กระแสชวนบวช...มาแรงเกินคาด

 

 

 

        น้องบอมเล่าว่า “มีผู้นำบุญมาชวนบวชตั้งแต่รุ่นแรก จากนั้นก็ติดใจมาบวชแบบไม่เว้นวรรค และช่วยงานด้านคอมพิวเตอร์ของศูนย์อบรมอย่างต่อเนื่องมาทุกรุ่น แถมยังบุกลุยชวนบวชร่วมกับเหล่าอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนแบบถึงลูกถึงคน กล่าวคือ ในแต่ละวัน จะแบ่งสมาชิกเป็น 3-4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มก็จะมีสมาชิกประมาณ 5-10 คน ลงพื้นที่น็อคดอร์ตามบ้าน โดยมีรถแห่กระจายเสียงนำร่องไปก่อนที่จะบุกเข้าประชิดตัวเพื่อเอาโบร์ชัวร์ไปแจก และไม่ว่าจะเจอใครก็ไม่มองข้าม ถ้าเจอชายแมนแมนก็ชวนบวชพระ เจอผู้หญิงก็ชวนบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน แต่ถ้าไม่ใช่ชายจริงหญิงแท้ ก็ยังไม่ชวนค่ะ...

 

 

 

        ถ้าหากเจอคนยียวนหน้าบึ้ง ก็จะทำเนียนๆยกมือไหว้ และพูดคุยราวกับรู้จักกันมานาน ซึ่งวิธีนี้ใช้สำเร็จมาเยอะแล้วค่ะ ตัวอย่างเช่น แม่ค้าขายขนมครกคนหนึ่ง พอใช้วิธีนี้ ก็ยอมสมัครบวชทันทีพร้อมลูกสาว หนำซ้ำยังขอแผ่นพับชวนบวชไปแจกลูกค้าที่มาซื้อขนมครกด้วย จากนั้น เราบุกลุยไปยังค่ายธนะรัชต์ ไปที่บ้านพักของทหาร เพราะคิดว่าทหารเขามีสปิริต (Spirit) เพราะขนาดชาติเสือยังไว้ลาย ดังนั้นชาติชายก็ต้องมาบวช จึงทำให้ชวนทหารมาบวชได้มากถึง 15 คน แต่เนื่องจากทหารก็มีหัวใจ แถมหัวใจยังปักอักษรย่อว่า “รมต” ย่อมาจาก “รักเมียตลอดไป” ด้วยเหตุนี้จึงส่งบรรดาแม่บ้านทหารบกมาสมัครบวชอุบาสิกาแก้วด้วยถึง 10 กว่าคนค่ะ”

 

 

        ส่วนผู้นำบุญรุ่นเก๋า กัลฯศุภนันท์ กระสินพันธุ์ หรือ ป้านันท์ ได้เล่าว่า “กระแสการตอบรับของการชวนบวชในครั้งนี้ดีเกินคาด เพราะเขารู้จักโครงการของเรามานานแล้ว เนื่องจากจัดบวชอย่างต่อเนื่องมาหลายรุ่น อีกทั้งหลายรุ่นที่บวชไป ก็สร้างชื่อเสียงไว้ดี คือ กลับไปแล้วเปลี่ยนแปลงเป็นคนดีขึ้น จนเกิดการบอกต่อ ทำให้ในครั้งนี้ชวนบวชได้ง่าย แม้แต่ฝากบอกเด็ก ป. 6 ที่ไม่รู้จักกันว่า “ให้ไปตามแม่มาบวชนะ” แล้วก็เอาเบอร์โทรศัพท์ให้ไป ซึ่งพอแม่ได้รับเบอร์โทรศัพท์ปุ๊บก็โทรมาสมัครบวชปั๊บ แถมยังชวนญาติพี่น้องมาสมัครบวชกันยกใหญ่ จนตอนนี้ ได้ยอดผู้สมัครบวชอุบาสิกาแก้ว 50 กว่าคนแล้วค่ะ ส่วนชายแมนแมนก็ส่งใบสมัครบวชจนยอดพุ่งตามมาอย่างติดๆที่ 50 กว่าคนเช่นกันค่ะ”