พิธีตัดปอยผม ขอขมา และพิธีบรรพชาสามเณร ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมระยอง (บ้านช่องลม)

พิธีตัดปอยผม ขอขมา และพิธีบรรพชาสามเณร

ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมระยอง (บ้านช่องลม)

ข่าว BOON NEWS ประจำวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2566

ศูนย์ปฏิบัติธรรมระยอง (บ้านช่องลม) ได้จัดพิธีตัดปอยผม ขอขมา มอบบาตรผ้าไตร และพิธีบรรพชาสามเณร ในโครงการอุปสมบท บูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ประจำปีพุทธศักราช 2566

โดยในภาคเช้าได้ประกอบพิธีตัดปอยผมและปลงผมให้แก่นาคธรรมทายาทกว่า 30 ท่าน โดยภายงานได้รับความเมตตาจากพระอธิการวาริช ติกฺขปญฺโญ เจ้าคณะตำบลบางบุตร เจ้าอาวาสวัดบึงต้นชัน เป็นประธานสงฆ์ ซึ่งนาคธรรมทายาทพน หวานเสนาะ และนาคธรรมทายาทสมศักดิ์ วัฒนเสรี เป็นผู้แทนนาคธรรมทายาท ได้ถวายพานธูปเทียนแพและพานดอกไม้แด่ท่านประธานสงฆ์ ก่อนที่นาคธรรมทายาทจะได้กล่าวคำขอตัดปอยผม

และในการนี้ท่านประธานสงฆ์และคณะสงฆ์ก็ได้ตัดปอยผมให้แก่นาคธรรมทายาทเป็นปฐมเริ่ม เพื่อความเป็นสิริมงคลให้แก่นาคธรรมทายาท พร้อมทั้งได้กล่าวให้โอวาทแก่ทุกท่านที่ได้ตัดสินใจเข้าโครงการอุปสมบทในครั้งนี้ โดยมีใจความตอนหนึ่งว่า ทุกท่านในวันนี้ที่ได้บวช ถือว่ามีบุญมาก เป็นบุญเก่าของเราทุกท่าน ที่ได้เข้ามาบวช โครงการนี้ดีมากๆ เลย ได้ฝึกฝนอบรมธรรมทายาทได้ดีมาก ถ้าเราปฏิบัติดี เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลง ทุกพฤติกรรมของเรา สิ่งไหนที่ไม่ดี เราต้องตัดทิ้งทันที และอะไรที่ดีให้เราทำดีทันที เรามาสร้างเกราะป้องกันตัวเราเองให้พ้นจากสิ่งไม่ดี จากนั้นนาคธรรมทายาทธนกฤต สุระเสน และนาคธรรมทายาทชาญชัย ปรีชาจารย์ ได้เป็นผู้แทนถวายเครื่องไทยธรรมและระเบียบดอกไม้แด่ท่านประธานสงฆ์ ก่อนที่จะได้ถ่ายภาพประวัติศาสตร์ร่วมกัน

จากนั้นเป็นพิธีกรรมที่ผู้ปกครองต่างรอคอย คือพิธีตัดปอยผมให้แก่บุตรหลาน ที่ได้ตั้งใจเข้ามาบวช ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและปลื้มปีติของเจ้าภาพผู้มีบุญ และผู้ปกครอง เป็นภาพบุญที่เกิดจากศรัทธาและความรักในพระพุทธศาสนา ที่ชาวพุทธรวมใจสืบทอดอายุพระพุทธศาสนา จากนั้นได้ทำพิธีปลงผมโดยมีพระอาจารย์และคณะสงฆ์เป็นผู้ปลงผมให้แก่นาคธรรมทายาท เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการปลงผมนั้นสำคัญ เพื่อแสดงตนว่า เป็นผู้ปรารภนาพ้นจากเพศคฤหัสถ์ เตรียมเข้าสู่ความเป็นเพศสมณะ และเป็นการตัดความกังวล ความห่วงใย เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ในเส้นทางธรรม

สำหรับในภาคบ่ายเป็นพิธีขอขมา มอบบาตร และผ้าไตรให้แก่นาคธรรมทายาทจากท่านเจ้าภาพ ผู้ปกครอง โดยก่อนที่นาคธรรมทายาทจะกล่าวคำขอขมาต่อผู้ปกครอง ทุกท่านก็ได้รวมใจกันปฏิบัติธรรมเพื่อกลั่นกายใจให้บริสุทธิ์ จากนั้นเป็นพิธีขอขมา มอบบาตร และผ้าไตร ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นใจ ชุ่มเย็นด้วยบุญกุศล นับเป็นอีกหนึ่งช่วงพิธีกรรมสำคัญที่น้ำตาแห่งความปลื้มปีติล้นใจ ทั้งผู้ปกครองและนาคธรรมทายาท การที่นาคธรรมทายาททุกท่านได้ตัดสินบวชนั้น เพราะได้เห็นความสำคัญในการเข้าร่วมโครงการอุปสมบทในครั้งนี้ เพื่อน้อมบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ บวชทดแทนคุณบิดามารดา และจะได้เป็นอายุพระพุทธศาสนา รวมทั้งจะได้รับการฝึกฝนอบรมตนให้มีใจที่บริสุทธิ์ให้ยิ่งๆขึ้นไป ทั้งยังจะได้ศึกษาคำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าให้เข้าใจท่องแท้ จากนั้นได้ประกอบพิธีบรรพชาสามเณร โดยได้รับความเมตตาจากพระครูพิพัฒน์ชยาภรณ์ เจ้าคณะอำเภอบ้านค่าย เจ้าอาวาสวัดบ้านค่าย เป็นพระอุปัชฌาย์ ซึ่งผู้แทนนาคธรรมทายาท ได้น้อมนำพานธูปเทียนแพและพานดอกไม้ถวายแด่พระอุปัชฌาย์ ก่อนที่นาคธรรมทายาทจะได้กล่าวคำขอบรรพชาด้วยความพร้อมเพรียง ในการนี้พระอุปัชฌาย์ ได้ให้โอวาทมูลกรรมฐานแก่นาคธรรมทายาท เพื่อประคองจิตให้สูงขึ้นจากเพศฆราวาส เป็นสมณะผู้ถึงพร้อมด้วยศีลาจารวัตรอันงดงาม

จากนั้นพระอุปัชฌาย์ พร้อมด้วยคณะสงฆ์ ก็ได้คล้องอังสะให้นาคธรรมทายาท ก่อนที่ประกอบพิธีกล่าวคำขอสรณคมน์และศีล เมื่อบรรพชาเป็นสามเณรเรียบร้อยแล้ว พระอุปัชฌาย์ได้กล่าวให้โอวาทอันทรงคุณค่า ว่าการได้เกิดเป็นชาย นับว่าเป็นผู้มีบุญมาก มีร่างกายครบถ้วนสมบูรณ์ที่สามารถบวชได้ ก่อนมาบวชนั้นได้เอาร่างกายไปทำมาหากินอยู่ทางโลก ถือว่ายืนด้วยขาเพียงข้างเดียว แต่เมื่อมาบวชอยู่ทางธรรมแล้วนั้น ถือว่าได้ยืนด้วยขาทั้งสองข้างอย่างสมบูรณ์ คือทั้งทางโลกและทางธรรม ชีวิตก็จะมีความมั่นคงและปลอดภัย สำหรับพิธีกรรมทุกๆ ขั้นตอนในวันนี้ นำมาซึ่งความปลื้มปีติของผู้ปกครอง ผู้สนับสนุนโครงการบวช และผู้ทำหน้าที่เชิญชวนบวชในโครงการอุปสมบท บูชาธรรมมหาปูชะนียาจารย์ในปีนี้