พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
บุรุษท่านนี้ออกสำรวจในทุกตารางนิ้วเพื่อไตร่ถามถึงทุกข์ สุข ของทุกคนไม่ว่าจะยามฝนตก หรือแดดออก ไม่ว่าพื้นที่แห่งนั้นจะอยู่ห่างไกล หรือทุรกันดาลเพียงใดท่านก็ยังเดินทาง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยคิดถึงแต่ความยากลำบากของผู้อื่น มากกว่าความยากลำบากของตนเอง มุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นแผ่นดินที่แห้งแล้ง ให้เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์เป็นผู้ให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน และการให้ของท่าน ก็ไม่ใช่การให้ที่ผู้ได้รับใช้แล้วหมดไป แต่เป็นการให้เพื่อวางรากฐานให้ผู้ได้รับสามารถอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
แต่การที่คนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างพวกเราบางคน อาจจะไม่รู้ว่าบุรุษท่านนี้ได้สร้างอะไรไว้มากมาย ให้กับแผ่นดินนี้ คงเป็นว่าการเวลาทำให้เราไม่ได้เห็นท่านทำงานหนักเหมือนอย่างทุกวันนี้ แต่สิ่งที่ไม่เคยลดน้อยลงไป และกลับจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำนั้นก็คือ ความห่วงใยของท่านที่มีต่อทุกข์ สุข ของคนในผืนแผ่นดินไทย
ดังนั้น ความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ จึงไม่ใช่ความโชคดีอย่างแน่นอนแต่หากจะนับสิ่งนึง ที่ถือเป็นความโชคดี นั้นก็คือพวกเราทุกคนโชคดี ที่ได้บุรุษที่ยึดมั่น และรักษาคำพูดของตนมาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
แม้จะเป็นเพียงคำตรัสสั้น ๆ แต่ก็เป็นคำตรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงยึดมั่นมาตลอดและพระองค์ยังคงยึดมั่นคำตรัสนี้ ตราบจนทุกวันนี้ คำตรัสสั้น ๆ นั้นก็คือ
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
คนรุ่นหลังอย่างพวกเรา อาจคิดว่าพวกเราโชคดีที่ได้เกิดมาบนผืนแผ่นดินไทย
ที่ ๆ สมบูรณ์กว่าแผ่นดินในอีกหลายประเทศ แต่ถ้าไปถามคนรุ่นคุณปู่ คุณย่าของพวกเรา
พวกท่านก็จะบอกว่าความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย
แต่มันมาจากน้ำพักน้ำแรงของบุรุษท่านนึง บุรุษที่ทำงานหนักมากว่า 61 ปี
เพื่อสิ่ง ๆ เดียว นั้นก็คือความอยู่เย็นเป็นสุขของพวกเราชาวไทยทุกคน
ที่ ๆ สมบูรณ์กว่าแผ่นดินในอีกหลายประเทศ แต่ถ้าไปถามคนรุ่นคุณปู่ คุณย่าของพวกเรา
พวกท่านก็จะบอกว่าความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ไม่ได้เกิดจากโชคช่วย
แต่มันมาจากน้ำพักน้ำแรงของบุรุษท่านนึง บุรุษที่ทำงานหนักมากว่า 61 ปี
เพื่อสิ่ง ๆ เดียว นั้นก็คือความอยู่เย็นเป็นสุขของพวกเราชาวไทยทุกคน
บุรุษท่านนี้ออกสำรวจในทุกตารางนิ้วเพื่อไตร่ถามถึงทุกข์ สุข ของทุกคนไม่ว่าจะยามฝนตก หรือแดดออก ไม่ว่าพื้นที่แห่งนั้นจะอยู่ห่างไกล หรือทุรกันดาลเพียงใดท่านก็ยังเดินทาง อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย โดยคิดถึงแต่ความยากลำบากของผู้อื่น มากกว่าความยากลำบากของตนเอง มุ่งมั่นที่จะพลิกฟื้นแผ่นดินที่แห้งแล้ง ให้เป็นแผ่นดินที่อุดมสมบูรณ์เป็นผู้ให้ที่ไม่หวังผลตอบแทน และการให้ของท่าน ก็ไม่ใช่การให้ที่ผู้ได้รับใช้แล้วหมดไป แต่เป็นการให้เพื่อวางรากฐานให้ผู้ได้รับสามารถอยู่ต่อไปได้อย่างยั่งยืน
แต่การที่คนรุ่นลูกรุ่นหลานอย่างพวกเราบางคน อาจจะไม่รู้ว่าบุรุษท่านนี้ได้สร้างอะไรไว้มากมาย ให้กับแผ่นดินนี้ คงเป็นว่าการเวลาทำให้เราไม่ได้เห็นท่านทำงานหนักเหมือนอย่างทุกวันนี้ แต่สิ่งที่ไม่เคยลดน้อยลงไป และกลับจะมีมากขึ้นด้วยซ้ำนั้นก็คือ ความห่วงใยของท่านที่มีต่อทุกข์ สุข ของคนในผืนแผ่นดินไทย
ดังนั้น ความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินนี้ จึงไม่ใช่ความโชคดีอย่างแน่นอนแต่หากจะนับสิ่งนึง ที่ถือเป็นความโชคดี นั้นก็คือพวกเราทุกคนโชคดี ที่ได้บุรุษที่ยึดมั่น และรักษาคำพูดของตนมาเป็นพระเจ้าแผ่นดิน
แม้จะเป็นเพียงคำตรัสสั้น ๆ แต่ก็เป็นคำตรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงยึดมั่นมาตลอดและพระองค์ยังคงยึดมั่นคำตรัสนี้ ตราบจนทุกวันนี้ คำตรัสสั้น ๆ นั้นก็คือ
"เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม"
Desktop Version
