ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 153


[ 21 ก.พ. 2552 ] - [ 18262 ] LINE it!

ทศชาติชาดก
เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี
ตอนที่ 153
 

    จากตอนที่แล้ว มโหสถได้บอกรายละเอียดของแผนการในครั้งนี้ให้สุวโปดกฟังว่า “พ่อทราบมาว่าที่ห้องบรรทมของพระเจ้าจุลนี มีนางนกสาลิกาตัวหนึ่งเป็นนกที่ฉลาดมาก เจ้าจงไปที่นั่นแล้วทำความสนิทสนมกับนาง แล้วจึงล้วงถามความลับจากนางมาโดยละเอียด เพราะนางนกรู้ความลับทั้งหมดของพระเจ้าจุลนีกับเกวัฏ”
 
    “วางใจเถิดนาย เกี้ยวหญิงน่ะไม่ใช่เรื่องยากดอก” สุวโปดกรับสนองด้วยความชื่นบาน
 
    “แต่เกรงว่ามาถูระจะไปหลงเสน่ห์นางนกสาลิกา แล้วไม่กลับมาหาพ่อน่ะสิ นางนกสาลิกานั่นสวยเหลือเกิน แถมยังฉลาดเอาการทีเดียว พ่อเกรงแต่หัวใจของเจ้าจะถูกถ้อยคำอ่อนหวานของนาง มัดใจไว้จนคลายไม่ออก” มโหสถแกล้งเย้า
 
    “ถึงนางจะสวยงามแค่ไหน ก็คงไม่มีอำนาจพอที่จะเหนี่ยวรั้ง ให้ข้าน้อยหลงลืมหน้าที่อันสำคัญนี้ไปได้หรอก แม้ที่สุดชีวิตของข้าน้อยก็ยอมสละได้เพื่อหน้าที่ สิ่งนี้อยู่ในใจของข้าน้อยเสมอ ต่อให้ต้องตายก็จะตายในสนามรบ จะไม่ยอมเป็นศพนอกสนามอย่างเด็ดขาด ถึงแม้ข้าน้อยจะเป็นวิหคก็ยังมีจิตใจที่เกินร้อย พร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่สนองงานของนายอย่างเต็มกำลังสุดความสามารถเจ้าข้า” สุวโปดกยืนยันมั่นคง
 
    “อืม...ต้องอย่างนี้ ลูกรัก เจ้าช่างฉลาดนัก พ่อเห็นจะพอวางใจได้ล่ะ” มโหสถยิ้มด้วยความเบิกบาน พลางลูบศีรษะเจ้าสุวโปดกด้วยความเมตตา แล้วให้กินข้าวตอกคลุกน้ำผึ้ง ให้ดื่มน้ำผึ้ง พร้อมกับเอาน้ำมันทาที่ขนปีก แล้วปล่อยให้บินไปทางปัญจาลนคร สุวโปดกได้บินเฉียงไปยังแคว้นสีวีก่อน เพื่อเก็บข้อมูล สำหรับวางแผนตามอุบายในภายภาคหน้า แล้วก็บินต่อไปยังปัญจาลนครทันที สุวโปดกก็บินไปจับบนโดมทองปลายยอดพระมหาปราสาทของพระเจ้าจุลนี
 
    พลางส่งเสียงขานเรียกนกสาลิกา ด้วยสำเนียงเจื้อยเแจ้วจับใจว่า “สาลิกาจ๋า เจ้าอยู่ที่ไหนกัน ทำอย่างไรฉันจึงจะได้พบเธอเล่า”
 
    ขณะนั้น นกสาลิกาจับคอนอยู่ในกรงทองเรือนน้อยๆของนาง ซึ่งแขวนไว้ในห้องพระบรรทมของพระเจ้าจุลนี ครั้นได้ยินเสียงร้องเรียกของสุวโปดกแว่วผ่านสายลมมา จิตใจก็ไหวระรัวไปตามเสียงนั้น นางนึกในใจว่า “ใครกันหนอมาส่งเสียงขานเรียกเรา เหมือนกำลังเพรียกหาคนรัก ช่างคร่ำครวญชวนให้ขานตอบเสียจริง” แล้วนกสาลิกาก็บินไปจับที่สุวรรณสีหบัญชรใกล้ที่บรรทมของพระราชา พลางขานรับสามครั้งด้วยเสียงไพเราะปานกัน
 
    สุวโปดกได้ยินเสียงที่นกสาลิกาตอบรับ ก็บินผ่านช่องพระแกลมาตามเสียงของนาง จนมาถึงสีหบัญชรที่นางสาลิกาจับอยู่ ครั้นตรวจดูจนแน่ใจว่าปลอดภัยแล้ว จึงค่อยๆบินเข้าไปใกล้ๆ
 
    นางนกสาลิกาเพียงได้เห็นสุวโปดกครั้งแรกเท่านั้น จิตใจของนางก็พลันอ่อนระทวยเหมือนถูกไฟเผาลน จนเกินที่จะห้ามใจได้ นางรีบเชื้อเชิญให้สุวโปดกเข้ามาเกาะเคียงกันบนสุวรรณสีหบัญชร
 
    สุวโปดกไม่รอช้า รีบถลาเข้าไปแนบชิดนาง แล้วเอ่ยทักทายด้วยคำหวานกรุยทางว่า “สาลิกาจ๋า เรือนทองของเจ้างามเหลือเกิน ช่างงามสมกับเจ้าของเรือนผู้มีสีสวยมีเสียงไพเราะเช่นเธอ เป็นอย่างไรบ้างจ๊ะ เธอมีความสุขสบายดีหรือ ข้าวตอกกับน้ำผึ้งของเธอบริบูรณ์ดีหรือ เธอคงพอใจในความเป็นอยู่เช่นนี้สินะ เพราะที่นี่ช่างน่ารื่นรมย์ น่าอยู่จริงๆนะจ๊ะ”
 
    ฝ่ายนกสาลิกา เมื่อถูกนกแขกเต้าหนุ่มเอ่ยถามด้วยคำหวานถึงปานนั้น ก็ไม่อาจเฉยเมยอยู่ได้ นางจึงตอบรับอย่างสงวนท่าทีว่า “ท่านผู้มีสีดุจมรกตสดใส ข้าสุขสบายดีตามอัตภาพ ข้าวตอกกับน้ำผึ้งก็มีเพียงพอ ไม่ลำบากดอกจ๊ะ” แล้วนางสาลิกาก็ถามกลับบ้างว่า “สหายเพื่อนยาก ว่าแต่ท่านน่ะ ชื่ออะไรมาจากไหน ใครใช้ให้ท่านมา เพราะก่อนนี้ข้าไม่เคยเห็นท่านเลย”

   สุวโปดกถูกนางสาลิกาถามดังนั้น ก็ยังไม่กล้าบอกความจริง เพราะหากนางรู้ว่าตนมาจากมิถิลานคร นางก็คงไม่ยอมทำความสนิทสนมเป็นแน่ ด้วยปฏิภาณอันว่องไว สุวโปดกจึงคิดว่า “เราเพิ่งบินผ่านแคว้นสีวีมา ดีล่ะ เราควรจะอ้างแคว้นสีวีนี่ล่ะ”
 
    คิดดังนี้แล้ว จึงตอบนกสาลิกาด้วยความสนิทสนมว่า “ฉันหรือจ๊ะ ฉันชื่อสุวโปดกมาไกลจากแคว้นสีวี เมืองอริฏฐบุรีโน่นแน่ะ ฉันอยู่บนปราสาทของพระเจ้าสีวีราช เป็นข้าบ่าวเฝ้าห้องบรรทมของพระองค์จ๊ะ พระองค์ทรงเมตตาฉันเหลือเกิน โปรดให้ฉันไปไหนมาไหนได้ตามปรารถนา มิได้กักขังไว้ในเรือนทองตลอดเวลาอย่างเธอดอกจ๊ะ”
 
    “เจ้าเหนือหัวของข้าก็เมตตาข้าเหมือนกัน” นางเป็นฝ่ายอวดบ้าง “ก็ท่านเห็นเรือนทองของข้าแล้วมิใช่หรือ นั่นไงเปิดอยู่ตลอดเวลา ข้ามีสิทธิ์จะไปไหนมาไหนก็ได้ แต่ข้าจะไม่ไปไหนนอกเสียจากบริเวณห้องบรรทม”
 
    สุวโปดกสงสัย จึงถามว่า  “สาลิกาจ๋า เธอมีปีกนี่จ๊ะ ก็เธอบินไม่เป็น หรือพระราชาห้ามเธอไว้ บอกได้ไหมจ๊ะ”
 
    “พระองค์ไม่เคยห้ามข้าหรอก และข้าก็บินได้เหมือนท่านนั่นแหละ แต่ที่ข้าไม่ไปก็เพราะสำนึกในความเป็นหญิงของตน จึงห้ามใจตนเองมิให้เที่ยวไปลำพัง เพราะโลกภายนอกอันตรายนัก ภัยของหญิงก็มีมากเหลือเกิน เกิดเป็นหญิงพึงรักนวลสงวนตัวไว้จึงจะงาม มิใช่หรือ” นางตอบอย่างไว้เชิง
 
    “โอว...สาลิกาจ๋า เธอช่างดีเหลือเกิน ฉันได้คุยกับนางนกสาลิกามามากต่อมาก ยังไม่เคยเห็นใครที่ทั้งสวยและจิตใจงดงามอย่างเธอมาก่อน” คำป้อยอของสุวโปดกเห็นจะถูกอกถูกใจของนางสาลิกาอย่างมาก มิตรภาพแรกพบระหว่างนกทั้งสองกำลังเป็นไปได้อย่างสวยงาม ด้วยวาจาอันไพเราะที่ต่างฝ่ายต่างมีให้ซึ่งกันและกัน
 
    อุบายขั้นแรกของสุวโปดก ถือว่าผ่านไปได้ด้วยดีทีเดียว ส่วนว่าสุวโปดกจะมีวิธีพิชิตใจนางนกสาลิกาขั้นลึกซึ้งอย่างไรนั้น โปรดติดตามตอนต่อไป
 
พระธรรมเทศนาโดย: พระราชภาวนาวิสุทธิ์ (ไชยบูลย์ ธมฺมชโย)


Desktop Version Desktop Version    



บทความที่เกี่ยวข้อง
ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 154ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 154

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 155ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 155

ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 156ทศชาติชาดก เรื่อง มโหสถบัณฑิต ผู้ยิ่งด้วยปัญญาบารมี ตอนที่ 156



Home

อ่านธรรมะ

ธรรมะมาแรง

ทศชาติชาดก