ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ.2553
ตอน หัวใจวายมรณภาพ กรรมใช้แรงงานนักโทษหนักปางตาย
หัวใจวายมรณภาพ กรรมใช้แรงงานนักโทษหนักปางตาย
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
บทสรุปของ บวชไม่ถึงพรรษาหัวใจวาย หลับแล้วตื่นกลางวิมานชั้นดาวดึงส์
(อ่านตอนแรก คลิกที่นี่)
ฝันในฝัน
หลับตาฝันเป็นตุเป็นตะ ตื่นขึ้นมาหาว 1 ที
แล้วนำมาเล่าให้ฟังเป็นนิยายปรัมปรากันนะจ๊ะ
บุพกรรมที่ทำให้พระธรรมทายาทรูปนี้ ต้องมรณภาพด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลัน เมื่ออายุ 39-ปี ทั้งนี้เป็นเพราะวิบากกรรมที่ท่านเคยใช้แรงงานนักโทษอย่างหนัก ในหลายพุทธันดรก่อนๆโน้น ได้ตามมาส่งผล (สิ่งที่เรากระทำจะติดเป็นผังติดตัว เหมือนระเบิดเวลา ถึงเวลาได้ช่องก็ระเบิด)
เรื่องก็มีอยู่ว่า...เมื่อพุทธันดรดังกล่าว ท่านได้เกิดเป็นผู้คุมนักโทษอยู่ในคุกแห่งหนึ่ง ในเวลาต่อมาผู้บังคับบัญชาของท่านได้รับคำสั่งจากส่วนกลาง ให้ทำการเกณฑ์นักโทษที่อยู่ภายในคุกบางส่วน ไปช่วยกันขุดเหมืองอย่างเร่งด่วน เนื่องจากคนงานจากส่วนกลางมีไม่พอ เมื่อส่วนกลางมีคำสั่งมาเช่นนั้น ผู้บังคับบัญชาจึงมอบหมายให้ท่านไปคุมนักโทษที่ถูกเกณฑ์ให้ไปทำงานขุดเหมือง ในครั้งนี้ด้วย
ด้วยความที่งานนี้เป็นงานที่เร่งด่วนแบบสุดๆ ท่านจึงต้องคุมเข้มนักโทษให้ทำงานทั้งวันทั้งคืน จนแทบไม่มีใครได้พักผ่อน แม้นักโทษหลายๆคนจะหมดแรง และเหน็ดเหนื่อยสายตัวแทบขาด แต่ท่านก็ไม่ยอมให้ใครได้พักเหนื่อยแม้สักคนเดียว และท่านได้บังคับให้นักโทษทำงานเช่นนี้อยู่เรื่อยมา จนกระทั่งการขุดเหมืองได้เสร็จสิ้นลง
จากวิบากกรรมในครั้งนี้ คือ ใช้แรงงานนักโทษอย่างหนักจนปางตาย ได้ติดตามส่งผลกับตัวท่าน นับแต่ภพชาตินั้นเรื่อยมาอีกหลายภพหลายชาติ (แม้จะเป็นการปฏิบัติตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา หรือปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย แต่ผิดกฎแห่งกรรม เพราะกฎแห่งกรรมอยู่เหนือกฎทั้งปวง)
(ข้อดีของการมีอายุยืนยาว คือ เราจะมีโอกาสสร้างบารมีได้มาก หรือถ้าหากกาลเวลาที่ผ่านมา เราดำเนินชีวิตผิดพลาด ด้วยเวลาที่ยังเหลืออยู่ เราก็มีโอกาสกลับเนื้อกลับตัวได้)
แต่ถ้าสมมุติว่า ท่านไม่ได้บวชในคราวที่ผ่านมา หรือบวชแล้วไม่ได้ทุ่มเททำหน้าที่ช่วยงานพระศาสนากับหมู่คณะ อย่างเต็มที่เต็มกำลังมาก่อนหน้านี้ ในเวลาที่วิบากกรรมจากการใช้แรงงานนักโทษอย่างหนัก และเศษกรรมปาณาติบาตจากการฆ่าสัตว์เล็กสัตว์น้อยมารวมส่งผล ก็จะทำให้ท่านต้องทนทุกข์ทรมานด้วยโรคที่เกี่ยวกับระบบหัวใจก่อน แล้วจึงค่อยเสียชีวิตในเวลาต่อมา
และเมื่อเสียชีวิตแล้ว ด้วยความที่ท่านยังไม่หมดอายุขัย แต่ถูกกรรมเก่ามาตัดรอน ก็จะทำให้ท่านต้องไปเกิดเป็นสัมภเวสีหรือวิญญาณเร่รอน อยู่แบบนี้ไปก่อนจนกว่าจะถึงอายุขัยที่ท่านเสียชีวิตจริงๆ
เมื่ออายุขัยที่แท้จริงของท่านมาถึงแล้ว ภาพกรรมนิมิตที่ท่านคุ้นเคยก็จะย้อนมาปรากฏให้ท่านได้เห็นในช่วงนั้น ส่วนคตินิมิตของท่านจะผ่องใสสว่างไสว หรือเศร้าหมองไม่ผ่องใส ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับภาพกรรมนิมิตที่ปรากฏให้ท่านได้เห็นในช่วงนั้นว่า เป็นภาพกรรมนิมิตฝ่ายกุศล หรือฝ่ายอกุศล ถ้าหากเป็นภาพกรรมนิมิตฝ่ายกุศล กระแสบุญก็จะนำพาท่านไปสู่สุคติภูมิ ตามกำลังแห่งบุญ (ซึ่งไม่อาจจะไปอยู่ดาวดึงส์ เฟสสองได้)_แต่ถ้าหากกรรมนิมติช่วงนั้นเป็นฝ่ายอกุศล กระแสบาปก็จะดึงดูดให้ท่านต้องไปสู่ทุคติภูมิ ตามกำลังแห่งบาปอกุศลที่ท่านได้เคยทำเอาไว้
เห็นหรือไม่ว่า ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจ เราสามารถลิขิตชีวิตของเราได้ ส่วนใครจะได้ไปเกิดเป็นอะไร จะได้ไปเกิดเป็นเทวดาอยู่บนสวรรค์ชั้นฟ้า หรือได้ไปเกิดเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย หรือสัตว์เดรัจฉาน หรือได้ไปเป็นมนุษย์ที่มีฐานะยากจนหรือร่ำรวย ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าตอนที่เรามีชีวิตอยู่ เราได้สั่งสมบุญหรือทำความดีตามหลักวิชชาขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า หรือไม่ ถ้าเราทำถูกหลักวิชชา คือ หมั่นทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนา อยู่เป็นนิจ อย่างเต็มที่เต็มกำลัง ชีวิตที่เราลิขิตก็จะเป็นจริงอย่างที่เราตั้งความปรารถนาไว้
****************
มีปัญหาการรับชมวิดีโอ กรุณากดที่นี่ เพื่อใช้เครื่องเล่นแบบเก่า window media player