ความรู้สึกของ คุณพลับพลึง ภู่ทรัพย์สุวรรณ...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่


[ 1 ก.ค. 2553 ] - [ 18268 ] LINE it!

ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2553 ช่วงที่ 1
 
 
 
ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
โอกาสที่ดีที่สุดของชีวิตลูกผู้ชายที่จะทดแทนพระคุณบิดา-มารดา บวชเข้าพรรษาปีนี้
บวชที่นี่ บวชฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย
สนใจบวช หรือต้องการทราบรายละเอียดเพิ่มเติม คลิกที่นี่
 
กราบนมัสการพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงค่ะ
 
        ลูกชื่อ กัลยาณมิตรพลับพลึง ภู่ทรัพย์สุวรรณ มีลูกสาวลูกชายที่น่ารักสองคน คนโตเป็นผู้ชาย ชื่อ น้องฌาน คนเล็กเป็นผู้หญิง ชื่อ น้องยูกิ วันหนึ่งลูกกำลังนั่งรถไฟฟ้าเดินทางไปชินจูกุ ปรากฏมีแสงสว่างจ้าส่องกระทบตา หลังจากนั้นลูกก็หน้ามืดเป็นลมไปเลย พอกลับมาถึงบ้านก็แปลกมาก เพราะไม่สามรถดูโทรทัศน์ได้เลย ได้ยินเสียงอะไรก็ไม่ได้ จะเกิดอาการหน้ามืดและอาเจียนอย่างหนัก ลูกต้องอยู่แบบเงียบๆหรือไม่ก็นั่งสมาธิถึงจะหยุดอาเจียนค่ะ พอไปตรวจก็ปรากฏว่ากำลังตั้งครรภ์ หมอบอกเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า “อ๊ะกัตจัง”_หมายความว่า...มีเด็กอยู่ในท้อง ลูกดีใจมาก
 
        หลวงพ่อเจ้าคะ มันแปลกจริงๆ ทั้งๆที่เรายังไม่เคยเห็นหน้าลูกในท้อง และลูกในท้องก็ยังไม่เคยทำอะไรให้เราเลย แต่สามารถทำให้เรามีความรู้สึกรักเขาขึ้นมาอย่างจับใจ ความรักของคนเป็นแม่ที่มีต่อลูกในครรภ์นั้นยิ่งใหญ่ ไม่ต้องอาศัยเวลาและไม่ต้องมีเงื่อนไขค่ะ
 
        ตลอดระยะเวลาการตั้งครรภ์ ลูกมีอาการอาเจียน หน้ามืดเป็นลมตลอดทั้งเก้าเดือน และจะปวดที่ขาซ้ายมากๆ แม้จะคลอดไปแล้วปัจจุบันก็ยังปวดอยู่ กลายเป็นโรคประจำตัวไปเลย ตอนท้องไม่สามารถทำอะไรได้เลยค่ะ ทานอะไรก็ไม่ได้นอกจากปลาทอดและเต้าหู้ ทานอย่างนี้ทุกวันทุกมื้อ และจะไม่ชอบได้ยินเสียงอะไรทั้งนั้น ต้องอยู่เงียบๆ ดวงตาก็จะมีอาการแพ้แสงอย่างรุนแรง แถมยังต้องทำบ้านให้โล่งๆจนว่าที่คุณพ่อ ต้องทำการรื้อฝาบ้านออกหมด เพราะถ้าไม่อย่างนั้นจะวิงเวียนและอาเจียน แต่ถ้ามีอาการแล้ว พอได้นั่งสมาธิอาการก็จะดีขึ้นทุกครั้งค่ะ
 
        ดังนั้น ตอนตั้งท้องจึงได้นั่งสมาธิมากเป็นพิเศษ แม้จะรู้สึกทรมานมากแต่ก็มีปีติหล่อเลี้ยงใจ และเฝ้านับวันนับคืนรอวันที่จะได้เห็นหน้าลูกในท้องเร็วๆ ตอนนั้นอุ้มท้องกลับมาเมืองไทยเพื่อมาซื้อบ้านอยู่ใกล้วัดพระธรรมกาย บังเอิญช่วงเวลานั้นประเทศไทยมีปัญหาเรื่องการเมือง ลูกจึงบินกลับไปญี่ปุ่นไม่ได้ จึงต้องคลอดที่เมืองไทย ตอนใกล้คลอดลูกไม่รู้สึกปวดท้องเลยค่ะ ไม่ปวดจนรู้สึกผิดปกติ และแล้วลูกในท้องก็ไม่ดิ้น หมอบอกว่าน้ำคร่ำเริ่มแห้งแล้ว ถ้าปล่อยไว้อาจจะเป็นอันตรายต้องผ่าตัดด่วนที่สุด ลูกตกใจมากรู้สึกกังวลกับการผ่าตัด จึงได้แต่ภาวนาในใจขอให้ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี และขอให้ลูกในท้องปลอดภัย เพราะถ้าเจ้าตัวเล็กเป็นอะไรไป ลูกคงรับความรู้สึกนั้นไม่ไหว
 
        ครั้งแรกที่พยาบาลอุ้มเจ้าตัวเล็กมาให้ดู ลูกชายของลูกหน้าตาน่ารักมากมากเลยค่ะ ผิวขาวเกลี้ยงเกลา ริมฝีปากแดง หูกางนิดหน่อย และมีดวงตาใสแจ๋ว ดวงตาของเราสองแม่ลูกประสานกัน ลูกชายมองมาที่แม่อย่างไม่กระพริบตาเลยค่ะ ความรู้สึกรักเอ็นดู ห่วงหาอาทร ประดังประเดเข้ามาอย่างมากมาย จนลูกไม่อยากจะเชื่อเลยว่า เราจะสามารถรักทารกน้อยที่เพิ่งเห็นหน้ากันครั้งแรกได้มากมายขนาดนี้
 
 
 
พาเจ้าตัวเล็กมาถวายปัจจัยกับคุณยายอาจารย์และพระเดชพระคุณหลวงพ่อ
(หล่อรูปเหมือนทองคำ พระเดชพระคุณหลวงปู่ฯองค์แรก)
 
        ตอนท้องที่สอง ลูกก็มีอาการแพ้ท้องแบบเดียวกับท้องแรก คือ วิงเวียนและอาเจียนถึงเก้าเดือน แถมตอนผ่าท้องคลอดครั้งที่สองนั้น แผลไม่สมานตัว จะมีเลือดไหลซิบๆออกมาตามรอยผ่าตัดตลอดเวลา เวลาขยับตัวแต่ละครั้งก็จะเจ็บมาก และถ้าลุกเดินแผลก็จะปริ ตอนนั้นแทบจะขยับตัวทำอะไรไม่ได้เลย ยกของหนักแค่ห้ากิโลกรัมก็ทำไม่ได้ ต้องเจ็บทรมานอยู่อย่างนั้นถึงห้าเดือน แผลถึงแห้งและหายสนิทค่ะ คนญี่ปุ่นโบราณเขาบอกว่า ถ้าไม่จำเป็นจะไม่ให้มีการผ่าตัดคลอด เพราะการผ่าตัดคลอดหนึ่งครั้งจะบั่นทอนชีวิตมารดาไปถึงเจ็ดปี เขายังบอกลูกว่า ลูกได้ถูกบั่นทอนอายุไปแล้ว 14-ปี เพราะผ่าคลอดสองครั้งค่ะ
 
        หลวงพ่อเจ้าคะ ลูกสาวลูกชายทั้งสองเป็นเด็กดีน่ารัก แต่ถึงขนาดนั้นกว่าจะเลี้ยงให้แต่ละคนโตได้ก็เหนื่อยมาก เพราะหัวอกคนเป็นพ่อเป็นแม่ย่อมห่วงลูก เป็นกังวลไปเสียทุกเรื่อง และพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ทุกคนได้อยู่อย่างสุขสบาย บางครั้งต้องอบรมสั่งสอนปากเปียกปากแฉะก็เพราะอยากให้เขาได้ดี และถ้าใครซนมากดื้อมากพูดไม่ฟังก็ต้องมีการลงโทษ แต่ที่ตีก็เพราะรักนะคะ และใครโดนดุมากกว่าใคร ก็ไม่ใช่แปลว่าจะรักมากหรือน้อยกว่ากันนะคะ ลูกขอยืนยันอีกคนว่า...รักของแม่ไม่ลำเอียงค่ะ
 
 
คุณแม่พลับพลึง ภู่ทรัพย์สุวรรณ และลูกรักทั้งสองคน
 
        เวลาตัวลูกทำบุญ จะอธิษฐานถึงลูกๆเสมอ ขอให้พวกเขาเป็นเด็กดีน่ารัก ให้บุญรักษา ให้มีความก้าวหน้าในชีวิต แต่สำหรับลูกชายจะเพิ่มเติมมาอีกหน่อยว่า ขอให้เขาได้บวช ลูกยังจำวันที่ลูกชายบวชเป็นสามเณรได้ดี ตอนที่นาคนั่งคุกเข่าแล้วยื่นมือมารับผ้าไตร เป็นอะไรที่พูดไม่ออกบอกไม่ถูกจริงๆ โอ้อัศจรรย์..ใครนะช่างฝึก ฝึกจนลูกชายของเราองอาจสง่างามได้ขนาดนี้ พอนาคลุกขึ้นยืนหันหลังเดินจากไป ลูกมองตามไม่ละสายตาเลยค่ะ แล้วน้ำตาก็ไหลรินออกมา มันตื้นตัน หาอะไรมาเปรียบไม่ได้เลย นี่ขนาดบวชเณรยังปลื้มขนาดนี้ ลูกภูมิใจในตัวลูกชายอย่างที่สุดค่ะ ตอนเขาเรียนได้เกรด 4-ก็ปลื้ม แต่เทียบกับตอนบวชสามเณรไม่ได้ค่ะ และอีกเพียงสามปี ลูกชายก็จะมีอายุครบ 20-ปีแล้ว ลูกเฝ้ารอทุกวินาทีรอวันที่จะได้เห็นลูกชายได้บวชเป็นพระแท้ ถ้าดวงใจของแม่มีล้านดวง ก็ขอยืนยันทั้งล้านดวงใจว่า ยังคงรอวันสำคัญวันนั้น...วันที่ลูกชายจะบวชให้แม่อย่างน้อยสักหนึ่งพรรษาค่ะ
 
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงค่ะ
 
กัลยาณมิตรพลับพลึง ภู่ทรัพย์สุวรรณ
 
ชม Video Scoop ความรู้สึกของผู้หญิงคนหนึ่ง...เมื่อรู้ว่าต้องเป็นแม่
 



Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
แก้วกลางดอย Kaew Klang Doiแก้วกลางดอย Kaew Klang Doi

จ๊าบพันธุ์แท้จ๊าบพันธุ์แท้

แชมป์ชีวิต  Championแชมป์ชีวิต Champion



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ช่วงเด่นฝันในฝัน