คนในความลับ

คนในความลับ

คนดีในความลับคือชอบปิดทองหลังพระ ให้โดยไม่ได้หวังประโยชน์หรือลาภยศสรรเสริญ

เรื่อง : พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ (สมชาย ฐานวุฑฺโฒ)

จากรายการทันโลกทันธรรม ออกอากาศทางช่อง GBN

คนที่ชอบให้ ชอบช่วยเหลือผู้อื่นโดยไม่ได้หวังอะไร นอกจากหวังดีมีพื้นฐานจิตใจอย่างไร?

1.บุคคลเหล่านี้มักจะเป็นคนที่คิดดี มองโลกในแง่ดี มีจิตใจที่ดีงาม มีคุณธรรมจริยธรรม มีความซื่อสัตย์เป็นพื้นฐาน นอกจากนั้นก็มีสำนึกที่ดี อยากสร้างสิ่งดีๆ ให้กับสังคม

2.เป็นคนที่มีน้ำใจ อยากจะแบ่งปันสิ่งที่ตัวเองมีให้กับผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทองหรือว่าความสุขก็อยากจะปันให้กับสังคม ให้กับบุคคลรอบข้าง

3.เป็นเรื่องของจิตสาธารณะ เป็นการเสียสละความสุขส่วนตัวให้กับประโยชน์สุขส่วนรวม คนที่มีจิตอาสาเหล่านี้ ก็มักจะเข้าใจและเห็นใจในความเดือดร้อนของคนอื่น และเข้าไปช่วยเหลืออยากให้คนอื่นพ้นจากความทุกข์ อยากให้คนอื่นนั้นมีความสุข

4.ทำความดีเพื่อความดี เป็นการทำความดีโดยไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย บางครั้งก็นึกว่าเราทำความดีโดยไม่หวังอะไร แต่เวลามีคนมาชมจะรู้สึกดี หากในการทำความดีครั้งต่อไปไม่มีใครมาชม จะรู้สึกว่าครั้งนี้ไม่เห็นมีใครมาชื่นชม ครั้งต่อไปจะทำดีหรือไม่ทำดี บางครั้งเหมือนกับเราไม่ได้คิดอะไร แต่ลึกๆแล้วก็หวังคำชมจากคนอื่น

คนที่ปิดทองหลังพระจะไม่ได้หวังอะไรเลย ถึงแม้จะไม่มีใครมาชม หรือบางครั้งมีคนมาตำหนิด้วยซ้ำไป ก็ยังทำความดีอยู่ เพราะมองว่าสิ่งๆ นั้นเป็นสิ่งที่ดี

หากอยากจะเป็นผู้ให้ที่ดีเราต้องยึดหลักอะไรบ้าง?

1.ต้องให้สิ่งของด้วยความปรารถนาดี ปรารถนาให้กับผู้รับหรือสังคมมีความสุข ไม่หวังผลตอบแทนอะไรเลย นอกจากความสุขเล็กๆน้อยๆที่ได้จากการให้

2.สิ่งที่ให้ ควรให้ในสิ่งที่ดี เช่น ให้สิ่งของสิ่งของที่มีคุณภาพ ที่ผู้รับเอาไปใช้ต่อได้ เช่น การให้เสื้อผ้า หากเป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้ว ก็ควรอยู่ในสภาพดี สามารถใช้ต่อได้

นอกจากการให้สิ่งของแล้ว สามารถให้กำลังใจได้ด้วยคำพูดที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ นอกจากแรงบันดาลใจ แล้วก็สามารถให้ความรู้กับผู้อื่นไปต่อยอดเพื่อประกอบอาชีพ หรือให้โอกาสกับคนที่ไม่มีโอกาส

3.ให้ในสิ่งที่สามารถให้ได้ โดยที่ให้แล้วไม่เดือดร้อน หรือรู้สึกไม่สบายใจในภายหลัง เช่น มีเพื่อนสนิทมายืมเงิน อีก 3 เดือน จะมาคืน แต่เป็นเงินจำนวนมากที่ไม่เราสามารถให้ได้ทั้งหมด ต้องไปยืมญาติพี่น้องเพื่อเอามาให้เพื่อน ปรากฏว่า 3 เดือน เพื่อนไม่สามารถเอามาคืนได้ ก็จะเป็นปัญหาต่อไป เพราะฉะนั้นการที่จะให้อะไรกับใคร ต้องดูศักยภาพของตัวเองด้วยว่า ให้ได้ในระดับไหน ให้ไปแล้วเกิดความสบายใจกับการให้หรือไม่

บางคนไม่เชื่อเรื่องการทำดีแล้วได้ดี เพราะที่ผ่านมาทำดีแล้วไม่ได้ดี เนื่องจากอะไร?

มีเหตุผลหลัก 2 ประการ คือ 1.ทำดีไม่ถูกดี คือ ใช้วิธีการไม่ถูกต้อง เช่น บางครั้งมีผู้ไม่หวังดี มาตีสนิทเพื่อหวังผลประโยชน์ โดยที่เราไม่รู้ตัว เอาใจเราทุกอย่าง สรรเสริญเยินยอ ทำดีกับเรา ในที่สุดก็กอบโกยผลประโยชน์จากเรา โดยอาจจะยืมเงินหรือมาหลอกเอาเงินไปลงทุน เราก็มานั่งตัดพ้อ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ไม่น่าจะมาตัดพ้อเพราะเป็นเรื่องของการรู้เท่าไม่ถึงการณ์ หรือการที่ไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน ถ้าพิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้วลงทุนอย่างมีเหตุผล โดยไม่หวังกำไรเกินควร หรือดูผลประกอบการให้เป็น ก็จะไม่โดนหลอก เพราะฉะนั้นต้องใช้วิธีการทำสิ่งที่ดี หรือตอบสนองความดีกับคนที่มาติดต่อให้ถูกวิธี

2.เป็นการกระทำในอดีตที่เคยทำไว้ เช่น บางคนไม่ค่อยตั้งใจเรียนตั้งแต่ประถมจนกระทั่งจบมหาวิทยาลัย ได้เกรด 2.01 แบบปริ่มๆ จบแล้วไปทำงาน ตั้งใจทำงานมาก เพราะรู้ตัวว่าต้องตั้งใจทำงาน ไม่เช่นนั้นอาจโดนไล่ออก ผลปรากฏว่าไม่เป็นที่พอใจของนายจ้างมากนัก จึงรู้สึกท้อแท้อุตส่าห์ทำดี แต่ไม่ได้ดี แบบนี้ต้องพิจารณาดูว่าพื้นฐานเราอาจไม่แน่น เพราะว่าไม่ได้ตั้งใจเรียนมาก่อน แต่เพื่อนตั้งใจเรียนไม่ต้องทำงานก็ทำได้เพราะว่าพื้นฐานแน่นกว่า เพราะฉะนั้นเรื่องของการกระทำในอดีต จะส่งผลในปัจจุบันเหมือนกัน

ตัวอย่างคนที่ชอบปิดทองหลังพระ

ศาสตราจารย์ เภสัชกรหญิง ดร. กฤษณา ไกรสินธุ์ เคยทำงานกับองค์การเภสัชกรรมที่ประเทศไทย แล้วลาออกไปตั้งโรงงานผลิตยาที่คองโก้ ไปสอนวิธีการทำยาต้านไวรัสเอดส์ที่คองโก้ และเมื่อทำสำเร็จ ก็ย้ายไปประเทศเอริเทรีย ไปตั้งอีกโรงงานหนึ่ง ไปช่วยตั้งโรงงาน แล้วก็ย้ายไป เเทนซาเนีย เบนิน ไลบีเรีย เป็นการช่วยเหลือผู้ยากไร้อย่างแท้จริง ไม่ได้ประชาสัมพันธ์ตัวเองให้ตัวเองมีชื่อเสียง แต่เห็นแก่ความสุขของคนอื่น ได้ทำประโยชน์เพื่อผู้อื่นโดยเฉพาะผู้ที่ปิดทองหลังพระนั้น เป็นผู้ที่ไปเติมเต็มในส่วนที่คนอื่นไม่อยากเติม เสียสละโดยที่ไม่ได้ลาภยศสรรเสริญใดๆ เป็นสิ่งที่พวกเราทุกคนน่าจะนำไปปฏิบัติ

ดังพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 ที่ตรัสว่า “การปิดทองหลังพระเมื่อคราวจำเป็นก็ต้องปิดว่าที่จริงแล้วคนโดยมากไม่ชอบปิดทองหลังพระกันนัก เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองข้างหน้า ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย พระจะเป็นพระที่บริบูรณ์ไม่ได้”

ทันธรรม...โดย พระครูปลัดสุวัฒนโพธิคุณ

คนในความลับ ความหมายคือ การปิดทองหลังพระนั่นเอง เป็นการทำความดีโดยที่คนอื่นไม่ได้รู้เรื่องด้วย เหมือนปิดทองหลังพระ ทำไปเรื่อยๆ จนสุดท้ายทองล้นหลัง จากหลังพระแล้วมาหน้าพระ ทำดีอย่างนี้สังคมประทับใจมากกว่า เพราะยุคนี้โซเชียลมีเดีย ใครทำอะไรก็สามารถประกาศให้ชาวโลกรู้ได้ ความประทับใจสู้คนที่ทำเงียบๆ ไม่ได้

หากแต่ละคน ตั้งใจทำดีเพื่อคนอื่น มีจิตอาสา มีจิตสาธารณะ มีน้ำใจเอื้อเฟื้อแบ่งปัน คนแต่ละคนไม่เท่ากัน เพราะคนรวย จน ฉลาด ไม่เท่ากัน ขยันหมั่นเพียรหรือขี้เกียจก็ไม่เหมือนกัน จะให้ฐานะคนทุกคนทั้งโลกเท่ากันหมด เป็นไปไม่ได้ แต่หัวใจสำคัญคือ คนที่รวยกว่ามีทรัพย์มากกว่าต้องมีน้ำใจให้กับคนที่ขาดโอกาส ช่วยเหลือให้เขาขึ้นมา แล้วก้าวไปด้วยกัน อาจไม่ได้เท่ากันหมด แต่อย่าให้ห่างกันจนเกินไป อย่างน้อยปัจจัย 4 ต้องพอใช้ ช่วยเหลือเกื้อกูลมีน้ำใจอย่างนี้สังคมก็จะอยู่กันได้ ถ้าคนรวยเอารัดเอาเปรียบจนคนจนแทบจะย่ำแย่ กินยังไม่มีจะกิน สุดท้ายก็ทนไม่ไหว อาจเกิดปฏิวัติ หรือเป็นโจรเป็นขโมย คนรวยจะอยู่ไม่เป็นสุข สู้อยู่ด้วยกัน มีน้ำใจต่อกันประคับประคองกันไป อย่างนี้ดีกว่า จะได้อย่างนี้ได้ก็ต้องปลูกฝังการมีจิตอาสาต่อคนทุกคน

หากปลูกฝังให้ลูกแต่ละคนมีจิตสาธารณะอย่างน้อยในครอบครัว และขยายวงกว้างออกไปพี่มีน้ำใจกับพี่น้อง น้องมีน้ำใจกับพี่เพราะบางครอบครัว น้องเก่งกว่าพี่ ผ่านไป 20 30 40 ปี ฐานะอาจจะต่างกันอาจจะเป็น สิบ เป็นร้อยเท่า เพราะแต่ละคนฝีมือไม่เท่ากัน แต่คนที่มีฐานะดีก็ต้องมีน้ำใจต่อคนที่มีฐานะน้อยกว่า ดูแลช่วยเหลือเกื้อกูลกัน ครอบครัวจะอบอุ่นร่มเย็น แล้วรู้สึกว่าเครือข่ายวงวานหมู่ญาติเหนียวแน่นมีพลัง พลังแห่งหมู่ญาติ เกิดอะไรขึ้นมาทุกคนพร้อมจะยื่นมือเข้ามาเป็นกำลังใจแล้วพร้อมจะช่วยเหลือคนละไม้คนละมือ

คนเราจะมีทรัพย์มากแค่ไหน ตำแหน่งสูงแค่ไหนก็ตาม ลำพังตัวคนเดียวเอาตัวรอดยาก ถ้ามีน้ำใจมีจิตอาสาทำดีต่อทุกคน เมื่อลำบากเดือดร้อนจะมีคนมาช่วยให้ผ่านไปได้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเกิดก็ต่อเมื่อเราเป็นคนดี ทำดีเพื่อความดี ทำดีโดยไม่คิดว่าคนอื่นจะรู้จะเห็นหรือไม่ ทำดีไม่ได้หวังจะเอาหน้า แต่ทำเพราะทำแล้วสบายใจ เห็นใครเขาลำบาก หรือบางทีเขาไม่ได้เดือดร้อนอะไรมาก ถ้าช่วยแล้วเขาก็จะสะดวกขึ้น มีความสุขมากขึ้นก็ช่วย ช่วยไปแล้วเขามีความสุข เราก็สบายใจแล้วก็ชื่นใจ ไม่ได้คิดว่าเขาจะมาตอบแทนเราอย่างไร

มหาเศรษฐีใหญ่ของโลก เช่น บิลเกตเอาสมบัติตัวเองเกือบทั้งหมด มาตั้งเป็นมูนิธิ เพื่อช่วยเหลือการวิจัยรักษาโรคต่างๆ และสนับสนุนการศึกษา ส่วน วอร์เรน บัฟเฟต นักลงทุนใหญ่ของโลก เอาสมบัติที่มีร้อยละ 90 ยกให้มูลนิธิบิลเกต เมื่อเห็นบิลเกตทำได้ดี ไม่ได้ยึดติดกับสมบัติจนเกินไป แค่พอกินพอใช้ที่เหลือคืนกลับเข้าสู่สังคม

สิ่งพื้นฐานที่ต้องมีคือ จิตสาธารณะที่ปลูกฝังขึ้นมาแต่ละคน แล้วประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นไม่ใช่ เฉพาะชาตินี้แต่เกิดข้ามพบข้ามชาติ พระอินทร์เป็นพระราชาแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตอนเป็นมนุษย์เกิดในยุคที่ไม่มีพระพุทธศาสนา ไม่รู้จักการปฏิบัติธรรม เพื่อมุ่งพระนิพพานแต่มีจิตสาธารณะ เห็นทางเดินลุ่มๆดอนๆ คนเดินทางแล้วตกหลุมตกร่อง ไม่สะดวก จึงไปช่วยเกลี่ย ปรับถนนให้เรียบ ทำให้แน่น คนเดินเท้าก็สะดวก ช้าง ม้า วัว ควาย เกวียน จะเดินทางก็สะดวก แล้วทำศาลาสำหรับคนเดินทาง คนเหนื่อยจะได้มีที่นั่งพัก มีน้ำให้ดื่ม ขุดสระปลูกบัวด้วยให้สบายตาสบายใจ หรือจะนอนค้างก็ได้ เมื่อทำอย่างนี้มีคนอื่นเห็นแล้วเกิดแรงบันดาลใจ ทำให้อีก 32 คนมาช่วยกัน รวมแล้วทั้งทีม 33 คน ทำดีโดยไม่ได้หวังจะให้ใครรู้ แต่ยังมีคนมาแกล้ง ไปฟ้องพระราชา บอกว่ามฆมานพ กำลังตั้งตัวเป็นใหญ่ซ่องสุมผู้คน อีกหน่อยจะมากบฏกับพระราชา พระราชาให้คนจับมัดมา แล้วถามว่าเธอจะกบฏกับเราหรือ ทำอย่างนั้นได้อย่างไร มฆมานพ บอกเปล่า แล้วก็เล่าความจริงให้ฟังพระราชาจึงชื่นชม แล้วปล่อยตัวมฆมานพไป ผลแห่งความดีนั้นพอละโลกไปแล้ว ส่งให้ไปเกิดเป็นพระราชาแห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ อีก 32 คนที่ร่วมกันทำก็ไปเป็นอนุราชา แห่งสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

จิตอาสา จิตสาธารณะ หากได้ทำผลดีจะเกิดขึ้น ทำในชาตินี้จะสบายใจ ดีใจในความดีที่ตัวเองทำ คนอื่นจะรู้หรือไม่รู้ ไม่ต้องไปอวดใคร ได้ทำ ก็สบายใจ ความดีจะล้นจากหลังพระมาหน้าพระเองในที่สุด แล้วผลบุญนั้นจะส่งให้ไปเกิดในสุคติโลกสวรรค์ เกิดภพต่อไปจะมีคนมาช่วยเหลือเกื้อกูล หรือจะมีคนที่เป็นคนดีเป็นบัณฑิตนักปราชญ์มาเป็นมือเป็นไม้ช่วยให้งานสำเร็จง่ายๆ มีพวกพ้องบริวารก็ล้วนแล้วแต่เป็นคนดี

รับชมคลิปวิดีโอ คนในความลับ : ทันโลกทันธรรม