Bipolar Disorder โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว


[ 21 พ.ค. 2554 ] - [ 18277 ] LINE it!

 
Bipolar Disorder โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
 
bipolar disorder โรคอารมณ์แปรปรวน
ลักษณะอาการโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
 
     หากสังเกตเห็นใครบางคนที่มีอารมณ์ผิดปกติไป เช่น อารมณ์แปรปรวนเร็วมาก ใช้จ่ายเกินตัว หรือใช้จ่ายผิดปกติ บางครั้งอารมณ์ไม่เหมือนตัวของเขา อย่างเช่น ซึมเศร้าเกินเหตุ คึกคักเกินไป ถ้าเราเจออย่างนี้ให้เราสันนิษฐานก่อนเลยว่า เขาอาจจะเป็นโรคไบโพล่า (Bipolar) หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว โรค Bipolar เป็นโรคที่คนไทยกว่า 600,000 คนกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่เยอะมากเลยทีเดียว แล้ว Bipolar คืออะไร
 
     Polar คือ ขั้ว ถ้า Bipolar ก็แสดงว่ามีสองขั้วอยู่ในคนๆ เดียวกัน จริงๆ แล้ว Bipolar คือ ภาวะซึมเศร้าขั้วหนึ่ง กับภาวะคึกคักเกินเหตุอีกขั้วหนึ่ง แต่ไม่ได้เกิดพร้อมกัน แต่จะเกิดสลับกันระหว่างอารมณ์ซึมเศร้าที่เรียกว่า ดีเปรสชั่น (Depression) กับอาการที่คึกคักเกินไปที่เรียกว่า มาเนีย (Mania) ก็จะสลับกันระหว่าง mania กับ depression จึงเรียกว่าโรคซึมเศร้าชนิด Bipolar หรือโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
 
อาการซึมเศร้าเป็นหนึ่งในอาการของโรค bipolar disorder
ภาวะซึมเศร้า (disorder) เป็นส่วนหนึ่งของโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
 
     ในภาวะซึมเศร้าหรือ depression จะเป็นอาการที่เราสังเกตออกได้ง่าย จะอยู่ในภาวะที่อารมณ์แปรปรวนและอ่อนไหวมีอะไร หรือมีใครพูดกระทบนิดนึงก็จะร้องไห้ หรือบางคนก็จะหยุดนิ่งเฉยๆ สามารถที่จะหยุดนั่งนิ่งๆ เฉยๆ เป็นเวลานาน ไม่อยากทำอะไรเลยทั้งสิ้น จะขาดความมั่นใจในตัวเอง สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจ
 
 
อาการคึกคักจนเกินเหตุ อีกอาการของโรค bipolar disorder หรือ โรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
อาการรื่นเริง คึกคัก จนเกินไป บ่งบอกได้ว่าอาจเป็นโรคอารมณ์แปรปรวนสองขั้ว
 
     ส่วนในภาวะคึกคัก หรือ Mania ในอาการ mania นี้มีได้หลายอย่าง เช่น อาการรื่นเริงเกินเหตุ พูดจาฉะฉาน สร้างความเฮฮาให้หมู่พวกเพื่อนฝูง คิดเร็ว ทำเร็ว คิดข้ามขั้นตอน โครงการเก่ายังไม่เสร็จก็ไปคิดโครงการใหม่ขึ้นมาอีก เป็นคนลักษณะพลังงานเหลือเฟือ นอนไม่ค่อยหลับเพราะมัวแต่คิดโครงการนู้นนี่ และที่สำคัญคือขาดความยับยั้งชั่งใจ เช่น พอคิดโครงการออกก็โทรศัพท์ไปหาหัวหน้าตอนตี 1 ตี 2 เป็นต้น อาการ mania นี้ บางครั้งเราจะดูไม่ออก
 
     อาการเหล่านี้บางคนเป็นทั้งสัปดาห์ บางคนเป็นเดือนก็มี ตอนที่เป็นซึมเศร้าเจ้าตัวเขาจะรู้ตัว แต่ตอนที่เป็น mania ข้อเสียคือ เขาจะไม่รู้ตัวเองเลย เพราะเขาจะมองว่าตอนนี้ตัวเองอารมณ์ดี มีความคิดแจ่มใสไม่รู้ตัว
 
      อาการ Bipolar จริงๆ แล้ว เป็นโรคที่เกิดจากอาการสารเคมีในสมองเสียการสมดุล คือภาวะที่สารเซโรโตนิน Serotonin ถูกใช้ไปจนเหลือน้อยเหลือแต่สารนอร์อิพิเนฟรินอยู่ในสมองมากเกินไป เพราะฉะนั้นโรค Bipolar เกิดจากสารเคมีในสมองแปรปรวน
 
เหตุกระตุ้นที่ทำให้สารเคมีในสมองแปรปรวนคือ
 
1. ความเครียด เช่น เครียดจากงาน เครียดจากปัญหาเศรษฐกิจ เครียดต่างๆ นาๆ และเครียดในความสัมพันธ์ เช่นการสูญเสียคนที่ตัวเองรัก ซึ่งข้อนี้คนรอบข้างจะต้องคอยเป็นกำลังใจให้
 
2. การอดนอน เพราะการอดนอนทำให้สารเซโรโตนิน ถูกเผาไป การอดนอนมีหลายสาเหตุ เช่น หมกมุ่นสนใจอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งมากจนเกินไป
 
3. การใช้ยา อย่างเช่น บางคนอยากลดน้ำหนักจึงต้องใช้ยา โดยยานั้นกลับไปส่งผลต่อระบบประสาทจนเป็นโรค Bipolar
 
การวินิจฉัยโรค
 
      โรค Bipolar วินิจฉัยไม่ยาก จากการพูดคุย สอบถามญาติมิตร คนสนิท ถ้ามีอาการต่างๆ เหล่านี้ก็ให้ไปปรึกษาหมอโดยด่วนเลย เพราะโรคนี้ไม่ใช่เป็นภาวะทางอารมณ์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นโรคที่ต้องแก้ไขด้วยยาพอแพทย์วินิจฉัยเสร็จ ก็จะให้ยาเพื่อปรับสารเคมีในสมองในกลับมาสมดุล ถ้าทานยาโดยต่อเนื่องอาการก็จะกลับมาปกติเหมือนเดิม แพทย์อาจจะให้ยาให้มาทานเพิ่มเติมต่อเนื่องอีก 6 เดือน เพื่อควบคุมโรคให้นิ่งสนิทเสียก่อน
 
โรค bipolar disorder สามารถรักษาให้หายได้
โรค bipolar สามารถรักษาให้หายด้วยการทานยาปรับสมดุลเคมีในสมอง
 
     อาการ Bipolar นี้อาจไม่หายขาด บางทีการขาดยาอาจกระตุ้นให้โรคนี้กลับคืนมาใหม่ ทางที่ดีคือเมื่อทานยาจนอาการดีขึ้นแล้วก็ควรฝึกสมาธิ เพื่อจะได้มีกำลังใจมากพอ เพื่อจะได้แยกแยะออกว่าสิ่งไหนเป็นสิ่งที่ดี จะได้ไม่เครียดจนเกิดภาวะซึมเศร้าอีก
 
หลักการเพื่อให้ไม่เกิดโรคนี้ขึ้นคือ
 
1. เรื่องการพักผ่อน นอนให้พอ กำหนดเวลานอนและเวลาตื่นไว้เลย แล้วทำตามนั้นให้ได้ นอนให้ได้ 8 ชั่วโมงเป็นดี
 
2. การออกกำลังกาย ควรออกกำลังกายให้ได้อย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วันขึ้นไป ครั้งหนึ่งก็ประมาณ 3 ชั่วโมง เพราะเมื่อเราแข็งแรงแล้ว บุคลิกก็ดี มีความว่องไว
 
3. อาหาร เพราะคุณจะเป็นอะไรขึ้นอยู่กับที่คุณกิน กินให้ถูกสุขลักษณะ กินให้พอดี แล้วอะไรที่ทำลายสุขภาพ เช่น แอลกอฮอล์ เหล้า เบียร์ ไวน์ อาหารหมักดอง อาหารมันจัดจนเกินไป ควรหลีกเลี่ยง
 
4. การรักษาอารมณ์  อารมณ์ของใจกับสุขภาพส่งผลต่อกันอย่างชัดเจน เช่น บางทีเราทำท่าอาการไม่ดีเหมือนจะเป็นหวัด คั้นเนื้อคั้นตัว เป็นต้น ถ้าเกิดเราทำใจนิ่งๆ จะรู้สึกว่าเราสามารถคุมอาการนั้นได้จน ไม่เจ็บไม่ป่วยเลย แต่ถ้าเกิดใจหงุดหงิดในช่วงนั้นก็จะป่วยไปเลย ให้ลองสังเกตดู รักษาใจได้เมื่อไหร่ อาการป่วยนี้เราจะคุมอาการได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์เลย หนักจะเป็นเบา เบาก็จะได้หาย
 
5. ไม่ดื้อหมอ เมื่อไม่สบายไปหาหมอ หมอบอกอะไรก็ให้ปฏิบัติตามที่เขาแนะนำ จะได้หายจากอาการป่วยได้เร็ว
 
วิธีการป้องกันโรค Bipolar
 
     ร่างกายจะแข็งแรงได้ก็ต้องออกกำลังกาย จิตใจจะเข็มแข็งได้ก็ต้องทำสมาธิ ทำจิตให้หยุดนิ่ง ก็จะส่งผลให้เราผ่านวิกฤตต่างๆ ได้อย่างง่ายๆ
 
รับชมวิดีโอ รายการทันโลกทันธรรม
 
 


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
Facebook คืออะไร ประวัติของ Facebook และวิธีการสมัคร FacebookFacebook คืออะไร ประวัติของ Facebook และวิธีการสมัคร Facebook

การนอนดึกส่งผลต่อสุขภาพอย่างไรการนอนดึกส่งผลต่อสุขภาพอย่างไร

Negative Thinking ในตัวคุณ  บอกอะไร!Negative Thinking ในตัวคุณ บอกอะไร!



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

Review รายการ