ผลการปฏิบัติธรรมของพระมหาเถระจากประเทศเกาหลี

 

 

 

        ในช่วงแรกได้นั่งสมาธิกับ พระอาจารย์ยงยุทธ โดยพระอาจารย์ได้ให้อาตมานั่งหลับตาทำสมาธิด้วยตัวเอง ไม่มีการแนะนำวิธีการนั่งสมาธิแต่อย่างใด ผลปรากฏว่าอาตมารู้สึกเกร็งและปวดเมื่อยไปทั้งตัว พระอาจารย์ยงยุทธเห็นดังนั้น ท่านจึงเริ่มสอนวิธีการปรับท่านั่งและการวางใจ จึงทำให้อาตมามีความผ่อนคลายมากขึ้น หลังจากนั้น พระอาจารย์สุธรรม ได้มาแนะนำการนั่งสมาธิ โดยท่านให้หลักไว้ดังนี้ คือ

 

1.ทำง่ายๆ

2.ทำสบายๆ

3.ทำใจเย็นๆ

 

        ส่งผลให้การปฏิบัติธรรมในรอบต่อๆมาเริ่มดีขึ้น อาตมามีความเข้าใจเกี่ยวกับการปรับร่างกายและปรับใจ ที่สำคัญอาตมาก็ไม่ทิ้งเรื่องกิจวัตรกิจกรรมของภิกษุสงฆ์ ซึ่งอาตมาจะปฏิบัติด้วยความตั้งใจและมีความสุข ในแต่ละวัน...อาตมาจะตื่นนอนตั้งแต่ตีสี่ สวดมนต์ นั่งสมาธิ เวลาหกโมงเช้าก็ได้ออกเดินบิณฑบาต และปฏิบัติธรรมทั้งรอบสาย รอบบ่าย และหัวค่ำ หลังจากนั้นก็ศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา อาตมาได้ทำกิจวัตรกิจกรรมดังกล่าว ติดต่อกันมาเป็นเวลาเจ็ดวัน และมีโอกาสนั่งสมาธิ โดยมี พระอาจารย์นพดล มานำนั่งเป็นภาษาเกาหลี ทำให้อาตมาเข้าใจโดยไม่ต้องใช้ล่ามแปล

 

 

 

 

 

        พระอาจารย์ได้สอนวิธีการปรับใจ เพื่อนำใจเข้าสู่ความสงบ...สบาย...ความผ่อนคลายได้ จนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี คือ เห็นภาพตัวเองในนิมิต ตัวอาตมาในภาพนั้นหล่อมาก จนอาตมาต้องรำพึงออกมาว่า...ฉันเห็นตัวเองรูปหล่อมาก...ฉันหล่อมากและมีแสงสว่าง ในรอบต่อๆมา อาตมาได้เล่าประสบการณ์ภายในให้พระอาจารย์ฟังอีกว่า...วันนี้จิตฉันเงียบสงบ ได้เข้ากลางไปเรื่อยๆ ปรากฏว่ามันมีอันตรายอย่างหนึ่งเกิดขึ้นกับตัวฉัน คือ นั่งแล้วตัวเอียง โดนดูด วูบเข้าไปข้างใน ฉันตกใจมาก ตัวฉันโดนดูด จนตัวเอียงเลย เมื่อพระอาจารย์ได้ฟัง ท่านก็รีบบอกว่า “ไม่มีอันตรายหรอกครับหลวงตา หลวงตานั่งได้ดีแล้ว ทำต่อไปเถิดครับ”

 

 

 

        วันต่อมา อาตมาสามารถเข้ากลางได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ปวดเมื่อยตามร่างกายอีกแล้ว จนอาตมาถึงกับรำพึงออกมาว่า เดี๋ยวนี้...อาตมาเกร็งไม่เป็นแล้ว ไม่ปวดเมื่อยร่างกายเลย อาตมามีความสุขทุกวัน ไม่อยากกลับเกาหลีเลย...อยู่ที่นี่ดีจริงๆ ทุกวันอาตมาจะเจริญอาหารมาก อาตมาชอบฉันทุเรียน และที่วัดกิ่วลมก็มีทุเรียนให้ฉันทุกวันเลย อากาศก็ดีมาก ไม่ร้อนไม่หนาวเกินไป เมื่อเทียบกับอากาศที่เกาหลีซึ่งหนาวมาก

 

 

 

        ลูกศิษย์ของอาตมาที่เกาหลีจำนวนมาก ต่างพากันเป็นห่วงในเรื่องสุขภาพ เพราะอาตมามีปัญหาเรื่องความดัน และหัวใจเต้นช้ามากจนหมอตกใจ ลูกศิษย์เหล่านั้นไม่อยากให้อยู่เมืองไทยนานๆ เนื่องด้วยอากาศที่ร้อนของเมืองไทย แต่พออาตมาสังเกตตัวเองแล้ว สุขภาพกลับดีขึ้นกว่าเดิม อาตมาได้กล่าวกับลูกศิษย์เหล่านั้นไปว่า “ฉันแข็งแรงกว่าเดิม นี่เห็นไหม”

 

        แล้วก็ยกมือทั้งสองข้างขึ้น หมุนๆๆเป็นวงกลม โชว์ให้คณะอาจารย์และผู้ติดตามดู จนพวกเขาต้องปรบมือให้กันใหญ่ เมื่อเห็นว่าตอนนี้อาตมาแข็งแรงจริงๆตามที่ว่าไว้ และอาตมาได้กล่าวต่อไปอีกว่า “ฉันไม่ตายหรอก ฉันมีความสุข ยังไม่อยากกลับเกาหลีเลย มีความสุขจริงๆ”

 

        อาตมายอมเลื่อนตั๋วเครื่องบินหลายครั้ง จนหมดเวลาเลื่อน สุดท้าย...อาตมาต้องใช้ตั๋วเครื่องบินใบใหม่ เพื่อขออยู่ต่ออีกสองสัปดาห์ครับ ส่วนผลการปฏิบัติธรรมของเพื่อนสหธรรมิกนั้น ท่านจะมาเล่าด้วยตัวเอง ดังนี้...

 

        กราบนมัสการครับ...ผมชื่อ แพกุนซือนิม อายุ 65ปี เป็นพระนิกายมหายานครับ ผมมีอัธยาศัยที่สามารถปรับตัวเข้ากับผู้อื่นได้ง่าย และทำความสนิทสนมกันได้เร็ว เมื่อผมมีโอกาสมาปฏิบัติธรรมที่วัดกิ่วลม ผมก็สามารถทำตามที่พระอาจารย์ทุกท่านแนะนำได้อย่างง่ายๆ การมาปฏิบัติธรรมครั้งนี้ ผมสนใจจะมาเพื่อฝึกสมาธิและเรียนรู้การเป็นพระในนิกายเถรวาท

 

 

 

        การนั่งสมาธิในสอง-สามวันแรกนั้น ผมรู้สึกปวดเมื่อย แต่จิตใจยังมีความสุข ต่อมาเมื่อพระอาจารย์ได้ผลัดเปลี่ยนกันมานำปฏิบัติธรรม ผมก็สามารถปรับกายปรับใจได้เป็นลำดับๆ จนวันหนึ่ง ผมรู้สึกว่า วันนี้เริ่มต้นที่ใจสบาย ร่างกายก็สบายมาก ทั้งกายและใจมีความสุขมาก มีความสบายอย่างต่อเนื่อง ผมเห็นแสงสีทองไปทั่วบริเวณ ทั้งคนและสิ่งของเปลี่ยนเป็นสีทองทั้งหมด ทำให้ผมมีความสุขมาก เพราะรอบตัวผมมีแต่สีทองที่งดงามมาก

 

        ในรอบต่อๆมา ผมก็มีผลการปฏิบัติธรรมที่ดีขึ้น คือ นั่งสมาธิได้นิ่งและนาน ทุกสิ่งทุกอย่างที่มีอยู่ในใจรู้สึกงดงาม เสียดายอารมณ์ที่อยู่ข้างใน ไม่อยากออกมาจากสมาธิสู่ภายนอกเลย ต้องขอขอบคุณทุกๆสิ่ง ที่ทำให้ผมได้มาพบความสุขเช่นนี้ ถึงแม้อยู่มาจนอายุมากแล้วก็ไม่เสียดายชีวิตเลยที่ได้มาพบความสุขแบบนี้ เดี๋ยวนี้มีความสุขทุกวัน ขอบคุณจริงๆ และผมอยากช่วยหลวงพ่อเผยแผ่วิชชาธรรมกายในประเทศเกาหลีครับ