ทำบุญไว้เถิดประเสริฐนัก

        ในช่วงที่คุณพ่อของลูกหกล้มศีรษะฟาดพื้น ในตอนนั้น ท่านได้หมดสติและไม่รู้สึกตัวเลย เมื่อท่านได้รับการผ่าตัดสมองเพื่อช่วยชีวิตจากคณะแพทย์แล้ว คุณพ่อของลูกก็ยังไม่มีวี่แววที่จะฟื้นขึ้น ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะสมองของท่านบางส่วนได้เสียหายไปก่อนที่ตัวท่านจะได้รับการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้เองจึงส่งผลทำให้แม้การผ่าตัดจะผ่านพ้นไป แต่คุณพ่อของลูกก็ไม่สามารถที่จะฟื้นกลับขึ้นมาได้อีก กอปรกับในช่วงเวลานั้น อายตนะภายในที่เชื่อมต่อจากกายหยาบไปยัง...เห็น, จำ, คิด, รู้ ของท่านได้หลุดออกจากกัน (เปรียบเทียบให้เข้าใจง่ายๆ ก็เหมือนกับสายยางที่มีน้ำไหลผ่านอยู่เป็นประจำ แต่อยู่มาวันหนึ่ง สายยางเส้นนั้นก็กลับถูกทับ จนเป็นผลทำให้น้ำในสายยางไม่สามารถไหลผ่านไปยังปลายสายได้อีกเหมือนเดิม) ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นผลทำให้คุณพ่อของลูกไม่อาจที่จะกลับมามีสติและรู้สึกตัวได้อีก จนกระทั่งถึงวันที่ท่านต้องลาลับจากโลกนี้ไป

 

 

 

        ภายหลังจากที่คุณพ่อของลูกได้เสียชีวิตไปแล้ว กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็ได้หลุดออกมายืนอยู่ข้างๆกายหยาบของท่าน ซึ่งในตอนแรก กายละเอียดของท่านก็ยังรู้สึกมึนๆงงๆ และยังไม่รู้ตัวว่า “ตัวท่านเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” แต่เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกเริ่มมีสติ และรู้สึกตัวมากขึ้น ท่านจึงเห็นว่าในตอนนั้นมีผู้คนมากมายมายืนอยู่รอบๆเตียงที่มีร่างของท่านนอนอยู่ เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้เห็นเช่นนั้น ท่านจึงรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากว่า “ทำไมตัวท่านจึงได้มาอยู่ที่นี่ มันเกิดอะไรขึ้นกับตัวท่าน ทำไมรอบๆตัวท่านจึงมีแต่ผู้คนเดินไปเดินมา แลดูวุ่นวายไปหมด”

 

 

 

 

        ในขณะที่ใจของคุณพ่อของลูกกำลังประเดประดังไปด้วยคำถามต่างๆ ในเสี้ยววินาทีนั้น ใจของคุณพ่อของลูกก็ได้นึกถึงภรรยาและลูกๆของท่าน ทันทีที่กายละเอียดของคุณพ่อของลูกนึกถึงภรรยาและลูกๆ กายละเอียดของคุณพ่อของลูกจึงได้แวบไปปรากฏอยู่ที่บ้านของท่านในทันที เมื่อท่านได้แวบกลับมาอยู่ที่บ้านของท่านแล้ว ท่านก็รู้สึกตกใจเป็นอย่างมากว่า “ทำไมตัวท่านจึงแวบมาที่บ้านของท่านได้” ยิ่งเวลาที่ท่านเดินไปไหนมาไหนในบ้านแล้วไม่มีใครพูดคุยด้วย หรือแม้ตัวท่านจะพูดคุยกับใครก็ไม่มีใครสื่อสารหรือพูดคุยตอบกลับท่านเลยสักคน เมื่อเป็นเช่นนี้ กายละเอียดของคุณพ่อของลูกจึงยิ่งรู้สึกประหลาดใจในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด จนตัวท่านก็เริ่มที่จะเอะใจและสงสัยว่า “ในตอนนี้ ตัวท่านน่าจะเสียชีวิตไปแล้ว”

 

 

 

 

        ครั้นเวลาผ่านไปได้สักระยะหนึ่ง ใจของคุณพ่อของลูกก็ค่อยๆสงบขึ้น แล้วในที่สุดกายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็เริ่มยอมรับและทำใจได้ว่า “ตัวท่านเองได้เสียชีวิตไปแล้วจริงๆ” เมื่อท่านยอมรับและทำใจได้ว่า “ตัวท่านเองได้เสียชีวิตไปแล้ว” ใจของท่านก็ค่อยๆคลายตัวลง ทันใดนั้นเอง ในใจของท่านก็ปรากฏมีสายบุญ...สายบุญหนึ่งได้มาจรดเชื่อมเข้าที่ศูนย์กลางกายของท่าน ซึ่งสายบุญนั้น คือ บุญทุกบุญที่ภรรยาและลูกๆของท่านได้ทำให้ท่าน ในตอนที่ท่านไม่รู้สึกตัวนอนป่วยอยู่บนเตียง

 

 

 

 

        เมื่อสายบุญดังกล่าว ได้มาจรดเชื่อมที่ศูนย์กลางกายของกายละเอียดของคุณพ่อของลูกแล้ว ก็พลันส่งผลทำให้ท่านมีความรู้สึกชุ่มชื่น และอบอุ่นใจขึ้นมาในทันที นอกจากสายบุญดังกล่าวจะช่วยทำให้ท่านมีความรู้สึกชุ่มชื่นและอบอุ่นใจขึ้นมาอย่างมากแล้ว ภาพของบุญทุกๆบุญที่ภรรยาและลูกๆของท่านได้ทำให้ท่าน ตอนที่ท่านป่วยและไม่รู้สึกตัว ยังมาปรากฏฉายให้ท่านได้เห็นอีกด้วย

 

 

 

 

        เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้เห็นภาพของบุญทุกบุญที่ภรรยาและลูกๆได้ทำบุญให้กับท่าน ด้วยความรักและความห่วงใยในตัวท่านในช่วงที่ท่านไม่รู้สึกตัวนอนป่วยอยู่บนเตียงเช่นนั้นแล้ว ท่านก็รู้สึกดีใจและปลื้มปีติใจในบุญต่างๆเหล่านั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลทำให้สายบุญต่างๆเหล่านั้นได้มารวมตัวกันเป็นดวงบุญใสๆ มาห่อหุ้มและหล่อเลี้ยงใจของท่านอยู่ตลอดเวลา จนเป็นผลทำให้ใจของท่านมีความผ่องใสสว่างไสวขึ้นไปกว่าเดิมเป็นอย่างมาก ซึ่งเป็นผลทำให้ใจของท่านอิ่มเอิบไปด้วยความสุข และความปีติใจในบุญทุกบุญเหล่านั้นอีกด้วย 

 

        ครั้นใจของคุณพ่อของลูกมีความผ่องใสสว่างไสวไปด้วยกระแสบุญต่างๆเหล่านั้นแล้ว จึงเป็นผลทำให้ใจของท่านสามารถคลายจากความกังวลและความตกใจ อันเกิดจากการจากไปอย่างไม่หวนคืนกลับมาของตัวท่านได้อีกด้วย เมื่อใจของท่านคลายจากความกังวลต่างๆได้แล้ว กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็เริ่มนึกถึงองค์พระ และนึกถึงบุญต่างๆ ตามที่ท่านเคยได้ยินได้ฟังมาจากคนใกล้ตัว ไม่ว่าจะเป็นภรรยาและลูกๆของท่านที่เข้าใจเรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต หรือจากการได้ยินได้ฟังตอนที่ท่านได้มาร่วมงานบุญที่วัดพระธรรมกาย

 

 

 

 

        ด้วยผลแห่งบุญที่กายละเอียดของคุณพ่อของลูกนึกถึงองค์พระ และนึกถึงบุญต่างๆนี้เอง จึงไปดึงดูดเอาบุญเก่าที่ท่านได้เคยสั่งสมเอาไว้ให้มาได้ช่องส่งผลร่วมกัน ซึ่งเป็นผลทำให้ภาพกรรมนิมิตที่เป็นฝ่ายกุศลที่ท่านได้เคยสั่งสมไว้ ได้มาปรากฏฉายให้ตัวท่านได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นภาพที่ท่านได้ทำบุญทุกบุญในพระพุทธศาสนา, บุญที่ท่านได้สวดมนต์ไหว้พระนั่งสมาธิ, บุญบวชของลูกชาย และบุญทุกบุญที่ท่านได้ทำร่วมกับครอบครัวของท่าน รวมไปถึงบุญสงเคราะห์โลกที่ท่านได้เคยทำมาอย่างมากมาย เป็นต้น

 

 

 

 

        เมื่อกายละเอียดของคุณพ่อของลูกได้เห็นภาพกรรมนิมิตฝ่ายกุศลที่ตัวท่านได้เคยสั่งสมไว้ มาปรากฏฉายให้ท่านได้เห็น ทันใดนั้นเองใจของท่านก็มีความผ่องใสและสว่างไสวมากขึ้นกว่าเดิมยิ่งๆขึ้นไป ซึ่งในตอนนั้น ใจของท่านมีความเต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขและความปีติใจอย่างสุดๆ นอกจากนั้น กระแสบุญเหล่านี้ยังส่งผลทำให้ใจของท่านสามารถคลายจากความกังวล และความผูกพันต่างๆได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนในที่สุด กายละเอียดของคุณพ่อของลูกก็เริ่มสว่างขึ้น สว่างขึ้น...และสว่างขึ้น

 

 

 

 

        ครั้นใจและกายของคุณพ่อของลูกสว่างไสวด้วยกระแสแห่งบุญแล้ว ทันใดนั้น กายของคุณพ่อของลูกก็ได้แปรเปลี่ยนจากกายมนุษย์ละเอียดไปเป็นกายทิพย์ หรือกายเทพบุตร ที่มีเครื่องประดับประณีตงดงาม พร้อมกับแวบไปปรากฏอยู่บนรัตนบัลลังก์หลักกลางวิมานของท่าน ซึ่งอยู่บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสหนึ่ง ในทันที ซึ่งวิมานของเทพบุตรใหม่ หรือคุณพ่อของลูก จะเป็นวิมานที่มีขนาดใหญ่ สวยงาม และมีความวิจิตรตระการตาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในตอนที่ท่านแวบไปบังเกิดเป็นเทพบุตรแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เฟสหนึ่ง วิมานของท่านก็พลันบังเกิดขึ้นพร้อมกับกายของท่านด้วย ซึ่งในตอนนั้น แสงสว่างอันเจิดจ้าสวยงามจากตัววิมานของเทพบุตรใหม่ จะส่องสว่างเป็นประกายระยิบระยับออกไปโดยรอบ จนเป็นที่สะดุดตาสะดุดใจ และมีความโดดเด่นกว่าวิมานของเหล่าเทพบุตรเทพธิดาที่มีวิมานอยู่โดยรอบมากเป็นพิเศษ เพราะวิมานของเทพบุตรเทพธิดาที่อยู่โดยรอบวิมานของเทพบุตรใหม่ จะเป็นวิมานที่เกิดขึ้นก่อน ซึ่งจะมีรัศมีสีสันที่อยู่ตัวอยู่แล้ว

 

 

 

 

        ทันทีที่เทพบุตรใหม่ลืมตาขึ้นอีกครั้ง ท่านก็ได้พบกับความอัศจรรย์ใจอย่างสุดๆ เพราะในตอนนี้ ตัวท่านเองได้กลายเป็นเทพบุตรรูปงามที่มีบริวารอันเป็นทิพย์จำนวนมากมาย มายืนรายล้อมคอยต้อนรับท่านอยู่รอบรัตนบัลลังก์กลางวิมานของท่าน เมื่อเทพบุตรใหม่ หรือคุณพ่อของลูก ได้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวท่านมีแต่ความสวยสดงดงามอลังการเช่นนั้นแล้ว ท่านก็ทราบในทันทีว่า “ในตอนนี้ ตัวท่านได้มาบังเกิดอยู่บนสวรรค์เรียบร้อยแล้ว”