ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ.2554
ความสว่างที่กลับมา พระพุทธศาสนาที่กลับคืน
Change the World in Mongolia
ตอน ความสว่างที่กลับมา พระพุทธศาสนาที่กลับคืน
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
กราบนมัสการคุณครูไม่ใหญ่ที่เคารพอย่างสูงค่ะ
บัตรเข้างานอบรมพัฒนาศักยภาพ วิทยากร คือ คุณมกร เชาน์วาณิชย์
จากบริษัท Cerebrum Design
พระอาจารย์ให้ธรรมะ นำนั่งสมาธิ ต่อด้วยการทำ Workshop
เรื่อง “เครื่องมือในการแก้ปัญหา”
สำหรับน้อง IBS ที่รักการปฏิบัติธรรม ยังได้มารวมตัวกันทุกวันตอนหัวค่ำ เป็นเวลาเจ็ดวัน ตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน - 2 พฤษภาคม พ.ศ.2554 โดยพระอาจารย์จะเทศน์สอนในหัวข้อธรรมะต่างๆ เช่น เรื่องของใจ, บุญกิริยาวัตถุ 10, 5 ห้องเปลี่ยนนิสัย, กฎแห่งกรรม เป็นต้น และนั่งสมาธิร่วมกัน จนทำให้น้องๆหลายคนมีผลการปฏิบัติธรรมที่ดี เช่น น้องไนน่า เล่าให้ฟังว่า "หนูนั่งสมาธิครึ่งชั่วโมง แต่รู้สึกว่าเวลาผ่านไปเร็วมาก หนูไม่อยากให้พระอาจารย์บอกให้เลิกเลย อยากนั่งต่อ หนูเห็นพระอาทิตย์อยู่ข้างในท้อง ทำให้รู้สึกมีพลังอย่างมากค่ะ"
แกนนำ IBS of Mongolia นั่งสมาธิรวมใจก่อนวันงาน
น้องไนน่า "หนูเห็นพระอาทิตย์อยู่ข้างในท้อง ทำให้รู้สึกมีพลังอย่างมากค่ะ"
สำหรับบรรยากาศการเตรียมงานวิสาขบูชาในปีนี้ จะเรียกว่า ฮิตติดกระแสก็ว่าได้ ปีนี้จัดกันในสนามกีฬาของเมืองหลวงกรุงอูลานบาตอร์ และยังเป็นงานที่เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมอย่างมากมายอีกด้วย เพราะในแต่ละวัน จะมีแกนนำ IBS มาร่วมจัดงานอย่างคึกคัก บางวันชักชวนเพื่อนนักศึกษามาได้ถึง 300 คน ช่วยกันหล่อเทียน ตอกเสา ติดถ้วยประทีป นับเป็นเรื่องที่น่าแปลกอย่างหนึ่งว่า ตั้งแต่หมู่คณะของเรามาจัดงานวิสาขบูชาที่มองโกเลีย จนถึงครั้งนี้เป็นปีที่ 4 แล้ว พบว่าประเทศมองโกเลียเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เศรษฐกิจและค่าเงินก็สูงขึ้น จนเป็นที่ยอมรับของพวกเขาว่า “การเผยแผ่พระพุทธศาสนา วิชชาธรรมกาย ไปที่ใด ที่นั้นก็จะมีความเจริญเกิดขึ้น”
เทียนทรงกลมดั่งดวงธรรมจากผลงานนักศึกษามองโกล
แกนนำ IBS และนักศึกษามองโกล ร่วมแรงร่วมใจกันตอกเสา ปักโคม
แกนนำ IBS และนักศึกษามองโกล นั่งสมาธิกลางสนาม ณ สนามกีฬาแห่งชาติ
นักศึกษาหลายร้อยชีวิตกำลังซึมซับพระพุทธศาสนา และร่วมใจกันจัดงานวิสาขบูชา
เมื่อวันวิสาขบูชามาถึง สิ่งแรกที่สัมผัสได้ คือ บรรยากาศในปีนี้ช่างเป็นใจอย่างมาก อากาศปลอดโปร่งโล่งสบาย ไม่มี ลม หิมะ หรือฝน เหมือนปีที่ผ่านๆมา และถึงแม้อากาศจะประมาณ 10 องศาเซลเซียส แต่นั่นก็ไม่ทำให้จิตใจของใครๆถดถอย ผู้คนทยอยมากันอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่แย่งกันเข้างาน และจากการที่พระอาจารย์และทีมงานค่อยๆปลูกฝังวัฒนธรรมชาวพุทธ สาธุชนชาวมองโกล ต่างอยู่ในอาการสงบ ตั้งใจฟังสาส์นจากพระเดชพระคุณพระราชภาวนาวิสุทธิ์ ซึ่งอ่านโดย พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ และพิธีกรได้กล่าวแปลเป็นภาษามองโกเลียอีกทอดหนึ่ง
พระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ
หลังจากนั้นเป็นการกล่าวสุนทรพจน์จากแขกผู้มีเกียรติ ที่ได้กล่าวถึงความสำคัญของวันวิสาขบูชา และกล่าวชื่นชมว่า "ถึงแม้ช่วงหนึ่งในมองโกเลีย พุทธศาสนาจะเป็นสิ่งต้องห้าม แต่เมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครอง ชาวมองโกลต่างทุ่มเทในการฟื้นฟูพุทธศาสนาให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้งหนึ่ง เป็นตัวอย่างของชนชาตินักรบผู้มีชัยชนะอย่างแท้จริง" สาธุชนชาวมองโกลยังได้นั่งหลับตาเบาๆอย่างสงบนิ่ง ตลอดเวลากว่า 30 นาที แม้แต่เด็กเล็กๆก็นั่งกันนิ่ง ปล่อยใจดิ่งเข้าไปภายในตามเสียงนำนั่งสมาธิเป็นภาษาอังกฤษของพระครูปลัดภูเบศ ฌานาภิญโญ ซึ่งแต่ก่อนชาวมองโกลเชื่อว่า “การนั่งสมาธิเป็นของสูง ทำได้เฉพาะพระลามะ” แต่ ณ วันนี้ ทุกคนรู้แล้วว่า “สมาธิเป็นสิ่งที่ทุกคนปฏิบัติได้ และจะพบกับความสุขภายในเช่นเดียวกัน”
ชาวมองโกลพร้อมใจกันนั่งสมาธิด้วยความสงบ
ในที่สุด เมื่อใจใสสว่างดีแล้วก็ถึงไฮไลท์สำคัญ โคมลานทั่วสนามกีฬาและอัฒจันทร์ ทยอยกันจุดขึ้นจนสว่างไสว ก่อนที่โคมลอยจะค่อยๆลอยสูงขึ้นสู่ฟากฟ้า ประดับประดาด้วยแสงพลุหลากสีที่กำลังสว่างไสว นำความปลื้มปีติใจ ตื้นตันใจ จนบางคนไม่อาจกลั้นน้ำตาแห่งความปีติใจไว้ได้ ที่ได้มากระทำการบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในวันนี้ การจุดโคมลานและโคมลอยนั้น นับว่าเข้ากับวัฒนธรรมมองโกเลียเป็นอย่างมาก เพราะชาวมองโกลเชื่อว่าการจุดโคมประทีปบูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นบุญใหญ่มหาศาล ทำให้เกิดดวงปัญญา รู้แจ้งในสัจธรรม ความเป็นจริงของชีวิต
โคมลานทั่วสนามกีฬาและอัฒจันทร์ ทยอยกันจุดขึ้นจนสว่างไสว
พลังศรัทธาชาวพุทธที่สว่างแม้ยามราตรี
ไม่เพียงแค่หมู่คณะของเราเท่านั้น ปีนี้ยังมีวัดอีกหลายแห่งในมองโกเลียจัดพิธีจุดประทีปเป็นพุทธบูชาพร้อมๆกันด้วย แสดงให้เห็นว่า “พวกเราได้กลายเป็นต้นบุญต้นแบบ ที่ทำให้ประเพณีจุดโคมวิสาขประทีปเกิดขึ้นแล้วในมองโกเลียอย่างแท้จริง”
โคมลอยค่อยๆลอยสูงขึ้นสู่ฟากฟ้า ดั่งพระพุทธศาสนาจะรุ่งเรืองครั้งใหม่
ทุกคนมีแต่ความปลื้มปีติใจที่ได้บูชาพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
ช่างเป็นภาพความประทับใจที่ไม่รู้ลืมของทั้งผู้ร่วมงาน และทีมงานทุกคน ที่ต่างสัญญากันว่า “เราจะมาเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชาที่ประเทศมองโกเลียร่วมกันอีกทุกๆปี และตลอดไป” ด้วยความเมตตาอันยิ่งใหญ่ของคุณครูไม่ใหญ่ที่ปรารถนาจะฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ทำให้ในวันนี้ชาวมองโกลได้พบกับแสงสว่างของชีวิตอีกครั้ง ซึ่งในวันนี้ เราจะได้ชมเรื่องราวผ่านสกู๊ปพิเศษ โดยคุณตามังกัส และคุณยายกันทูเม่อร์ มีชื่อตอนว่า “ความสว่างที่กลับมา พระพุทธศาสนาที่กลับคืน”
คุณตามังกัส และคุณยายกันทูเม่อร์ ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านสกู๊ปพิเศษ
กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูง
พญ.วราธิป โอทกานนท์