ายของการสัมมนา ก็เบิกบานในบุญกันสุดๆ เมื่อพระเดชพระคุณพระธรรมปิฎก(เจ้าคณะจังหวัดสระบุรี)ได้ขึ้นมาให้โอวาท และมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ยอดทหารหญิงที่ออกทำหน้าที่ในรุ่นหนึ่งแสนคนที่ผ่านมา แล้วท่านยังทิ้งท้ายให้ทุกคนออกไปทำหน้าที่ในรุ่นห้าแสนคนให้เต็มที่อีกด้วย โดยคราวหน้า ท่านก็จะมอบใบประกาศเกียรติคุณเป็นแรงใจให้กับผู้ที่ทำหน้าที่ได้ในระดับต่างๆ ดังนี้ หากชวนคนมาบวชได้ 12-23คน จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณระดับเงิน หากชวนได้ 24-35คน จะได้รับใบประกาศเกียรติคุณระดับทอง และถ้าชวนได้ตั้งแต่ 35คนขึ้นไป จะมอบใบประกาศเกียรติคุณระดับเพชร ทำให้ยอดหญิงทุกคนตื่นตัวขึ้นมาในทันที เพราะถ้าใครได้รับใบประกาศจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อพระธรรมปิฎก จะถือเป็นมงคลกับชีวิตและวงศ์ตระกูลเป็นอย่างสูง ทุกคนจึงตั้งใจที่จะกลับไปทำหน้าที่ให้ได้ในระดับเพชรอย่างไม่มีข้อแม้และเงื่อนไข         บรรยากาศการสัมมนาในวันนั้นทำให้ยอดหญิงมีความฮึกเหิม และเมื่อออกทำหน้าที่ต่างก็งัดกลยุทธ์เด็ดๆขึ้นมาใช้ในทันที ที่ศูนย์วัดมหาโลก ก็ทำสถิติพุ่งกระฉูดอย่างน่าอัศจรรย์ เพียงแค่ออกทำหน้าที่ในวันแรกก็ได้ผู้สมัครทันทีถึง 44คน และใน 44คนก็ยังพร้อมใจขอใบโบร์ชัวร์และใบสมัครเพิ่มเติม เพื่อจะไปช่วยตามหมู่ญาติให้มาบวชในรุ่นนี้อีกด้วย         อุบาสิกาแก้ววรัชยา องค์กระจ่าง บอกว่า “งานนี้พี่ควงคู่เทพบุตรข้างกายที่เพิ่งจะผ่านการบวชในรุ่นกองพลหนึ่งแสนรูป ออกไปทำหน้าที่ด้วยกันเป็นทีม เราทั้งสองคนไปบวชมาแล้วถึงได้รู้ว่าโครงการนี้ดีมากๆ ออกมาเหมือนได้ชีวิตใหม่ และครอบครัวก็อบอุ่นขึ้นอีกด้วย จึงอยากที่จะได้บุญในการชวนคนบวช การชวนก็ง่ายมากค่ะ ถ้าเจอผู้ชายก็ชวนบวชรุ่นเข้าพรรษา ถ้าเจอผู้หญิงก็ชวนให้บวชอุบาสิกาแก้วห้าแสนคน ทำหน้าที่กันตั้งแต่เช้าจรดค่ำ ตอนนี้ชวนผู้หญิงให้มาบวชได้แล้ว 26คน พี่จะชวนไปเรื่อยๆ จะทำให้ได้ในระดับเพชรค่ะ”         ส่วนการทำหน้าที่แบบทูอินวันของชาวอำเภอแก่งคอย ก็มาแรงไม่แพ้กัน เมื่อผู้นำบุญในพื้นที่และเหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นพี่ ตะลุยทำหน้าที่กันเป็นทีม ที่นี่เขาแบ่งการลงพื้นที่และกระจายตัวทำหน้าที่แบบยกตำบล ทั้งเข้าพบผู้หลักผู้ใหญ่ในส่วนงานราชการเพื่อขอให้ช่วยทำการประชาสัมพันธ์ แล้วยังเข้าไปตามบ้านเพื่อขออธิบายโครงการกันตัวต่อตัว         คุณป้าลาวัลย์ โฉมศรี อายุ 84ปี หน่ออ่อนรุ่นพี่ที่เต็มไปด้วยอารมณ์ขันก็บอกว่า “เวลาป้าจะชวนใคร ป้าจะอธิบายเป็นฉากๆให้เขาเห็นภาพว่า การมาบวชในโครงการนี้มันดีอย่างไร แล้วประโยคเด็ดที่พูดไปแล้วทุกคนจะต้องหยุดฟัง คือ ถ้าเรามาบวช เราจะเป็นคนมีศีล แล้วศีลก็เป็นทางมาของโภคทรัพย์สมบัติ ศีลเป็นทางไปสวรรค์ ศีลเป็นทางไปสู่นิพพาน ถ้าคุณมีศีลก็จะได้มีเสน่ห์เหมือนอย่างป้าไง”         ชาวแก่งคอยออกทำหน้าที่กันทุกวัน จนยอดสมัครทะลุทะลวงไปที่ 200คนกันแล้ว แถมยังบอกว่า “เป้าหมาย 500คนนั้นเรื่องจิ๊บๆ ขอเพียงทำให้คุณครูไม่ใหญ่ปลื้มใจ ชาวแก่งคอยพร้อมลุยค่ะ”         ที่อำเภอมวกเหล็กก็ตื่นตัวไม่แพ้กัน ทีมงานพากันไปทุกที่ และไม่ว่าจะเจอใครเป็นต้องชวนบวช จนได้ยอดชายมาสมัครในรุ่นเข้าพรรษาแล้วเกือบสิบคน ส่วนยอดสตรีผู้มีบุญก็มาสมัครเข้าโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนแล้ว 60กว่าคน การทำหน้าที่ของลูกพระธัมฯอำเภอวังม่วง ก็เจ๋งสุดๆ แม้ส่วนใหญ่จะเป็นผู้นำบุญมือใหม่ และเพิ่งจะเคยทำหน้าที่กันครั้งแรก ก็ไม่หวั่น เมื่อได้แรงกายแรงใจจากอดีตนายอำเภอมวกเหล็กผู้กว้างขวาง นายสมชาติ วัฒนศรี อดีตกองพลหนึ่งแสนรูป ที่ลุยทำหน้าที่ไปพร้อมๆกับทีมงาน จึงทำให้มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการทะลุ 100คน ไปแล้ว         อุบาสิกาแก้วตัวแทนวัดเขามันธรรมาราม ก็เปิดเผยความในใจว่า “พี่ได้ใบโบร์ชัวร์ตอนไปเดินซื้อของที่ห้างทวีกิจ เห็นปุ๊บก็อยากบวชทันที โครงการนี้ทำให้พี่เป็นคนที่มีระเบียบวินัยมากขึ้น ได้ฟังธรรมะ ได้นั่งสมาธิ แบบว่าเป็นอะไรที่ทั้งดี และโดนแบบจังๆ แต่ก่อนเคยคิดว่าพระพุทธศาสนานั้นเฉื่อยชา ล้าสมัย แต่พอมาบวชในโครงการนี้แล้วถึงได้รู้ว่า พระพุทธศาสนาเป็นเรื่องล้ำสมัยและมีความจำเป็นต่อการดำเนินชีวิตของคนเราเป็นอย่างมาก พอกลับไปบ้านเทพบุตรข้างกายเห็นพี่เปลี่ยนไปแบบดีขึ้น ถึงกับขอสมัครบวชในรุ่นเข้าพรรษาในทันที พี่อยากให้ทุกคนมาบวชโดยเฉพาะเด็กวัยรุ่น จะได้มีหลักในดำเนินชีวิต ขอบอกว่าโครงการนี้ดีจริงๆค่ะ”         ส่วน อบต.ตัวอย่างที่น่ายกย่อง คือ องค์การบริหารส่วนตำบลดาวเรือง งานนี้ท่านนายกอบต.ออกแถลงการณ์ชวนคนบวชด้วยตัวเอง แถมยังเปิดไฟเขียวให้ลูกน้องในสังกัดมาบวชได้ด้วย โดยให้ถือเป็นการมาปฏิบัติหน้าที่ฟื้นฟูศีลธรรมคุณธรรมจริยธรรม แล้วถ้าใครไม่มีชุดขาวก็ยินดีร่วมบุญค่าชุด และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็เพิ่งเปิดการประชุมโครงการบวชแบบทูอินวันไปแบบสดๆร้อนๆ งานนี้คัดเอาผู้นำชุมชนในระดับหัวกะทิมาร่วมฟัง ซึ่งก็ได้ผลเกินคาด เพราะมีแกนนำชุมชนยกมือสมัครบวชเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนกันหลายคน และทุกคนก็บอกว่า จะช่วยไปตามคนมาบวชอีกแรงด้วย         ชาวสระบุรีทุ่มเทสุดหัวใจ ทำหน้าที่แบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน ถ้าพระอาทิตย์ไม่ตกดินก็จะไม่ยอมหยุดพัก จนตอนนี้ได้ยอดสมัครถล่มทลายเฉียด 1,000คนแล้ว ส่วนจังหวัดไหนจะไล่ตามมาติดๆก็ต้องฟิตกันหน่อย หรือจะเอากลยุทธ์ไปใช้ก็ได้ไม่ว่ากัน ถ้าลูกพระธัมฯรวมใจ ห้าแสนคน...ชิตังเมแน่นอน