อำนาจเจริญสว่างโชติช่วงทุกชุมชน

 

        แต่ที่เด็ดสุดๆ และได้ผลเกินคาด คือ การบุกตะลุยไปถึงสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยทีมงานกระจายตัวเดินแจกใบโบร์ชัวร์ให้ผู้หลักผู้ใหญ่ตามโต๊ะทำงานกันแบบตัวต่อตัว และอธิบายโครงการกันถึงที่ จนทุกท่านหายข้องใจ ต่างก็ให้ความสนใจ และตอบรับโครงการเป็นอย่างดี

 

 

 

        โดยเฉพาะ นายวัชรพงศ์ สุขรักษา ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอำนาจเจริญ กล่าวว่า “โครงการของวัดพระธรรมกายในครั้งนี้ จะเป็นแรงกระเพื่อมกระตุ้นให้สังคมไทยหันมาส่งเสริมให้เยาวชนหญิงได้ศึกษาธรรมะ ผมว่าถ้าเยาวชนหญิงทุกคนได้ไปร่วมในโครงการนี้ จะกลับออกมาเป็นเยาวชนน้ำดีต้นบุญต้นแบบของสังคม เด็กๆจะได้รู้ว่าแท้จริงแล้วธรรมะไม่ใช่ของยาก ธรรมะเป็นสิ่งที่น่าศึกษา และธรรมะจำเป็นต่อการดำเนินชีวิต ผมขอมีส่วนร่วมสนับสนุนโครงการนี้อย่างเต็มที่

 

        โดยขั้นแรก จะช่วยทำการชี้แจงไปยังผู้อำนวยการโรงเรียนทุกโรงเรียนในจังหวัด ให้ทุกท่านร่วมสนับสนุนทำการประชาสัมพันธ์เชิญชวน และส่งเสริมให้เด็กหญิงอายุ 15ปีขึ้นไป เข้าร่วมการอบรม จะได้ใช้เวลาในช่วงปิดเทอมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผมเชื่อว่าการเป็นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนนั้น จะช่วยดึงคนรุ่นใหม่ให้หันมาใส่ใจในพระพุทธศาสนา การบวชในครั้งนี้จะเกิดประโยชน์ทั้งกับตัวผู้บวชเอง สังคมและประเทศชาติ เหมือนคลื่นความดีที่กระจายตัวออกไปเรื่อยๆ และไม่เพียงแต่คุณครูจะสนับสนุนให้เด็กๆมาบวชเท่านั้น ผู้ปกครองเองก็ควรช่วยกันสนับสนุนด้วยครับ”

 

 

 

        ทางด้าน ดร.แสงรุนีย์ มีพร(หัวหน้ากลุ่มนิเทศติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา)กล่าวว่า “เป็นจังหวะดีของประเทศไทยค่ะ ที่มีโครงการนี้เข้ามา โดยหน้าที่แล้วดิฉันรับผิดชอบด้านวิชาการ ดูแลพัฒนาเด็กให้มีคุณภาพ ภายใต้คุณธรรมนำความรู้ ซึ่งโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ได้ช่วยสนับสนุนโครงการคุณธรรมนำความรู้นี้โดยตรง ดิฉันคิดว่าถ้าให้แต่ละเขตการศึกษาที่มีหน้าที่ด้านคุณธรรมโดยตรงลงไปทำโครงการเอง ก็อาจจะไม่สามารถทำได้ดีเท่ากับโครงการนี้

 

        สิ่งที่เด็กๆจะได้รับ เป็นเหมือนการเรียนนอกสถานที่แบบภาคปฏิบัติ พวกเขาจะได้เห็นขั้นตอนของการนำธรรมะมาใช้ได้จริงในชีวิต เพราะการเรียนในห้องเรียนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแต่ในแนวคิดทฤษฎีเท่านั้น โครงการนี้เป็นสิ่งที่ดีงามที่สุด แล้วบวชทีเดียวตั้งห้าแสนคนทั่วประเทศ เป็นสิ่งที่เราควรภาคภูมิใจและร่วมสนับสนุน แล้ว 15วันก็เป็นระยะเวลาที่เหมาะสมมากๆ ที่ทุกคนจะได้เรียนรู้และซึมซับสิ่งดีๆออกมาใช้ในชีวิต โครงการนี้เป็นโครงการที่ช่วยส่งเสริมเรื่องความรู้คู่คุณธรรมอย่างแท้จริงค่ะ”

 

 

 

        ไม่เพียงเท่านั้น ทีมงานยังได้ตะลุยไปถึงสำนักงานเทศบาลเมืองอำนาจเจริญอีกด้วย งานนี้ท่านนายกศักดิ์ชัย ตันตระกูลวงศ์(นายกเทศมนตรีเมืองอำนาจเจริญ)ที่ขอเอาบุญใหญ่ในทุกโครงการ ตั้งแต่การบวชพระ จนถึงโครงการอุบาสิกาแก้ว ห้าแสนคน ท่านร่วมสนับสนุนอย่างเต็มที่ ด้วยการให้ทำประชาสัมพันธ์ตัววิ่งชวนบวชตามสี่แยกไฟแดงทุกแยก และติดป้ายไวนิลทั้งสองข้างของรถเทศบาล วิ่งประชาสัมพันธ์ไปตามตลาดและชุมชนรอบเมือง ไม่เพียงเท่านั้นท่านยังนำสปอตโครงการหน่ออ่อน ห้าแสนคน ไปให้วิทยุกระจายเสียงที่อยู่ในความดูแลของท่าน ออกโฆษณาในรายการต่างๆทุกต้นชั่วโมง แถมยังให้พนักงานในเทศบาลไปบวชได้โดยไม่ถือเป็นวันลาอีกด้วย

 

        ท่านทิ้งท้ายว่า “ถ้ามีปัญหาอะไร แล้วจะให้ผมช่วยก็บอกได้เลย โครงการดีๆอย่างนี้ ผมสนับสนุนเต็มที่ครับ” และงานนี้ยอดสตรีผู้มีบุญ เลขาหน้าห้องของท่านนายกฯ ก็สมัครใจบวชเป็นหนึ่งในห้าแสนคน เป็นคนแรกของเทศบาลเมืองเรียบร้อยแล้ว

 

        ทีมงานชาวอำนาจเจริญ เขาตะลุยไปกันทุกที่จริงๆ เพราะขนาดโรงเรียนกวดวิชาก็ไม่เว้น เมื่อได้รับอนุญาตจากเจ้าของโรงเรียนกวดวิชา คิงแมทส์ ผู้ใจบุญ ทีมงานก็ลุยเปิดสื่อและแจกโบร์ชัวร์ชวนบวชกันทันที งานนี้โมติเวทกันอย่างเข้มข้นยิ่งกว่าการกวดวิชา จนทำให้เด็กๆตื่นตัวกันมาก ขอใบสมัครทั้งสำหรับตนเองและจะเอาไปฝากคนที่บ้านอีกด้วย

 

 

 

        นอกจากการลงพื้นที่ ทำการชวนคนบวชแล้ว ทีมงานยังมีกลวิธีเด็ด ด้วยการฟอร์มทีมยอดหญิงนักพูดผู้มีวาทศิลป์ ไปจัดรายการพิเศษประชาสัมพันธ์โครงการบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ห้าแสนคน ในรายการวิทยุ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จากสถานีวิทยุพระพุทธศาสนา ประจำจังหวัดอำนาจเจริญ เอฟเอ็ม89.75เมกกะเฮิร์ซ ที่ให้เวลาในการออกอากาศสด สำหรับประชาสัมพันธ์โครงการหน่ออ่อน ห้าแสนคนเต็มที่หนึ่งชั่วโมง ในทุกวันอาทิตย์ ดีเจจำเป็นที่เก็บทุกบุญ จึงได้มาเอาบุญด้วยการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ และสิ่งดีๆที่ได้รับในการบวช และเปิดเพลงคั่นรายการอย่างสนุกสนานบุญบันเทิง ในขณะที่ทำรายการก็มีคุณผู้ฟังโทรศัพท์เข้ามาถามรายละเอียดหลังไมค์แบบสดๆกันหลายสาย ทำเอาทีมงานดีเจเบิกบานกันสุดฤทธิ์

 

 

 

        คุณหมอสว่างจิต พงษ์ประเสริฐ(แพทย์แผนไทยประยุกต์)เป็นคนหนึ่งที่ได้รับความสุข จากการอบรมในโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน หนึ่งแสนคน กล่าวว่า “พี่อยากขอบคุณทุกคนที่จัดโครงการนี้ขึ้นมา การได้ไปบวชในโครงการนี้ ทำให้พี่มีความสุขมากๆ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุ 50กว่าปี ยังไม่เคยมีความสุขแบบนี้เลย เป็นความสุขภายในที่ได้จากการนั่งสมาธิ เพราะมีแต่ความโปร่งใส สุขใจอย่างที่สุด ถ้าไม่ได้มาอบรมในโครงการนี้ ก็คงจะไม่ได้พบกับความสุขที่แท้จริง พอกลับมา พี่ก็อยากจะถ่ายทอดความสุขแบบนี้ให้กับทุกคน

 

        เวลามีคนไข้มารักษาที่คลินิก พี่ก็จะตรวจโรคไปด้วย พูดคุยเรื่องสุขภาพไปด้วย จ่ายยาไปด้วย และจะแถมท้ายด้วยการสอนวิธีการนั่งสมาธิ และเชิญชวนคนไข้พร้อมญาติๆให้ไปบวชในโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ห้าแสนคน แล้วไม่ว่าจะไปประชุมที่ไหน พอพูดเรื่องงานเสร็จ พี่ก็จะขอต่อท้ายด้วยการถ่ายทอดสิ่งดีๆที่ได้รับจากการไปบวช และชวนทุกคนให้มาบวช ทั้งในโครงการอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน ห้าแสนคน และโครงการบวชพระ รุ่นเข้าพรรษา พี่อยากให้ทุกคนได้พบกับความสุขแบบพี่ค่ะ”