ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ.2553
ตอน ประวัติศาสตร์อียิปต์
ประวัติศาสตร์อียิปต์
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
สาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ เป็นประเทศในแอฟริกาตะวันออกเฉียงเหนือที่มีประชากรมากที่สุด คือ ราว 81-ล้านคน มีแผ่นดินเชื่อมต่อระหว่างทวีปแอฟริกากับเอเชียผ่านตะวันออกกลาง และยังมีคลองสุเอซ ซึ่งเป็นคลองที่มนุษย์สร้างขึ้นยาว 183-กิโลเมตร เป็นเส้นทางเดินเรือที่สำคัญระหว่างยุโรปและเอเชีย อียิปต์จึงเป็นจุดเชื่อมต่อที่สำคัญของโลกมาแต่โบราณ
คลองสุเอซ (ขอบคุณภาพจาก Google)
เนื่องจากสภาพอากาศที่แห้งแล้ง ไม่ค่อยมีฝนตก เพราะพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นทะเลทรายสะฮารา ชาวอียิปต์จึงมักอาศัยอยู่บนสองฝั่งแม่น้ำไนล์และคลองสุเอซ โดยมีกรุงไคโรเป็นเมืองหลวง ผู้คนนับถือศาสนาอิสลาม นิกายสุหนี่ 94-เปอร์เซ็นต์ และศาสนาคริสต์ 6-เปอร์เซ็นต์ โดยใช้ภาษาอาหรับเป็นภาษาราชการ ส่วนภาษาต่างประเทศที่ใช้ทั่วไป ได้แก่ อังกฤษ และ ฝรั่งเศส
แม่น้ำไนล์
กรุงไคโรยามค่ำคืน
ชื่อเสียงของอียิปต์มาจากอารยธรรมโบราณ และหมู่พีระมิดแห่งอียิปต์ที่สร้างมาเกือบ 5,000-ปี ซึ่งยังคงตั้งตระหง่านกลางทะเลทรายใกล้แม่น้ำไนล์จนถึงทุกวันนี้ ชาวอียิปต์โบราณไม่ได้ใช้เครื่องจักรในการสร้างพีระมิด มีเพียงแรงงานมนุษย์กับเครื่องมือธรรมดาๆไม่กี่ชนิดเท่านั้น แม้ประชาชนที่มาช่วยสร้างจะทำงานเพื่อแลกกับอาหารและเสื้อผ้า แต่ทุกคนก็ต้องการมีส่วนร่วมในการสร้างพีระมิด เพื่อเป็นที่ฝังพระศพของกษัตริย์ฟาโรห์ที่พวกเขานับถือเป็นเทพเจ้า โดยมีรูปสลัก "หัวเป็นคน ตัวเป็นสิงโต"_ที่เรียกว่า สฟิงซ์ อยู่เคียงข้าง ชาวอียิปต์ยังเชื่อว่าเมื่อใครเสียชีวิต วิญญาณจะออกจากร่างไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะหวนกลับคืนสู่ร่างเดิมของผู้เป็นเจ้าของ ทำให้ต้องมีการถนอมและรักษาสภาพร่างเดิมไว้ และคิดค้นวิธีดองศพด้วยการทำมัมมี่เป็นผลสำเร็จ
พีระมิดกับสฟิงซ์
หน้ากากทองคำบนหีบพระศพกษัตริย์ฟาโรห์
นับแต่โบราณกาล ชาวอียิปต์ไม่ได้เป็นเพียงนักเกษตรกรรมและสร้างสรรค์อารยธรรมตัวยงเท่านั้น แต่ยังเป็นนักคิด นักปรัชญา ได้มาซึ่งความรู้ในศาสตร์ต่างๆอีกมากมายตลอดระยะเวลาในการพัฒนาอารยธรรมของตัวเอง และยังเป็นดินแดนที่ผู้คนกำลังมีใจเปิดกว้าง เพื่อค้นหาความจริงของชีวิต
มัมมี่อียิปต์ (ขอบคุณภาพจาก E. Corbero-Virtourist.com)
****************