เมื่อคองโกห่มขาว
ในโครงการบวชอุบาสิกาแก้วครั้งแรก
ใจกลางอาฟริกา
...ในวันท้องฟ้าแจ่มใส เสียงสวดทำนองเสนาะ ทั้งจับใจและสูงส่ง ค่อยๆ เล็ดลอดออกมาจากบ้านของชาวพุทธ หญิงสาวผิวเข้มที่กำลังทำอาหารจานเด็ด อาจไม่มีมือว่างพอสำหรับงานอื่น แต่หัวใจและเสียงอันงามของเธอนั้น ยังคงมีให้แก่พระศาสดาอันเป็นที่รักเสมอ แม้ตัวเธอจะอยู่ไกลถึงกาฬทวีป
เป็นอีกวันที่เธอนึกถึงพระพุทธเจ้าเป็นอารมณ์แต่นั่นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะกลุ่มชาวพุทธในลูบุมบาชี ทางใต้สุดของสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ก็ทำอย่างนี้กันนานแล้ว อาจเรียกได้ว่า เป็นทศวรรษ นับตั้งแต่ “ท่านโพธิราชา” (ชาวคองโกผู้ได้พบกับพระภิกษุชาวอินเดียตั้งแต่อายุ ๑๕ ) นำพาผู้คนรอบกายมุ่งตรงสู่หลักธรรมของพระพุทธองค์ ชีวิตประจำวันของชาวพุทธในดินแดนห่างไกลก็เริ่มดำเนินไปเช่นนี้เรื่อยมา พวกเธอไม่ได้สวดแค่เพียงตอนปรุงอาหารเท่านั้น แม้กำลังซักผ้าและกวาดลานบ้านก็ทำด้วย
เหตุใดหนอ คนเหล่านี้จึงต้องการที่พึ่ง คงต้องนึกทบทวนดูว่า หากบ้านเกิดคือโลกใบแคบๆ ที่ทุกคนใฝ่หา พวกเธอคงรู้สึกขอบคุณอย่างเหลือล้นที่บ้านเล็กๆ หลังนี้ได้ทิ้งสมบัติใต้ดินไว้มากมาย เพชรและทองคำที่คนทั้งโลกต่างแย่งชิง กำลังนอนนิ่งลึกลงไปใต้ฝ่าเท้าของเธอนี่เอง แต่เสียงขอบคุณนั้นอาจไม่ทันได้ปรากฏ เพราะสิ่งที่อยู่ควบคู่เสมอมาคือ สงคราม (นับแต่ปี ๒๕๔๑ ชาวคองโกต้องเผชิญความทุกข์ยากครั้งใหญ่จากพิษสงครามโลกแอฟริกัน ซึ่งเกิดขึ้นในคองโก) จากความสูญเสียครั้งแล้วครั้งเล่า พวกเธอคงอดคิดไม่ได้ว่า จริงๆ แล้วบ้านเล็กๆ หลังนี้ ก็ไม่ได้สวยหรูเท่าใดนัก....
“วางใจเบาๆ สบายๆ ไว้ในกลางตัวกันนะ” เสียงนำนั่งสมาธิของพระอาจารย์ดังขึ้นอย่างแผ่วเบา แม้ท่านไม่ได้ใช้คำนี้โดยตรงแต่ก็พอจะแปลได้เช่นนี้เมื่อเป็นภาษาไทย เพื่อละลายเรื่องราวและภาพเก่าๆ ที่ผ่านมาของพวกเธอให้หมดไป และนำพาชาวพุทธในถิ่นห่างไกล เข้าใกล้โลกสงบที่อยู่ภายในใจเป็นครั้งแรก นับเป็นเวลาเกือบ ๒ สัปดาห์ ตั้งแต่วันที่ ๑๓-๒๕ กรกฎาคม ๒๕๕๓ ที่พระอาจารย์ได้เดินทางจากวัดพุทธโจฮันเนสเบิร์ก เซาท์แอฟริกา เพื่อจัดอบรมอุบาสิกาแก้วครั้งแรกถึงคองโก ด้วยความเมตตาของพระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ปรารถนาให้พุทธศาสนาเจริญรุ่งเรืองไปทุกดินแดนทั่วโลก
หญิงชาวพุทธหลายสิบชีวิตที่กำลังนั่งต่อหน้าพระอาจารย์ ไม่ต่างจากชาวพุทธคองโกคนอื่น ที่เชื่อมั่นว่าพุทธศาสนาจะเป็นยาแก้ทุกข์ขนานเอก แต่ที่ผ่านมายังคงปฏิบัติได้ไม่มากนักเพราะความห่างไกลจากต้นแหล่งคำสอนและความรู้ที่มีอยู่จำกัด
การนั่งสมาธิในอาการสงบนิ่งวันนี้ จึงไม่ต่างจากชีวิตที่รุกคืบไปสู่ความสุขตามคำสอนดั้งเดิม สองมือที่ประสานบนตักอย่างนุ่มนวล ดั่งความมั่นคงที่จะยึดมั่นพุทธศาสนาตลอดชีวิต ผ้านุ่งสีขาวที่พาดไหล่ด้วยสไบสีเดียวกัน พร้อมสัญลักษณ์มหาธรรมกายเจดีย์สีทองตรงหน้าอกด้านซ้าย คือ หัวใจสำคัญที่จะทำให้พุทธศาสนาปักหลักอยู่ได้เพราะมีวัฒนธรรมชาวพุทธที่ถูกต้อง
จากความเพียรพยายามในการศึกษาธรรมะตลอด ๑๓ วัน ทำให้คำสอนดั้งเดิมในพุทธศาสนาหยั่งรากลึกสู่วิถีชาวพุทธคองโกได้อย่างน่าอัศจรรย์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการรู้จักใช้สมาธิ ให้เป็นประโยชน์กับตัวเองมากที่สุด ตัวอย่างเช่น อุบาสิกาแก้วโจเซฟฟีน วัย ๑๘ ปี เธอไม่ได้ทำอะไรมากไปกว่า ๒ อย่างคือ ๑. นึกถึงองค์พระที่กลางท้อง และ ๒. ภาวนาสัมมาอะระหัง ให้กังวานออกมาจากกลางท้อง ผลที่ได้คือ โจเซฟฟีน “รู้สึก” ตลอดเวลาว่ามีพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อยู่ในกลางกายของเธอ ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อใจละเอียดขึ้น ความรู้สึกดังกล่าว ได้กลายเป็นของจริง คือโจเซฟฟีน “เห็น” องค์ท่านอยู่ในกลางกายในขณะทำสมาธิ ตลอดเวลาเช่นกัน
เช่นเดียวกับ อุบาสิกาแก้วอึนดายา มายา เธอกำลังเรียนสายวิชาวรรณกรรม มีบุคลิกสงบแต่ทว่ายิ้มแย้มเบิกบาน หลังจากภาวนาสัมมาอะระหังได้เพียงครู่เดียว มายาก็หยุดภาวนา ภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกลางท้องที่ชัดอยู่แล้วก็ยิ่งชัดยิ่งขึ้น หรือแม้แต่หนุ่มชาวคริสต์ ที่มีจิตอาสาขอทำหน้าที่เป็นล่ามให้พระอาจารย์ เขาคือ แซ็ดดี้ ชีเซ็ง มูโตมบะ เมื่อทำใจว่างๆ ในกลางความสงบ เขาก็สามารถเห็นปิรามิดในกลางตัวได้ทุกครั้ง และมีความสว่างอยู่ในกลางปิรามิดทุกครั้งเช่นกัน
… ก่อนสิ้นสุดการอบรม ลึกเข้าไปในอาคารชั้นเดียวที่เป็นเสมือนโบสถ์ แสงจากหน้าต่างบานเล็ก เผยให้เห็นผนังสีปูน และรูปพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยังคงเด่นสง่าอยู่บนผนังด้านหลังสุด ถัดลงมาจากรูปนั้น เป็นภาพใส่กรอบที่เพิ่งตั้งขึ้น ภายในคือ พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (หลวงพ่อธัมมชโย) ผู้ให้กำเนิดการบวชอุบาสิกาแก้วและชุบชีวิตพวกเธอให้กลายเป็นชาวพุทธที่แท้จริง หญิงสาวกับชุดสไบแก้วห่มกาย ยังคงพนมมือนิ่งเพื่อเก็บภาพประวัติศาสตร์อยู่ในอาคารหลังนี้ ในความทรงจำของแต่ละคนอาจมีภาพมากมายไม่เหมือนกัน แต่ทุกภาพย่อมทรงคุณค่าเหมือนกันและแน่นอนว่าจะได้กลับมาฉายซ้ำในใจเสมอ
เช่นเดียวกับ อุบาสิกาแก้วอึนดายา มายา เธอกำลังเรียนสายวิชาวรรณกรรม มีบุคลิกสงบแต่ทว่ายิ้มแย้มเบิกบาน หลังจากภาวนาสัมมาอะระหังได้เพียงครู่เดียว มายาก็หยุดภาวนา ภาพของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในกลางท้องที่ชัดอยู่แล้วก็ยิ่งชัดยิ่งขึ้น หรือแม้แต่หนุ่มชาวคริสต์ ที่มีจิตอาสาขอทำหน้าที่เป็นล่ามให้พระอาจารย์ เขาคือ แซ็ดดี้ ชีเซ็ง มูโตมบะ เมื่อทำใจว่างๆ ในกลางความสงบ เขาก็สามารถเห็นปิรามิดในกลางตัวได้ทุกครั้ง และมีความสว่างอยู่ในกลางปิรามิดทุกครั้งเช่นกัน
สมาธิในคำสอนดั้งเดิมเป็นสุขสากลที่ใครทำ ใครก็ได้ เพื่อมุ่งสู่ความรู้ภายในที่ยิ่งใหญ่ขณะเดียวกันวิถีพุทธที่ถูกต้องจะคอยสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดี มีแต่กัลยาณมิตรคอยเปิดทางสวรรค์ นั่นคือเหตุผลที่พระอาจารย์จำเป็นต้องมาเพื่อให้ทุกคน “สุขให้เป็น” ด้วยหลักสำคัญเหล่านี้
ประเทศคองโก...แม้พื้นที่นี้ ไม่มีสันติ ไม่มีสุขสบาย แต่เพราะศรัทธาจากชาวพุทธกลุ่มหนึ่งที่ต้องการตามรอยพระพุทธเจ้า วันนี้ ทุกคนจึงเริ่มรับรู้แล้วว่า ยังคงมีพื้นที่มากมายให้แก่คำว่า สันติภาพ