ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่


[ 23 มิ.ย. 2553 ] - [ 18271 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ.2553 ช่วงที่ 1
 
 
 
ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่
โอกาสที่ดีที่สุดของชีวิตลูกผู้ชายที่จะทดแทนพระคุณบิดา-มารดา บวชเข้าพรรษาปีนี้
บวชที่นี่ บวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สนใจบวช หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูง
 
        ลูกชื่อ กัลยาณมิตรนิธิชม กัญจนานนท์ ย้อนกลับไปเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน ตอนที่รู้ว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์ ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต้นดีใจมาก แต่เนื่องจากเป็นคุณแม่มือใหม่ จึงไม่มีความรู้อะไรเลยเกี่ยวกับการดูแลตนเองและลูกในครรภ์ ลูกจึงไปหาซื้อหนังสือมาอ่านหลายเล่ม ลูกโชคดีมากที่ไม่มีอาการแพ้ท้อง รับประทานอาหารได้ทุกอย่าง ตอนท้องมีเมนูสุดโปรด คือ ข้าวผัดหมูสับพริกขี้หนูใส่กระเทียมค่ะ และตอนท้องยังชอบทานฝรั่งสด และดื่มนมได้มากกว่าปกติอีกด้วย เพราะอยากให้ลูกในท้องได้คุณค่าทางอาหารอย่างเต็มที่ ตอนตั้งท้อง ลูกจะดูสวยเป็นพิเศษ จนใครๆก็ทักว่า “แม่ดูสวยขนาดนี้สงสัยจะได้ลูกผู้หญิงแน่นอนเลย” แต่ไม่รู้เป็นอย่างไรค่ะ ความรู้สึกข้างในมันบอกว่า “เป็นลูกผู้ชายต่างหาก”
 
        จากแต่ก่อนที่เคยสวดมนต์นั่งสมาธิเป็นบางวัน ก็หันมาสวดมนต์และนั่งสมาธิทุกวันไม่เคยขาด เพราะอยากให้ลูกในท้องได้บุญมากๆ พอท้องเริ่มโตเด็กก็จะดิ้นมากขึ้น เขาเอาท้องของแม่เป็นสนามฟุตบอลค่ะ เพราะเดี๋ยวก็เตะไปทางขวา เดี๋ยวก็เตะไปทางซ้าย บางทีเตะมาตรงหน้าท้องจนท้องปูดออกมา บางครั้งก็ดันมาตรงยอดอก เวลาที่เขาดิ้นแรงๆก็เจ็บเหมือนกันค่ะ ตอนท้องโตมากๆ ลูกไม่สามารถนอนหงายได้เลย ต้องนอนตะแคงอย่างเดียว บางครั้งนอนแล้วลุกไม่ขึ้น ต้องค่อยๆขยับอยู่นานถึงลุกขึ้นได้ บางทีลุกได้แล้วก็ก้าวขาไม่ออก เพราะหนักท้องคล้ายๆกับว่าน้ำหนักของท้องจะไปกดทับเส้นค่ะ
 
        เมื่อครบกำหนดคลอด ลูกมีอาการปวดท้องถี่ๆ ในขณะรอการคลอดคุณหมอฉีดยาให้หนึ่งเข็ม เดาว่าน่าจะเป็นยาเร่งคลอด เพราะหลังจากนั้นไม่นาน ลูกรู้สึกปวดท้องมากขึ้น ปวดมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนเลยในชีวิต ต้องจับหัวเตียงแน่น ตัวเกร็งไปหมด พยายามท่อง...พุทโธ ก็ท่องได้แต่คำว่า...พุทธ พยายามทำสมาธิอย่างไรก็ไม่สำเร็จ พยาบาลบอกให้เบ่ง ลูกก็เบ่งตาม เบ่งจนหมดแรง เด็กก็ยังไม่ออกมาสักที สุดท้ายหมอกลัวว่าจะเป็นอันตรายถึงชีวิต จึงฉีดยาชาและใช้เครื่องดูดเด็กออกมา
 
        ตอนเห็นหน้าเจ้าตัวเล็กครั้งแรก ความเจ็บปวดทรมานต่างๆไม่รู้มันหายไปไหนหมด รู้สึกดีใจ ปลื้มใจจนบรรยายเป็นคำพูดไม่ได้ อยากกอดเขาไว้แนบอกตลอดไป ไม่อยากให้ใครมาพรากเขาไปเลยแม้แต่วินาทีเดียว 
 
        ตั้งแต่เจ้าตัวเล็กคลอดออกมา ลูกต้องอุ้มและกล่อมให้หลับในอ้อมอกทุกคืน เพราะเมื่อไหร่ที่ปล่อยให้นอนบนเบาะก็จะร้องโยเยไม่ยอมนอน ลูกจึงต้องนั่งกล่อมอยู่อย่างนั้นกว่าครึ่งคืนถึงจะปล่อยให้เขานอนบนเบาะได้ ทำให้แม่ที่เคยท้วม...ผอมลงอย่างรวดเร็ว ตอนอายุได้หกเดือน กลางดึกคืนหนึ่งเขาเป็นไข้ตัวร้อนมาก ตาเหลือกกลับขึ้นข้างบน เรียกอย่างไรก็ไม่ร้อง ไม่โต้ตอบ ตอนนั้นใจแทบสลายกลัวว่าเขาจะตาย พอไปถึงโรงพยาบาลถึงได้รู้ว่าเด็กตัวร้อนจนชัก คุณหมอสอนวิธีดูแลไม่ให้เด็กชักอีก เพราะถ้าชักซ้ำจะมีผลทำให้สมองพิการได้
 
 
ภาพวันวาน...คุณแม่นิธิชม กัญจนานนท์ กับลูกน้อยในวัยเยาว์
 
        เหตุการณ์ในครั้งนั้น ทำให้ลูกหลับไม่สนิทเลยแม้แต่สักคืนเดียว ต้องหมั่นดูเขาอย่างใกล้ชิด คอยเช็คอาการตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง เพราะไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม ลูกชายเติบโตขึ้นอย่างสมบูรณ์แข็งแรง มีอารมณ์แจ่มใส และมีความเคารพในพ่อแม่ แต่แล้วช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลงก็มาถึง ตอนเขาอายุประมาณสิบสามขวบ เริ่มคบเพื่อน ให้ความสำคัญกับเพื่อนมากกว่าแม่ แถมยังติดเกมส์ ลูกเตือนและห้ามอย่างไรก็ไม่ฟัง ยอมรับเลยค่ะว่ากลุ้มใจสุดๆ จนไม่รู้จะทำอย่างไร ต้องใช้การแก้ปัญหาไปวันต่อวัน
 
        ต่อมาไม่นาน ลูกกับสามีมีปัญหาต้องแยกทางกัน ลูกชายทั้งสองเลือกที่จะไปอยู่กับพ่อ ลูกชายทั้งสองมีความเข้าใจผิดในตัวลูกเป็นอย่างมาก ทำให้มีช่องว่างเกิดขึ้นมากมาย และไม่เคยกลับมาหาลูกอีกเลย ตอนนั้น ลูกทุกข์ใจเสียใจอย่างบอกไม่ถูก ก็ได้แต่นึกปลอบใจตัวเองว่า “ดีแล้ว เราจะได้หมดกังวล เวลาตายก็จะได้ไปอย่างสงบ”
 
        ลูกอยู่ลำพังคนเดียวกว่าสิบปี จนเมื่อปี พ.ศ.2549 ลูกประสบอุบัติเหตุตกรถเมล์กระดูกหัก ตอนนั้นจึงโทรศัพท์ไปบอกลูกชายคนโต บอกไปโดยไม่คาดหวังอะไร แต่แล้วปาฏิหาริย์ก็มีจริง เมื่อเขาทั้งสองคนเดินทางมาหา และอยู่ดูแลลูกจนออกจากโรงพยาบาล ที่สำคัญตั้งแต่นั้นมาก็ย้ายมาอยู่กับลูก เมื่ออยู่ด้วยกันมากขึ้นจึงทำให้ช่องว่างระหว่างเราแม่ลูกค่อยๆหมดไป มีอยู่คืนหนึ่งลูกชายเข้ามากราบลงที่เท้าลูก พร้อมกับขออโหสิกรรมในเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมา โอ...ลูกดีใจปลื้มใจอย่างที่สุด เพราะได้ลูกชายคนดีคนเดิมกลับคืนมาอีกครั้ง คนเป็นแม่ก็อย่างนี้แหละค่ะ ไม่ได้ต้องการอะไรจากลูกๆเลย แค่เป็นคนดี หัวใจคนเป็นแม่ก็สุขใจอย่างที่สุดแล้ว
 
        ลูกขอเป็นกระบอกเสียงแทนบรรดาคุณแม่ทั่วโลกว่า ในฐานะที่เป็นชาวพุทธ แม่ทุกคนล้วนมีความต้องการให้ลูกชายสุดที่รักบวชให้ทั้งนั้นค่ะ อย่างตัวลูกเองก็ปรารถนาเช่นกัน ยังนึกอธิษฐานอยู่ทุกวัน และเฝ้ารอทุกวินาที รอวันที่ลูกชายจะได้บวชอย่างน้อยสักหนึ่งพรรษา ถ้าเขาได้บวช เขาจะได้เป็นลูกของพระพุทธเจ้า ได้เป็นเนื้อนาบุญให้กับชาวโลก และได้เป็นพระลูกชายในดวงใจของโยมแม่ตลอดไป แค่คิด...ก็...ปลื้มค่ะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
 
กัลยาณมิตรนิธิชม กัญจนานนท์
 
 
ชม Video Scoop ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
แก้วกลางดอย Kaew Klang Doiแก้วกลางดอย Kaew Klang Doi

จ๊าบพันธุ์แท้จ๊าบพันธุ์แท้

แชมป์ชีวิต  Championแชมป์ชีวิต Champion



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน